“ศุภชัย” ประธาน Global Compact หนุนภาคธุรกิจขับเคลื่อน ‘การเงินยั่งยืน’

“สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย” ร่วมกับ “กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม” และ “โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ( United Nations Development Programme-UNDP)” จัดการประชุมระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ครั้งที่ 3 ในหัวข้อ “หลักการเงินที่ยั่งยืน อะไรที่ภาคธุรกิจจำเป็นต้องรู้ ?” (3rd National Dialogue on Business and Human Rights Sustainable Financing: What companies need to know?)

“ศุภชัย เจียรวนนท์” ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และนายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการเงินที่ยั่งยืน (Sustainable Financing) คือ การตระหนักถึงแนวโน้ม และความสำคัญของการวัดผลประกอบการธุรกิจ ที่ไม่ได้จำกัดแต่เพียงงบการเงิน แต่ต้องครอบคลุมถึงผลกระทบของธุรกิจต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาล และสิทธิมนุษยชน เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาแนวทางการดำเนินธุรกิจต่อไป

“การประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะส่งเสริมการหารือ แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างภาคธุรกิจที่เป็นสมาชิกทั้งของสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย และสมาคมธุรกิจอื่นๆ อาทิ CSR Club ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการทำธุรกิจ ที่เคารพสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีขอบเขตกว้างขวาง ทั้งมิติด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล ซึ่งถือว่ายังมีความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะในประเด็นที่เชื่อมโยงกับการทำงานของภาคการเงินการธนาคาร ดังตัวอย่างจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้จัดการประชุม Bangkok Sustainable Banking Forum เมื่อเร็วๆนี้ และ UN Global Compact เอง ได้จัดทำ Principles for Responsible Investment เป็นต้น”

“ในการนี้ สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย พร้อมสนับสนุนการหารือระหว่างภาคการเงินกับภาคเอกชนในส่วนอื่นๆ มากยิ่งขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตัวอย่างปฏิบัติที่ดี รวมทั้งความท้าทายที่ประสบอยู่ ข้อเสนอแนะที่สามารถแบ่งปันและลู่ทางความร่วมมือต่อไปในอนาคต เพื่อช่วยให้แต่ละฝ่ายสามารถปรับตัว ตอบสนองวัตถุประสงค์ และสภาพความเป็นจริงในทางปฏิบัติ ของทั้งภาคการเงินการธนาคาร และภาคเอกชนอื่นๆ ให้นำไปสู่เป้าหมายร่วมกันในการทำธุรกิจที่ยั่งยืน”

“ศุภชัย” กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะนายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคธุรกิจประกอบด้วยสมาชิกกว่า 40 บริษัท และในฐานะประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งมีกิจการอยู่ใน 22 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 350,000 คน ขอยืนยันถึงเจตนารมณ์ของสมาคม และภาคธุรกิจที่พร้อมจะส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคเอกชนไทยร่วมกันทำธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติ ควบคู่กับการทำธุรกิจที่เคารพสิทธิแรงงาน รักษาสิ่งแวดล้อมและต่อต้านการทุจริต ตามหลักการสากลของ UN Global Compact

“ที่ผ่านมาสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย ได้พยายามผลักดันผ่านความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน อาทิ ผ่านการสนับสนุนวาระชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน หรือแผนปฏิบัติการชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ในความรับผิดชอบของกระทรวงยุติธรรมและโครงการต่างๆของ UNDP เพื่อให้หลักการเหล่านี้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม สามารถตรวจสอบย้อนกลับและวัดผลได้”

“อีกทั้งยังผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนทุกขนาด ทุกภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนคู่ค้าที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน ทั้งของสมาชิกสมาคม และนอกสมาคม ทั้งนี้คาดหวังว่า การหารือในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญสู่การผนึกกำลังระหว่างภาคการเงิน การธนาคารกับภาคเอกชนในส่วนอื่นๆเพื่อก่อให้เกิดการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน และสามารถลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) โดยเฉพาะข้อที่ 17 ว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ต่อไป”

ขณะทื่ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การประชุมระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนในครั้งนี้ มุ่งเน้นเรื่องหลักการเงินที่ยั่งยืน เพื่อช่วยส่งเสริมให้ภาคธุรกิจดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบและเคารพสิทธิมนุษยชน โดยนำผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโครงการที่ให้สินเชื่อทั้งมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล มาเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการลงทุนอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นการคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม รวมทั้งให้ความสำคัญกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มากกว่าการคำนึงถึงเฉพาะประโยชน์ของบริษัทตนเองเท่านั้น บนหลักการ win-win

“วิธีการเหล่านี้จะเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่จะช่วยเติมเต็ม และเสริมสร้างศักยภาพให้กับภาคธุรกิจในการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และคาดว่าจะได้ประกาศใช้ในเร็วๆ นี้”

“ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงยุติธรรมได้ร่วมมือกับสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย ในการจัดประชุมให้ความรู้แก่ภาคธุรกิจในประเด็นสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง และได้รับความสนใจจากทุกภาคส่วนที่เข้าร่วมประชุม ซึ่งท้อนว่ามีการตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้อย่างจริงจัง”