AP Design Thinking เปิด 3 นวัตกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต

หลังจากที่ “เอพี ไทยแลนด์” ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และนวัตกรรมการอยู่อาศัยของเมืองไทยนำกระบวนการ “Stanford Design Thinking” เข้ามาปรับใช้กับการทำงานภายในองค์กร ตลอดจนการคิดค้นสินค้า และบริการใหม่ ๆ เพื่อนำพาองค์กรรอดจากกระแสดิสรัปชั่น จนทำให้รายได้ในปี 2561 ผ่านมาเติบโตขึ้นกว่า 30% โดยอยู่อันดับ 2 ของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้สูงสุด

นอกจากนั้น เอพี ไทยแลนด์ ยังประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ “AP WORLD, A Vision for Quality of Life” เพื่อเป็นผู้นำในการริเริ่มสร้างสรรค์พิมพ์เขียวแห่งคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อทุกคนในสังคมในวันข้างหน้า

โดยล่าสุด เอพี ไทยแลนด์ เปิดตัว 3 นวัตกรรมบริการแห่งคุณภาพชีวิต ที่ถูกสร้างสรรค์ และพัฒนามาจากกระบวนการ Stanford Design Thinking เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ยังไม่ถูกตอบสนอง ซึ่งบริหารงานโดยทีมงานมืออาชีพ อย่าง “เคลย์มอร์ (CLAYMORE)” และ “เอสอีเอซี (SEAC)” ประกอบด้วย

หนึ่ง KATSAN-ผู้คุ้มกันส่วนตัวอัจฉริยะ (personal guardian) ตลอด 24 ชั่วโมง

สอง HOMEWISER-ผู้เชี่ยวชาญประจำบ้านที่มาพร้อมกับแนวคิดการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน

สาม YourNextU-นวัตกรรมการเรียนรู้แบบ Learning Buffet Model

“วิทการ จันทวิมล” รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กร และการสร้างสรรค์ เอพี ไทยแลนด์ กรุ๊ป กล่าวว่าหลังจากที่เอพีประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ AP WORLD, A Vision for Quality of Life เพื่อมุ่งสร้างพิมพ์เขียวแห่งคุณภาพชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า ด้วยการเป็นมากกว่าธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่เอพีพร้อมส่งมอบพันธกิจการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่สังคมไทย ผ่าน 3 นวัตกรรมบริการ อย่าง KATSAN, HOMEWISER และ YourNextU

“ทั้งนั้น เพื่อตอบโจทย์ความปลอดภัยในวันพรุ่งนี้, การดูแลรักษาที่อยู่อาศัย และการสร้างคนคุณภาพ ด้วยการยกระดับการศึกษา โดยนวัตกรรมบริการทั้ง 3 ส่วน จะได้รับการสร้างสรรค์โดยกลุ่มคนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และทำงานอย่างเป็นอิสระจากเอพี ภายใต้ธุรกิจ เคลย์มอร์ และเอสอีเอซี ด้วยการใช้กระบวนการ Stanford Design Thinking เป็นเครื่องมือในการคิดค้น และพัฒนานวัตกรรมให้สอดรับกับความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง (unmet needs)”

“สำหรับเคลย์มอร์เราพัฒนานวัตกรรมบริการ KATSAN ผู้คุ้มกันส่วนตัวอัจฉริยะตลอด 24 ชั่วโมง และ HOMEWISER ผู้เชี่ยวชาญประจำบ้าน ด้วยแนวคิดการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน ซึ่งกว่าจะได้นวัตกรรมทั้งสองมา เราทำการศึกษาความต้องการของลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด (quality of life) หลังจากนั้น จึงทำการแยกข้อมูลออกมา โดยโฟกัส 2 เรื่องหลัก ๆ คือ อะไรที่ลูกค้ามองว่าเป็นคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด และอะไรที่เป็นช่องว่าง (gap) ของคุณภาพชีวิตที่ลูกค้าต้องการ เมื่อโฟกัสข้อมูลทั้ง 2 เรื่องพบว่าลูกบ้าน และลูกค้าให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยในการอยู่อาศัยภายในโครงการ และความอุ่นใจที่อยู่ในบ้านที่มีคุณภาพเป็นลำดับต้น ๆ”

“หลังจากนั้น จึงมาพูดคุยกับลูกบ้านที่อาศัยอยู่ในโครงการของเอพีในเชิงลึกอีกครั้ง เพื่อให้ได้นิยาม ความหมาย และความต้องการ ในการนำมาพัฒนาเป็นสินค้าและบริการของเอพี จนในที่สุด ถูกคิดค้นออกมาเป็น 2 นวัตกรรมบริการ โดย KATSAN เป็นนวัตกรรมที่จะยกระดับมาตรฐานในการบริการจัดการความปลอดภัยภายในหมู่บ้านพักอาศัยไปสู่มิติใหม่ ทั้งเรื่องการคัดสรรบุคคลภายนอกที่จะเข้าสู่โครงการ ควบคู่กับการเลือกใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง computer vision และการประมวลผลผ่าน AI อัจฉริยะที่เชื่อถือได้อย่างแม่นยำ”

“วิทการ” กล่าวอีกว่า KATSAN เหมือนเป็นผู้คุ้มกันส่วนตัวอัจฉริยะ (personal guardian) ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งพร้อมทำหน้าที่, คัดสรร และดูแลความปลอดภัยของการอยู่อาศัยภายในหมู่บ้าน เพื่อลดข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่อาจเกิดจากความหละหลวม โดยมีจุดเด่นคือ security matrix ที่เป็นการประมวลผลการเข้าออกอัจฉริยะ ผ่านการจดจำป้ายทะเบียนรถยนต์ และฟังก์ชั่นการบริหารจัดการความปลอดภัยอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อเจ้าของบ้าน ทีมบริหารจัดการหมู่บ้าน และส่วนงานรักษาความปลอดภัย (security team) เข้าสู่ฐานข้อมูลหลักของหมู่บ้าน ดำเนินงานและรับทราบผล

พร้อมกันทั้ง 3 ส่วนอย่างทันท่วงที ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มใช้ภายในโครงการของเอพี ที่บริหารงานโดยบริษัท สมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมเนจเม้นท์ จํากัด จำนวน 10 โครงการ

ส่วน HOMEWISER จะเหมือนเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำบ้าน (personal home advisor) ตลอดการอยู่อาศัย ด้วยแนวคิดการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน ที่บริการตรวจเช็กและวางแผน สุขภาพบ้านโดยผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเก็บบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ไว้อย่างเป็นระบบ ผ่านฐานข้อมูลที่สะดวกต่อการเข้าตรวจเช็ก ทั้งเจ้าของบ้าน และทีมบริการ ดูแลก่อนเกิดความเสียหาย ด้วยระบบการแจ้งเตือนอัตโนมัติ เมื่ออุปกรณ์ หรือระบบต่าง ๆ ภายในบ้านถึงรอบการดูแล พร้อมบริการเสริมอื่น ๆ ที่เลือกได้ตามใจความต้องการของผู้อยู่อาศัย

“แม้ว่าวันนี้ KATSAN และ HOMEWISER จะถูก Ideate ตามขั้นตอนกระบวนการคิดของ design thinking แล้ว แต่อย่างไรก็ตามเรื่องของ prototype และ test ยังถือว่าเป็นเรื่องท้าทายอยู่มาก เพราะเมื่อคิดแนวทางหรือนวัตกรรมขึ้นมาได้แล้ว ต้องมีการทดลองใช้ และปรับปรุงแก้ไขตลอดเวลา เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด และผมบอกได้เลยว่านวัตกรรมทั้ง 2 เรื่อง ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจุดบกพร่อง หรือจุดที่เกิดปัญหาในการใช้ เพื่อให้ระบบสามารถรองรับสิ่งที่ลูกค้าต้องการให้ได้มากที่สุด เช่นกับระบบปฏิบัติการ iOS หรือ Android”

“ขณะที่ YourNextU เป็นนวัตกรรมที่เกิดขึ้นเพื่อดิสรัปต์การศึกษาครั้งแรกของโลก ด้วยจุดเด่นที่เป็น world class education service กับโมเดลการเรียนรู้แบบ Learning Buffet Model ที่ผู้เรียนสามารถเลือกหัวข้อ และรูปแบบการเรียนรู้ที่เหมาะกับตนเองได้อย่างอิสระ ทั้ง classroom, social learning, online และ library โดยไม่จำกัดหัวข้อ และจำนวนครั้งภายในระยะเวลา 1 ปี ที่มีโปรแกรมระดับโลกกว่า 300 หลักสูตร”

“อีกทั้งยังมีการอัพเดตหลักสูตรใหม่เพิ่มเติมทุกเดือน เพื่อให้มีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เข้ากับสถานการณ์ และความต้องการของผู้เรียนได้ อย่างหลักสูตร design thinking จาก Stanford University หลักสูตร outward mindset จาก The Arbinger Institute และหลักสูตร self-leadership จาก The Ken Blanchard Companies ตลอดจนหลักสูตรอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้จะถูกพัฒนาเนื้อหาร่วมกับเจ้าของหลักสูตรให้เหมาะสมกับบริบททางสังคม และวัฒนธรรม จนทำให้ผู้เรียนสามารถนำไปปรับใช้กับงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งค่าบริการ YourNextU จะอยู่ที่ 12,000 บาท/ปี”

ถึงตรงนี้ “วิทการ” บอกว่า สำหรับเงินลงทุนที่ใช้ในการพัฒนานวัตกรรมทั้ง 3 รวมแล้วอยู่ที่ 660 ล้าน และตั้งเป้าหมายรายได้ ปี 2562 ไว้ 3,300 ล้านบาท โดยหลัก ๆ จะมาจากตัว SEAC เพราะลงทุนในส่วนนี้ไปแล้วกว่า 600 ล้าน

“ส่วน KATSAN และ HOMEWISER ในเบื้องต้นไม่ได้คาดหวังเรื่องรายได้ แต่เราเชื่อว่าทั้ง 2 นวัตกรรมจะช่วยเสริมวิสัยทัศน์ในการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประสบความสำเร็จ ควบคู่ไปกับการขายสินค้า และบริการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเอพี ไทยแลนด์ และบริษัทในเครือให้มีความแข็งแกร่ง สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโต ภายในปี 2565 ที่จะมีรายได้รวมทั้งหมดเติบโตแบบก้าวกระโดดที่ 60,000 ล้านบาท”

“ทั้งหมดนี้ถือเป็นวิสัยทัศน์ของ “อนุพงษ์ อัศวโภคิน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ที่ต้องการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอนาคต จนนำไปสู่การส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของการอยู่อาศัยของลูกค้า และทุกคนในสังคมในวันข้างหน้า”