ต้องยอมรับว่าศักยภาพในการคิดค้น และนำเสนอมุมมองต่าง ๆ ของคนรุ่นใหม่เป็นพลังสำคัญที่จะขับเคลื่อนสังคม ประเทศชาติให้สามารถเจริญเติบโตในโลกแห่งอนาคตได้อย่างมั่นคง และมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ เชลล์จึงมุ่งสร้างประสบการณ์การเรียนรู้นอกห้องเรียน และส่งเสริมให้เยาวชนมีโอกาสแสดงออกทางความคิด ผ่านกิจกรรม และโครงการที่หลากหลาย
ซึ่งเหมือนกับการแข่งขัน “Imagine the Future Scenarios Competition Thailand” ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สำหรับปีนี้ใช้หัวข้อ “พลังงานสะอาด เพิ่มประสิทธิภาพ และดีต่อสิ่งแวดล้อม ของเมืองในเอเชีย-แปซิฟิกและตะวันออกกลาง ในปี ค.ศ. 2050 : การดำรงชีวิต ทำงาน และใช้เวลาว่างในอนาคต” เพื่อให้น้อง ๆ เยาวชนได้คิดค้น และนำเสนอแบบจำลองสถานการณ์อนาคตในปี ค.ศ. 2050 ของประเทศไทย ทั้งการทำงาน การใช้ชีวิต และการใช้เวลาว่างของผู้คน โดยคำนึงถึงปัจจัยและผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท จ่อขยับเพดานราคา 2 บาท มีผล 1 เมษายน 2567
สำหรับการแข่งขันครั้งนั้น ปรากฏว่าทีม “BBA 21” ซึ่งเป็นนิสิตคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี หลักสูตรบริหารธุรกิจ (นานาชาติ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ประกอบด้วย อภิสรา ลือชัยประสิทธิ์, กรันย์พล ส่งเกียรติศรี, เปรม พัฒนพิฑูรย์, ณภัทร หิรัญเดช, มหธนพัทธ์ กอวาณิชย์กุล, สุดาทิพ หิรัญวัฒน์ศิริ และ พชร เลิศมนัสชัย ได้รับรางวัลชนะเลิศในรอบสุดท้ายของการแข่งระดับประเทศ ด้วยแนวคิด “Homo Deus & Homo Sapiens” ทั้งยังเป็นตัวแทนประเทศไทยไปเข้าร่วมการแข่งขันระดับภูมิภาคเอเชีย ณ ประเทศสิงคโปร์
โดยล่าสุดบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ส่งตัวแทน “ทีม BBA 21” เข้าร่วมการแข่งขัน Imagine the Future Scenarios Competition 2019 ระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ณ ประเทศสิงคโปร์ ผลปรากฏว่าน้อง ๆ ทีม BBA 21 ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 พร้อมเงินรางวัลมูลค่า 1,500 ดอลลาร์สิงคโปร์
เบื้องต้น “อัษฎา หะรินสุต” ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าเนื่องจากเชลล์ ประเทศไทย จำกัด เล็งเห็นถึงความสามารถ และศักยภาพเยาวชนไทย ในการร่วมสร้าง และกำหนดรูปแบบพลังงานในวันนี้ไปจนถึงอนาคต จึงเป็นที่มาของการจัดการแข่งขัน Imagine the Future Scenarios Competition ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
“สำหรับการแข่งขัน Imagine the Future และเครื่องมือ Scenarios ที่เชลล์ใช้ในการศึกษา และออกแบบจำลองสถานการณ์ในอนาคต นอกจากจะมีประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพเยาวชน ในอีกทางหนึ่งยังมีคุณค่าในเชิงการพัฒนาบุคลากรของเชลล์เช่นกัน เพราะ Scenarios เป็นเครื่องมือที่ทำให้พนักงานของเราได้มีโอกาสเรียนรู้ และนำแนวคิดที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพมาใช้ในการทำงาน โดยช่วยให้พนักงานพัฒนาทักษะ ความสามารถในการคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต”
“เพื่อสร้างกลยุทธ์ที่ตระหนักถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นสำคัญ ทั้งยังเป็นการเปิดรับแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับพลังงานใหม่ ๆ ด้วย ขณะเดียวกัน พนักงานเชลล์หลายคนมีโอกาสเป็นโค้ชอาสา เพื่อช่วยน้อง ๆ ที่เข้าร่วมการแข่งขัน Imagine the Future ซึ่งตรงนี้เป็นโอกาสที่เราได้ถ่ายทอดค่านิยมขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความซื่อสัตย์ การมีคุณธรรม การให้เกียรติผู้อื่น การคำนึงถึงความปลอดภัยให้กับน้อง ๆ เยาวชน รวมถึงพนักงานของเราด้วย”
“นอกจากนั้น ยังเป็นการร่วมกันช่วยเหลือผู้อื่นตามแนวคิดเติมความสุขให้ทุกชีวิต (Make Life”s Journeys Better) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเจตนารมณ์ของเชลล์ ที่มุ่งส่งเสริมการศึกษาเรียนรู้ พัฒนาศักยภาพบุคลากร จนนำไปสู่การสร้างคุณค่าร่วมเพื่อทุกฝ่ายในสังคมต่อไป”
“มหธนพัทธ์” ในฐานะผู้นำทีม BBA 21 กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการร่วมแข่งขันครั้งนี้ว่า สมาชิกทีม BBA 21 ทั้งหมดมาจากสายบริหารธุรกิจ บัญชี การเงิน และที่ผ่านมาเคยแต่เข้าร่วมการแข่งขันแผนธุรกิจ หรือการแข่งขัน Business Case เท่านั้น ซึ่งไม่ได้ทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับการมองอนาคต และจำลองสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นแบบนี้เลย
“ตอนที่เห็นว่ามีการแข่งขันในโครงการนี้ ผมจึงลองถาม และชักชวนเพื่อน ๆ ว่าสนใจที่จะลองแข่งไหม ปรากฏว่าทุกคนสนใจ เพราะการแข่งขันครั้งนี้แตกต่างกับสิ่งที่เคยทำ ซึ่งเป็นเรื่องของพลังงาน และมีความเกี่ยวข้องเครื่องมือ Scenarios ของเชลล์ ตรงนี้จึงเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ที่สำคัญ เมื่อมาลองดูแนวคิดที่ใช้ในการแข่งขันถือเป็นสเกลที่ใหญ่มาก ทำให้ต้องระดมความคิดเห็นแบบเปิดกว้างทุกมุมมอง และเมื่อมาเข้าร่วมเวิร์กช็อปกับเชลล์ จึงทำให้กระบวนการคิดกระชับขึ้นมาก เพราะเชลล์กำหนดขอบเขตของแนวคิดนั้น 2 แกน คือ uncertainty และ decentralized”
“โดยเรื่อง uncertainty พวกเราร่วมกันคิด และวิเคราะห์ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ตั้งแต่การเมือง เศรษฐกิจ เทคโนโลยี ปัญหาสังคม และสิ่งแวดล้อม จนในที่สุดพวกเรามองว่ามนุษย์คือสิ่งที่ไม่แน่นอนที่สุด เพราะทุกอย่างเกิดจากการกระทำของมนุษย์ แต่พวกเรายังไม่รู้ว่าสิ่งที่คิดมาถูกหรือไม่ จึงได้ไปศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งงานศึกษาวิจัย และเทรนด์ของเศรษฐกิจ การศึกษา และเทคโนโลยี ว่าปัจจุบันก้าวหน้าไปถึงไหน”
“จากนั้นเราจึงนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ โดยนำเรื่องของเสรีภาพทางเศรษฐกิจ (economic of freedom) เศรษฐกิจแห่งอิสรภาพเป็นหลักในการมองแนวโน้มอนาคต จนทำให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียมกัน ตั้งแต่เราเกิดขึ้นมา ขณะที่เรื่องของ decentralized เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดสินทรัพย์ หรือสิ่งที่มีคุณค่า และเมื่อเรานำทั้ง 2 เรื่องมารวมกัน จึงเกิดเป็นแนวคิด Homo Deus & Homo Sapiens”
ถึงตรงนี้ “อภิสรา” กล่าวเสริมว่าที่มาของแนวคิด Homo Deus & Homo Sapiens เกิดจากการที่พวกเราได้ศึกษาว่ามนุษย์มักใช้เวลาไปกับ 2 อย่าง คือ คิด (think) และทำ (do) การคิด โดยฝั่ง Homo Sapiens จะมุ่งไปในเรื่องของตลาดเศรษฐกิจเสรี มีการกระจายอำนาจ ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้หมด ต่างฝ่ายต่างประมวลผลได้เอง ทำให้คนกลุ่มนี้มีอิสระในการทำงาน ค้าขาย ทำไร่ทำนา เพราะทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้
“ส่วน Homo Deus จะเป็นฝั่งที่ความรู้ถูกรวบรวม โอกาสในการเข้าถึงข้อมูลน้อยลง ทำให้ช่องว่างความเหลื่อมล้ำมีมากขึ้น ทำให้จุดเด่นของแนวคิด โดยเฉพาะเรื่องของมนุษย์มีความชัดเจนขึ้น”
“เพราะจุดเด่นของพวกเราถือเป็นสิ่งที่เป็นความต่าง เนื่องจากแนวคิดนี้มองตัวคนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งหากดูหลาย ๆ แนวคิดที่มานำเสนอในครั้งนี้จะพบว่าทุกทีมพูดถึงผลของการกระทำ แต่ของเราจะเน้นไปที่ตัวคน หรือสิ่งที่เป็นตัวปัญหา เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นล้วนมาจากความไม่เท่าเทียมกัน ทำให้ต้องมองโลกให้รอบด้านมากขึ้น”
ขณะที่ “พชร” กล่าวว่าในการทำงานของพวกเรา สำหรับการแข่งขันตั้งแต่แรกถือเป็นความท้าทายอย่างมาก เพราะพวกเราไม่เคยทำงานด้วยกัน ต่างคนต่างชวนกันมา ทำให้แรก ๆ ต้องทำความรู้จัก และต้องทำความเข้าใจกันก่อน หลังจากนั้นทุกคนจะร่วมกันพูดคุย หารือ แลกเปลี่ยน ซึ่งทุกครั้งจะร่วมกันหาข้อมูล และนำมาสังเคราะห์เพื่อทำให้เข้าใจมากขึ้น
“สิ่งที่ได้จากการร่วมงานครั้งนี้คือการทำงานเป็นทีมที่ต้องมีความยืดหยุ่น รับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ยอมรับความเห็นต่าง และทุกคนต้องพูดคุยกันเพื่อร่วมกันหาทางออก และการได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเพื่อมาร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติครั้งนี้ ผมไม่ได้มองว่าต้องการชนะเพียงอย่างเดียว แต่การมาครั้งนี้เราต่างได้แลกเปลี่ยน เรียนรู้ ประสบการณ์กับเพื่อน ๆ ตัวแทนที่มาจากหลากหลายประเทศ”
“ที่สำคัญ ความรู้และประสบการณ์ที่ได้ครั้งนี้ เป็นมากกว่ารางวัลที่ได้รับมาก ๆ ทั้งยังเป็นมิตรภาพในระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ที่เราได้รู้จักคนเก่ง ๆ ทั้งยังได้แลกเปลี่ยนมุมมองการทำงานร่วมกัน ตรงนี้ถือเป็นสิ่งที่หาไม่ได้จากในห้องเรียน ที่ทำให้พวกเรามองภาพกว้างขึ้น และไม่จำเพาะแค่ธุรกิจเท่านั้น แต่เป็นการฝึกกระบวนการคิดที่หลากหลาย และรอบด้านอีกด้วย”
ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลยพิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!