“ลอรีอัล” ผนึก Station F หานวัตกร+ทักษะผู้ประกอบการ

“โครงการลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม” ของบริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) ดำเนินการต่อเนื่องมากว่า 16 ปี เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างคนเพื่อรองรับธุรกิจของลอรีอัล ในประเทศไทย โดยเป้าหมายที่เด่นชัดในปีนี้ คือ ลอรีอัลต้องการเป็นองค์กรที่ส่งเสริมไมนด์เซตการเป็นผู้ประกอบการให้กับพนักงาน หรือการเป็นองค์กรที่เรียกว่า intrapreneur ที่พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ คิดและทำด้วยตัวเอง โดย “ธนยศ ครุฑระเบียบ”

ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ไมนด์เซตในแบบ intrapreneur จะถูกเชื่อมโยงไปกับหลายหน่วยงานและหลายโครงการของบริษัท เช่น โครงการลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม ที่ทำหน้าที่สนับสนุน บ่มเพาะคนรุ่นใหม่ให้สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด และรู้จักการบริหารจัดการที่รอบด้านเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เป็นที่ยอมรับ พร้อมกับให้ “ทุนสนับสนุน” กับไอเดียมาทำให้เกิดขึ้นจริงโดยลอรีอัล

“ธนยศ” กล่าวอีกว่า โครงการนี้เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1992 โดย บริษัท ลอรีอัล กรุ๊ป ใช้โครงการให้เป็นเสมือนเวทีโชว์ไอเดียของนักศึกษาทุกระดับชั้นโดยไม่จำกัดสาขา แต่มีความสนใจงานด้านนวัตกรรมและการตลาด โดยในปีที่ 16 นี้ ลอรีอัล แบรนด์สตอร์มมีความแตกต่างจากปีก่อน ๆ เพราะเป็นปีแรกที่ให้ทีมผู้ชนะการแข่งขันระดับโลกได้ประสบการณ์ทำงานที่ Station F เป็นเวลา 3 เดือนเต็ม ที่ลอรีอัลให้ความสำคัญกับ Station F เนื่องจากเป็นองค์กรที่สนับสนุนผู้ประกอบการ startup โดยเฉพาะ เป็นสถาบันที่บ่มเพาะธุรกิจ startup ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ก่อตั้งและสนับสนุนโดยผู้ประกอบการชั้นนำด้านเทคโนโลยี ซาเวียร์ นีล (Xavier Niel) และตั้งแต่ตุลาคม 2017 ลอรีอัล กรุ๊ปได้ร่วมเป็นหนึ่งในพาร์ตเนอร์ของ Station Fทั้งลอรีอัล กรุ๊ป ร่วมกับ Station F ในการร่วมพัฒนาสตาร์ตอัพในอุตสาหกรรมดิจิทัลและความงามระดับโลก ภายใต้ความร่วมมือกันในครั้งนี้ ลอรีอัลจะเป็นหนึ่งในยูนิตด้านความงาม (accelerator) โดยจะสนับสนุนด้านการเงินให้แก่ 62 เวิร์กสเตชั่น พร้อมสนับสนุนด้านการให้ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านความงามและการตลาดแก่บริษัทสตาร์ตอัพที่ได้รับเลือก รวมถึงการสร้างเครือข่ายและให้คำปรึกษาแก่กลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและทีมดิจิทัล

“Station F จะช่วยให้ลอรีอัลสามารถเชื่อมโยง เปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือใหม่ ๆ พร้อมทั้งได้สนับสนุนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะขึ้นมาเป็นผู้ประกอบการด้าน digital beauty ซึ่งการไปเข้าอบรมที่ Station F ของน้อง ๆ ในโครงการลอรีอัล แบรนด์สตอร์มจะช่วยให้น้อง ๆ ได้พัฒนาไอเดียให้เป็นธุรกิจ พร้อมรับการเมนเทอร์อย่างเข้มข้นจากผู้เชี่ยวชาญของลอรีอัล” ธนยศกล่าว

สำหรับทีมที่เป็นตัวแทนจากประเทศไทยไปแข่งขัน ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม ระดับโลกในปีนี้ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในเดือนพฤษภาคม 2019 คือ THE THREE MUSKETEERS จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อลุ้นชิงรางวัลประสบการณ์การทำงานที่ฝรั่งเศส ณ Station F ฮับสตาร์ตอัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยในทีมประกอบด้วย นพรุจ กรุงไกรเพชร, วราลี ธนะนิวิฐ และพิมพ์พัชร จันเทรมะ นักศึกษาจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ชั้นปีที่ 4 โดยหากน้อง ๆ ชนะการแข่งขันระดับโลกก็จะได้รับโอกาสในการนำเสนอผลงานของทีม (pitch) ครั้งสุดท้ายกับผู้บริหารระดับสูง เพื่อโอกาสในการแปลงไอเดียให้เป็นรูปเป็นร่างผลิตภัณฑ์จริง (prototype)

“การพัฒนาทักษะผู้ประกอบการให้กับน้อง ๆ ที่ร่วมเข้าแข่งขันในโครงการลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม ก็เป็นเหมือนการปูทางบุคลากรของเราในอนาคต เพราะที่ผ่านมามี ex brandstormer (ผู้ที่เคยผ่านการแข่งขันในโครงการ) กว่า 50 คนมาเป็นพนักงานของลอรีอัล (ประเทศไทย) และได้เติบโตในสายงานต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ น้อง ๆ ส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการมีเป้าหมายอยากทำงานกับเรา เพราะลอรีอัลเป็นที่รู้จักดีในสายงานการตลาด สามารถสื่อสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กับลูกค้าได้ดี เป็นที่ยอมรับ ทำให้โครงการลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม เป็นที่สนใจของคนรุ่นใหม่ และที่ผ่านมามีนักศึกษาในไทยจำนวนกว่า 522 คน จาก 10 มหาวิทยาลัย เข้าร่วมแข่งขันในโครงการนี้”

“ธนยศ” กล่าวด้วยว่า โครงการดังกล่าวไม่ได้กำหนดสาขาเรียนของผู้เข้าร่วมแข่งขัน เพราะเชื่อว่าในแต่ละทีมมีคนที่มีทักษะหลายด้าน ๆ และนักศึกษาจากต่างสาขาวิชาจะมีความเชี่ยวชาญต่างกันไป ทำให้ร่วมมือกันสร้างสรรค์สินค้าใหม่ ๆ ได้ดี แต่โจทย์สำคัญคือการที่ทุกคนต้องรู้ภาพองค์รวมของการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ แก่นักลงทุนมากกว่าสิ่งสำคัญที่น้อง ๆ ต้องมี คือ passion ความสุขในการทำงาน และมองตัวเองว่าเป็นเจ้าของธุรกิจ เพราะพวกเขาจะเป็นคนที่เริ่มต้นคิดว่าจะเอาอะไรมาขาย โดยยังมีผลิตภัณฑ์อีกมากในเครือลอรีอัลที่ยังไม่ได้นำเข้ามาในไทย ซึ่งลอรีอัล ประเทศไทย ตอนนี้จัดจำหน่ายอยู่ 22 แบรนด์ระดับสากล และยังมีแบรนด์อีกมากมายภายใต้ 4 แผนกผลิตภัณฑ์ที่เราสามารถเลือกมาจำหน่ายได้อีก ได้แก่ แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค, แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง, แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ และแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง

ในตอนท้ายว่า “ธนยศ” กล่าวว่า ลอรีอัล ประเทศไทย มีพนักงานกลุ่มมิลเลนเนียลกว่า 50% และส่วนใหญ่พนักงานสายงานตลาดเคยผ่านโครงการลอรีอัล แบรนด์สตอร์มมาแล้ว เด็กกลุ่มนี้จะมีความคิดแบบผู้ประกอบการสูง ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ดังนั้น สิ่งที่เราใช้ดึงดูดพวกเขาให้อยู่กับองค์กร คือ การส่งเสริมการเติบโตในสายงานต่อไปในอนาคต