“บิ๊กตู่” ชมผลผลิต “ยะลาเมืองทุเรียน” พื้นที่ “ปิดทองหลังพระ” อัพราคา-เพิ่มรายได้เกษตรกร

วันที่ 7 ส.ค.62 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ปฏิบัติราชการ ที่ชายแดนภาคใต้

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้ติดตามโครงการบริหารจัดการทุเรียนคุณภาพ ณ สำนักงานตลาดกลางยางพารา จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่รวบรวมผลผลิตทุเรียนจากทั้งจังหวัด ที่ปลูกทุเรียนมากที่สุดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 67,164 ไร่ สร้างรายได้กว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งราชการส่วนจังหวัดบริหารร่วมกับมูลนิธิปิดทองหลังพระ โดยมีกลุ่มซีพีให้การช่วยเหลือด้านการตลาด และเทคนิคการจัดการผลผลิตที่มีคุณภาพ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังการติดตามโครงการบริหารจัดการทุเรียนคุณภาพ จังหวัดยะลา ว่า “เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องทุเรียน เห็นด้วยกับการดำเนินงานของโครงการทุเรียนคุณภาพ เพราะเห็นแล้วว่า มีการดำเนินงานในลักษณะ “ทำน้อยได้มาก” คือการใช้ทรัพยากรต้นทุเรียนที่เป็นทุนเดิม หันมาดูแล พัฒนาให้ได้คุณภาพตามความต้องการของตลาด และใช้ที่ดินส่วนที่เหลือมาทำกิจกรรมทางการเกษตร เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น สร้างภูมิคุ้มกันเมื่อราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ นอกจากนี้ยังได้มีการประเมินความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ไว้ด้วย เช่น เรื่องราคา ไม่ควรทำพืชเชิงเดี่ยวแต่อย่างเดียว”

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณ มูลนิธิปิดทองหลังพระ ที่เข้ามาส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากและภาคเอกชนที่เข้ามาร่วมมือในรูปและประชารัฐในพื้นที่

ด้านนายอนุชิต ตระกูลมุทุตา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า “ยะลามีพื้นที่ปลูกทุเรียนมากที่สุดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลาจึงได้กำหนดวาระจังหวัด ในการขับเคลื่อนให้จังหวัดยะลาเป็นเมืองทุเรียน (Durian City) แห่งภาคใต้ตอนล่าง โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาคุณภาพ การตลาด โดยดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้แนวนโยบายในการนำศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติ”

ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลากล่าวด้วยว่า จังหวัดได้ร่วมกับมูลนิธิปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ จัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทุเรียนให้มีคุณภาพ มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 664 ราย พื้นที่ปลูก 1,125 ไร่ ต้นทุเรียน 22,508 ต้น คาดการณ์ผลผลิต 2,440 ตัน สามารถสร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 183 ล้านบาท

ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ประธานกรรมการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจจกรรมปิดทองหลังพระฯ กล่าวว่า สถาบันฯได้เข้ามาดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้านตั้งแต่ต้นปี 2559 ประชากรที่เข้าร่วมโครงการในพื้นที่ 7 หมู่บ้าน ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และเห็นศักยภาพด้านการผลิตทุเรียนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

“การส่งเสริมให้จังหวัดยะลาเป็นเมืองทุเรียนซิตี้ มูลนิธิฯ จึงได้ร่วมกับจังหวัดยะลาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมเกษตรกรให้พัฒนาทุเรียนให้มีคุณภาพ ในปี 2561 เริ่มต้นกับเกษตรกร 18 รายในตำบลตาเนาะปูเตะ อำเภอบันนังสะตา จังหวัดยะลา ตั้งแต่การให้ความรู้ การดูแล บำรุงรักษาไปจนถึงการตลาด ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ต้นละ 3.5 เท่า ปี 2562 จึงได้ขยายผลเป็น 664 ราย จำนวน 22,508 ต้น ครอบคลุมพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ คาดการณ์จะมีผลผลิต ประมาณ 2,440.20 ตัน คาดการณ์จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 160 ล้านบาท”

ม.ร.ว.ดิศนัดดา กล่าวด้วยว่า ผลผลิตในปี 2562 เป็นการดำเนินการเป็นปีที่ 2 ซึ่งปฏิบัติการในพื้นที่ร้อยละ 1.4 ของพื้นที่ปลูกทุเรียนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ พื้นที่ที่ยังเหลือ มีศักยภาพอีกมาก หากหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ จะทำให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น