คอลัมน์ HR Corner
โดย ธำรงศักดิ์ คงคาสวัสดิ์ http://tamrongsakk.blogspot.com
- บัตรเครดิตซิตี้ ย้ายไป UOB บัตรประเภทไหน เปลี่ยนแปลงอย่างไร
- คำแนะนำจาก ซีอีโอ “ฮั่วเซ่งเฮง” ยุคทอง (โคตร) แพง ต้องลงทุนอย่างไร ?
- Q1 “ITD” สะเทือน 4 แบงก์ใหญ่ ส่อตั้งสำรองเพิ่ม-กำไรหด
ถ้าเราอยากจะรู้ว่าใครมีความรู้ในเรื่องนั้น ๆ มาก-น้อยแค่ไหนให้ดูจากคำตอบแต่ถ้าเราอยากจะรู้ว่าใครฉลาดแค่ไหน ให้ดูจากคำถามของเขา
ถ้าเราหวังให้คำตอบมีคุณภาพ คำถามก็จะต้องมีคุณภาพเสียก่อน เพราะถ้าคำถามยังไม่มีคุณภาพแล้วเราจะหวังให้คำตอบดีมีคุณภาพได้ยังไง ? ลองมาดูตัวอย่างกันไหมครับว่าคำถามสำคัญกว่าคำตอบยังไง และถ้าตั้งคำถามได้ดีแล้วเราจะได้คำตอบที่ดีได้ยังไง
คำถาม : “ทำไมหัวหน้าถึงไม่ promote เรา”
ถ้าตั้งคำถามอย่างนี้จะเกิดอะไรขึ้น
1.เราจะคิดว่าเราทำงานดีจะเกิดอีโก้เกิดความเชื่อว่า “กูแน่” เชื่อว่าเราก็มีความรู้ความสามารถดีขนาดนี้แล้วทำไมหัวหน้าถึงไม่เสนอเลื่อนตำแหน่งให้เรา
2.เราจะคิดลบกับหัวหน้าและจะโกรธ คิดตำหนิหัวหน้า บางคนอาจจะไปโวยวายกับหัวหน้าแล้วก็จะมีดราม่าอีกยาว
3.เราคิดลบกับฝ่ายบริหารที่ไม่เห็นฝีมือเรา
4.บางคนอาจจะมีทัศนคติเชิงลบแบบตำหนิตัวเองว่าเราคงห่วยเอง เราคงทำงานไม่ดี ชาตินี้เราคงไม่ก้าวหน้าไปไหนแน่ ๆ แล้วก็อาจจะเลยไปถึงขาดความเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเองในที่สุด
5.ใจเราจะไม่มีความสุขในการทำงาน ทัศนคติต่องานต่อหัวหน้าต่อผู้บริหารและต่อบริษัทเริ่มมีปัญหา
แต่…ถ้าเราลองเปลี่ยนการตั้งคำถามใหม่ล่ะ ?
คำถาม : “ทำอย่างไรเราถึงจะได้ promote”
ถ้าตั้งคำถามอย่างนี้จะเกิดอะไรขึ้น
1.กลับมาสำรวจตัวเองว่า เรายังมีข้อบกพร่องตรงไหนบ้างที่ทำให้เรายังไม่ได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง
2.เกิดการปรับปรุงพัฒนาตัวเองแก้ไขข้อบกพร่อง (ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบโดยไม่มีข้อบกพร่อง) ทำให้เรามีความรู้ความสามารถเพิ่มมากขึ้น
3.ถ้าหากเราปรับปรุงพัฒนาตัวเองให้มีความรู้ความสามารถมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว หัวหน้าคนปัจจุบันยังไม่เห็นและยังไม่เสนอเลื่อนตำแหน่ง ก็อาจจะมีหัวหน้าในหน่วยงานอื่นเห็นจะขอตัวไปทำงานด้วยและเสนอ promote ต่อไป
4.แต่ถ้าในองค์กรปัจจุบันยังไม่เห็นว่าเรามีฝีมือมีความรู้ความสามารถและยังไม่เลื่อนตำแหน่ง เรายังสามารถนำความรู้ความสามารถที่มีไปเสนอกับองค์กรใหม่ (คือการไปหางานใหม่นั่นแหละครับ) ซึ่งแน่นอนว่าในการได้งานใหม่เราควรจะต้องมีตำแหน่งและเงินเดือนที่ดีขึ้นกว่าเดิมทำให้เราก้าวหน้าขึ้น
5.ไม่เกิดทัศนคติทางลบต่อหัวหน้าหรือต่อองค์กร แต่เราจะมีทัศนคติในการพัฒนาตัวเราเองให้ดีกว่าเดิมและเกิดความเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเองมากยิ่งขึ้น
จากตัวอย่างง่าย ๆ ข้างต้นผมเชื่อว่าท่านคงพอมองเห็นความสำคัญของการตั้งคำถามที่จะทำให้เรามีทัศนคติที่ดีขึ้นในเชิงบวกแล้ว เมื่อเห็นความสำคัญอย่างนี้แล้วคราวต่อไป เวลาจะตั้งคำถามอะไรก็ตามกับคนอื่นหรือกับตัวเองลองคิดให้ดี ๆ ก่อนที่จะตั้งคำถามนะครับเพราะคำตอบที่ดีจะมาจากการตั้งคำถามที่ดีอยู่เสมอครับผมเชื่ออย่างนั้น
ป.ล.ที่เขียนเรื่องนี้เพราะมักจะเห็นคนตั้งคำถามประเภท “บริษัทให้เงินเดือนแค่เนี้ยจะพอกินเหรอ” แทนที่จะตั้งคำถามใหม่ว่า “ทำอย่างไรเราถึงจะมีรายได้เพิ่มขึ้น” ซึ่งคำตอบที่ได้ออกมาจะแตกต่างกันอย่างแน่นอนครับ