AP Open House ปั้นนักอสังหา “รู้ลึก-ทำได้จริง”

ต้องยอมรับว่า “การเรียนรู้” ในยุคปัจจุบันไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่เพียง “ห้องเรียน” หรือ “สถาบันการศึกษา” เท่านั้น กอปรกับการที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จึงทำให้การเข้าถึง “การเรียนรู้” และการเข้าถึง “ความรู้” ก็มีหลากหลายช่องทาง

ไม่เพียงเท่านั้น การเรียนรู้ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจจาก “ประสบการณ์จริง” “สถานการณ์จริง” และ “การลงมือปฏิบัติจริง” ควบคู่กันไปกับ “ภาคทฤษฎี” เพื่อให้มีทักษะใหม่ ๆ ที่จำเป็นสำหรับโลกของการทำงานในอนาคต

เช่นเดียวกับโครงการ “เอพี โอเพ่นเฮ้าส์” (AP Open House) ของ “บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)” ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัยของคนเมือง มุ่งสู่การพัฒนาเมืองในบริบทใหม่ เพื่อการอยู่อาศัยที่ยั่งยืนในโลกอนาคต เปิดโอกาสให้นิสิต-นักศึกษาได้มาฝึกอบรมและเรียนรู้กระบวนการทำงานจริงในโปรแกรมวิศวกรรมโยธา ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4

โดยครอบคลุมทุกกระบวนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และโปรแกรมด้านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อให้เหล่านิสิต-นักศึกษานำความรู้และทฤษฎีมาประยุกต์ใช้กับการทำงานในพื้นที่จริง เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น

และนิสิต นักศึกษา จำนวน 4 คน ที่มีผลการฝึกงานที่โดดเด่นยังจะได้รับโอกาสจากเอพี ไทยแลนด์ ในการไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น กับมิตซูบิชิ เอสเตท ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของเอพี เพื่อเรียนรู้การทำงานที่นอกเหนือจากที่ได้เรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทย

ล่าสุด เอพี ไทยแลนด์ นำนิสิต นักศึกษา 4 คนที่มีผลงานโดดเด่น ประกอบด้วย “ธนวัฒน์ เรียงวรานนท์” นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจ สาขาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ซึ่งปัจจุบันได้ทำงานร่วมกับเอพี ในตำแหน่ง Business Disruption Team Member ทำหน้าที่ในการคิดค้นและสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าและบริการใหม่ ๆ

“ธมลอร มานะบุญ” นิสิตชั้นปีที่ 5 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ภาควิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “พสุรัตน์ ไตรรัตน์” นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์

และ “ศตพร วัฒนาวัตถุ” นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เดินทางสู่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อศึกษาองค์ความรู้และปรัชญาการพัฒนาเมืองเพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนในโลกอนาคต ภายใต้แนวคิด “Biodiversity” ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลของระบบนิเวศให้เกิดขึ้น

เพื่อนำมาสู่การใช้ชีวิตที่เกื้อหนุนมนุษย์และสิ่งแวดล้อม จากมิตซูบิชิ เอสเตท ต่อยอดแนวคิดในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ไทยให้ตอบวิสัยทัศน์ของเอพี ไทยแลนด์ ในการสร้างพิมพ์เขียวแห่งคุณภาพชีวิตที่ดีในโลกอนาคตต่อไป

สร้างคนสู่อสังฯหาไทย

“วิทการ จันทวิมล” รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องควบคู่ไปกับการพัฒนาเมือง และเอพี ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัย ดังวิสัยทัศน์ AP WORLD การสร้างพิมพ์เขียวแห่งคุณภาพชีวิตที่ดีในวันนี้และอนาคต และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างคนคุณภาพให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของไทย เอพีจึงได้สานต่อโครงการเอพี โอเพ่นเฮ้าส์ 2019 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อให้นิสิต นักศึกษาจากหลากหลายสถาบันได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้กระบวนการทำงานจริงแบบเจาะลึก ตั้งแต่ภาคทฤษฎีไปจนถึงการปฏิบัติจริงในพื้นที่โครงการ

ทั้งยังส่งเสริมให้นิสิต นักศึกษานำความรู้ในห้องเรียนมาประยุกต์ใช้กับการทำงานในพื้นที่จริง รวมถึงได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น และสัมผัสประสบการณ์ตรงจากทีมงานมืออาชีพของเอพี โดยจะแบ่งการรับสมัครออกเป็น 2 กลุ่มคือ Civil Engineering จำนวน 20 คน และ Product & Service Design อีก 20 คน

“ในปีนี้มีนิสิต นักศึกษาสมัครเข้ามากว่า 3,500 คน และได้คัดเลือกจากการทำแบบทดสอบออนไลน์ให้เหลือ 240 คน แล้วสัมภาษณ์ รวมถึงทำกิจกรรมกลุ่มให้เหลือ 40 คนสุดท้ายที่จะได้เข้าฝึกงานกับเอพีเป็นเวลา 2 เดือน จนท้ายที่สุดคัดเลือกนิสิต นักศึกษาที่มีผลงานดีเด่น 4 คน เพื่อไปทัศนศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ น้อง ๆทั้งหมดที่ผ่านการฝึกงานยังจะได้รับใบประกาศนียบัตร รวมถึงได้รับโอกาสพิเศษในการพิจารณาเป็นพนักงานของเอพีในอนาคตอีกด้วย”

เพิ่มทักษะใหม่ๆ ที่จำเป็น

“วิทการ” กล่าวอีกว่า สำหรับการฝึกงานโครงการเอพี โอเพ่นเฮ้าส์ 2019 ในปีนี้มีความพิเศษกว่าทุกปี เพราะนอกจากน้อง ๆ จะได้เรียนรู้ชีวิตการทำงานจริงในสาขาวิชาที่เรียนมาอย่างงานวิศวกรรมโยธา และการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริการแล้วนั้น โครงการยังได้เพิ่มทักษะใหม่ที่จำเป็น (reskill) เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยหลักสูตร design thinking ซึ่งเป็นกระบวนการทางความคิดที่เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม

“ตลอดจนในการเรียนรู้แบบไม่จำกัดผ่าน YourNextU ที่ให้นิสิต นักศึกษาในโครงการได้เรียนรู้หลักสูตรวิชาระดับ world class education ด้วยการเรียนรู้แบบ learning buffet model ที่สามารถเรียนรู้ได้อย่างไม่สิ้นสุด เรียนซ้ำได้อย่างไม่จำกัด ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านโปรแกรมความรู้ใหม่ ๆ ระดับโลกกว่า 300 หลักสูตร ซึ่งจะเป็นการต่อยอดการเรียนรู้สู่การทำงานจริง และทำให้เขาเหล่านั้นเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพในวงการอุตสาหกรรมไทยต่อไป”

“ส่วนการเดินทางมาศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ เราได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากมิตซูบิชิ เอสเตท ในการถ่ายทอดองค์ความรู้เฉพาะด้านจากทีมงานมืออาชีพให้กับน้อง ๆ นิสิต นักศึกษาทั้ง 4 คน เพื่อให้เข้าใจถึงแนวคิดและปรัชญาในการสร้างเมืองเพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน การวางมาสเตอร์แพลนที่ส่งเสริมการใช้ชีวิตคุณภาพให้กับเมือง และการพัฒนาป่าในเมือง ที่สามารถนำมาประยุกต์ต่อยอดให้เป็นจริงในประเทศไทยได้”

ผสมผสานสู่สินค้าบริการใหม่

“ธนวัฒน์” กล่าวว่า การได้รับโอกาสเข้ามาฝึกงานในโครงการเอพี โอเพ่นเฮ้าส์ในครั้งนี้ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก เพราะได้เรียนตั้งแต่พื้นฐานของอสังหาริมทรัพย์ โดยผู้ที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งเนื้อหาที่เรียนบางวิชานั้นถือว่ายากที่จะเจอกับตัวเอง และยังได้ไปดูงานตามสถานที่ต่าง ๆ ทำให้เห็นวิธีการ กระบวนการทำงานอย่างละเอียด

“อย่างผมเองได้ฝึกงานในโปรแกรมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการ ทำให้รู้ว่าการขายที่มีมากกว่าที่เราเห็น ทั้งโปรโมชั่น การตั้งราคา และอื่น ๆ และหลังจากนั้นในเดือนที่ 2 จะเข้ามาในส่วนของกระบวนการ design thinking เต็มรูปแบบ ด้วยการนำมาใช้ในการออกแบบโปรเจ็กต์สุดท้ายที่ทุกกลุ่มจะได้โจทย์แตกต่างกันไป เพื่อให้ผลิตภัณฑ์และบริการที่ออกมาตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของผู้อยู่อาศัย และจะมีพี่ ๆ จากเอพีมาเป็นโค้ช คอยดูแลให้คำแนะนำตลอดการฝึกงาน”

“สิ่งหนึ่งที่ผมมองว่าสำคัญในโครงการนี้คือ ความหลากหลายของกลุ่มคนที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งที่มาจากสาขาจิตวิทยา สังคมสงเคราะห์ และเศรษฐศาสตร์ การตลาด ทำให้เกิดการผสมผสานจนสามารถพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ ๆ ที่มากกว่าการฝึกงานในสายเดียวกัน”

“และการมาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นทำให้เราเห็นถึงความใส่ใจในการออกแบบ เสมือนอยู่ในดีเอ็นเอ เก็บรายละเอียดไว้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังให้ข้อมูลการขายแบบตรงไปตรงมา มีการเล่าเรื่องพื้นที่สีเขียวในโครงการที่ไม่ใช่แค่การโปรโมต ตรงนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่เปิดโลกกว้างให้กับผมเลยก็ว่าได้”

มุ่งต่อยอดกระบวนการ

“ธมลอร” กล่าวเสริมว่า การฝึกงานที่นี่ถือว่าเหนื่อยมาก เพราะมีทั้งเรียนในห้องเรียนและการลงพื้นที่หน้างานจริง แต่ถือว่าสนุกและได้ความรู้เป็นอย่างมาก ซึ่งที่นี่จะสอนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่เริ่มกระบวนการคิดการออกแบบ การก่อสร้าง ไปจนถึงการส่งมอบ และหลังจากเรียนจบจะได้ลงไซต์งานจริง ทดลองพูดคุยกับลูกค้าจริง ทั้งยังได้เข้าไปอยู่ในแผนกที่เป็น product design ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นการนำเอา design thinking มาใช้ในการออกแบบ

“design thinking ถือว่าเป็นกระบวนการที่ดี เป็นเหมือนไมนด์เซตในการคิดสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ที่สำคัญการทำงานกับเอพี ทุกอย่างคือของจริง แม้ว่าครึ่งหนึ่งจะเรียนในตำรา แต่ที่เหลือต้องไปปฏิบัติจริง ในสถานที่จริง ตรงนี้ถือเป็นการเรียนรู้ที่ยั่งยืน ซึ่งความรู้เหล่านี้จะถูกนำไปประยุกต์ใช้กับการเรียน การทำงานต่อไปในอนาคตอย่างแน่นอน”

วิศวะ+ธุรกิจ โจทย์ที่ลงตัว

“พสุรัตน์” กล่าวว่า แม้ว่าตนจะเรียนมาทางด้านวิศวกรรมโยธา แต่โดยส่วนตัวแล้วมีความสนใจทางด้านธุรกิจ ทำให้มองหาที่ฝึกงานที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งสองด้าน เพื่อให้ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ควบคู่กันไป ซึ่งการฝึกงานในโครงการเอพี โอเพ่นเฮ้าส์ถือว่าตอบโจทย์ตัวเองมาก ๆ

“การฝึกงานที่ได้ลงฝึกปฏิบัติหน้างานจริง ให้ทดลองเรียนรู้ปัญหาด้วยตนเอง และนำความรู้ที่ได้มาทำโปรเจ็กต์ ภายใต้กระบวนการ design thinking ที่แตกต่างจากฝึกงานทั่วไป เพราะไม่ใช่แค่ควบคุมงานก่อสร้างเท่านั้น แต่ทุกคนจะได้เรียนรู้ ทำความเข้าใจถึงปัญหาที่แท้จริงของลูกค้า แล้วนำเอามาปรับปรุงแก้ไขให้ตรงกับความต้องการ และการใช้งานของลูกค้าได้อย่างแท้จริง”

YourNextU เพื่ออนาคต

“ศตพร” กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่ผมชอบในการฝึกงานของที่นี่คือ เราไม่จำเป็นต้องอยู่ที่หน้าไซต์งานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เปิดโอกาสให้สามารถเรียนรู้ได้อย่างหลากหลาย อย่าง 2 สัปดาห์แรกจะเรียนภาคทฤษฎี และหลังจากนั้นอีก 3 สัปดาห์จะเป็นการนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในหน้างานจริง แล้วสุดท้ายมาทำโปรเจ็กต์ร่วมกัน ตรงนี้ถือเป็นวิธีการที่ดี

“อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบคือ การเปิดโอกาสให้เข้าไปเรียนที่ YourNextU ซึ่งผมสามารถนำเอาความรู้ที่ได้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งการเรียน การทำงานได้เพราะแต่เดิมนั้นผมถือความคิดของตัวเองสำคัญ ไม่มองคนอื่น ไม่รู้ว่าจะต้องปรับตัวเข้ากับสังคมอย่างไร แต่ในโปรแกรมนี้มีหลักสูตรต่าง ๆ มากมายที่เสริมสร้างกระบวนการคิด การวิเคราะห์ ให้สามารถนำไปปรับใช้จริงได้ในระยะยาวต่อไป”

ถึงตรงนี้ “วิทการ” บอกว่า โครงการเอพี โอเพ่นเฮ้าส์จะยังดำเนินการต่อไป และจะขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพราะโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในพันธกิจที่สำคัญของเอพี ในการสร้างคนให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ประเทศไทย ผ่านการสร้างองค์ความรู้แบบรู้ลึก รู้จริงให้กับเยาวชนรุ่นใหม่

ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยต่อไป