หลายองค์กรตื่นตัวเรื่องการปกป้องและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกับการดำเนินธุรกิจอย่างไรให้ยั่งยืน อันดับแรกคือการสร้างความตระหนักรู้ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่ว่า ประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 6 ที่มีพลาสติกมากที่สุดในโลก ยิ่งทำให้การรณรงค์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและลดขยะพลาสติกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีขยะพลาสติกและโฟมเฉลี่ยที่ 2.7 ล้านตัน/ปี แบ่งเป็นขยะโฟมประมาณ 700,000 ตัน และขยะพลาสติก ประมาณ 2 ล้านตัน เช่น ถุงร้อน ถุงเย็นบรรจุอาหาร ถุงหูหิ้ว กล่องขวด เป็นต้น
บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) นับเป็นองค์กรที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อม จึงได้ประกาศความเป็นผู้นำทางธุรกิจค้าส่งไทยรายแรกที่ “หยุดจำหน่าย” ภาชนะโฟมใส่อาหาร ใน 12 สาขาทั่วประเทศ รับวันคุ้มครองโลก 22 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อตอกย้ำนโยบาย “แม็คโครรักษ์สิ่งแวดล้อม” ผ่านโครงการ Say Hi to Bio, Say No to Foam แม็คโครรักษ์โลก ชวนคุณใช้ผลิตภัณฑ์รักสิ่งแวดล้อม
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
“ศิริพร เดชสิงห์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาด บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า 1 ในเป้าหมายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของแม็คโคร ก็คือการลดผลกระทบและส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเรายึดหลักการทำธุรกิจแบบยั่งยืนมาโดยตลอด โดยที่ผ่านมา แม็คโครเป็นศูนย์ค้าส่งรายเดียวในประเทศไทย
ที่มีนโยบายชัดเจนในเรื่องการไม่ให้ถุงพลาสติกแก่ลูกค้า เพื่อช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม เพราะปริมาณขยะที่เกิดจากพลาสติกที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และสร้างผลกระทบระดับโลก ทำให้แม็คโครมุ่งศึกษาและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ทดแทนพลาสติกและโฟม และหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้นตามความต้องการของตลาดเพื่อสร้างทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์จากชานอ้อย เส้นใยพืช กระดาษ และเส้นใยยูคาลิปตัส จำหน่ายภายใต้ตรา ARO พร้อมกับการจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษ 10-40% อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีเพื่อสร้างแรงจูงใจ และพิเศษสำหรับ 12 สาขานำร่อง ลดราคาสูงถึง 20- 50% ในวันที่ 19-21 เมษายนที่ผ่านมา
สำหรับ 12 สาขาที่หยุดจำหน่ายภาชนะโฟมบรรจุอาหาร เป็นแม็คโครสาขาที่อยู่ใกล้บริเวณแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล คือ สาขาภูเก็ต, สาขากระบี่, สาขาถลาง, สาขาสมุย, สาขาราไวย์, สาขาละมัย, สาขาพะงัน, สาขาป่าตอง, สาขาเกาะช้าง, สาขาอ่าวนาง, สาขากะรน และสาขาบ้านเพ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ภาครัฐได้กำหนดเรื่องการจัดการขยะเป็น “วาระแห่งชาติ” โดย “วิจารย์ สิมาฉายา” ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรฯได้จัดทำโรดแมปการจัดการขยะพลาสติกปี 2561-2573 ยึดกรอบแนวคิดและหลักการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
อีกทั้งยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่มีเป้าหมายเลิกใช้พลาสติก-กล่องโฟมบรรจุอาหารต่าง ๆ ภายในปี 2565 และยังกำหนดกรอบแนวทางการดำเนินงานของทุกภาคด้วย 4 มาตรการ คือ 1) เลิก 2) ลด 3) ใช้นวัตกรรมใหม่ และ 4) คัดแยกและกำจัดอย่างถูกวิธี
นับว่าผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมภายใต้แบรนด์ ARO ของแม็คโครต้องการเน้นให้กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้ค้ารายย่อย หันมาใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น ถือว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของแม็คโครที่ทำให้ผู้บริโภคได้ใช้ผลิตภัณฑ์บรรจุอาหารที่ปลอดภัย และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม