“เนสท์เล่” คว้า “AWS” จัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน

เนสท์เล่เป็นบริษัทผู้ผลิตอาหาร และเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของโลก ครอบคลุม 190 ประเทศทั่วโลก ที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับบริษัทลูกที่ผลิตน้ำดื่มภายใต้ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ที่สานต่อพันธกิจด้านการดูแล และจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน จนได้รับการรับรองมาตรฐานจาก Alliance for Water Stewardship (AWS) องค์กรพันธมิตรด้านการจัดการ และดูแลทรัพยากรน้ำระดับโลก จากระบบการจัดการและดูแลทรัพยากรน้ำบริเวณชุมชนรอบโรงงานกลุ่มธุรกิจน้ำดื่มเนสท์เล่ แห่งที่ 1 จ.พระนครศรีอยุธยา และล่าสุดโรงงานกลุ่มธุรกิจน้ำดื่มเนสท์เล่ แห่งที่ 2 จ.สุราษฎร์ธานี ก็ได้รับรางวัลนี้เช่นกัน

“ลูก้า คิโอด้า” ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจน้ำดื่ม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากโรงงานอยุธยาซึ่งเป็นหนึ่งในโรงงานผลิตน้ำดื่มเนสท์เล่ และเป็นผู้ผลิตน้ำดื่ม เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ (Nestle Pure Life) ได้ดำเนินการรับรองระบบ AWS (Alliance for Water Stewardship) เราก็สานต่อธุรกิจน้ำดื่มของโรงงานแห่งที่ 2 จ.สุราษฎร์ธานี ให้มีมาตรฐานเดียวกัน

“โรงงานผลิตน้ำดื่มเนสท์เล่ แห่งที่ 2 ในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปี 2017 ตั้งอยู่ที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี มีวัตถุประสงค์ผลิตน้ำดื่มเพื่อผู้บริโภคใน 14 จังหวัดภาคใต้และทั่วประเทศ เป็นโรงงานที่มีจุดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม งบฯก่อสร้างประมาณกว่า 1,800 ล้านบาท มีพื้นที่ 170,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย โรงงานผลิตคลังสินค้า สำนักงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ”

“โดยโรงงานแห่งนี้ผลิตน้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ในขนาด 0.33 ลิตร 0.6 ลิตร และ 1.5 ลิตร ซึ่งเราเล็งเห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการน้ำสะท้อนพันธสัญญาระยะยาวของเนสท์เล่ ในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยโรงงานแห่งใหม่นี้ยังใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย VSEP ที่ลดปริมาณการใช้น้ำในกระบวนการผลิต และการเป็นศูนย์กระจายสินค้าสู่ภาคใต้ จึงทำให้ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดระยะทางในการจัดส่งได้กว่า 3 ล้านกิโลเมตรต่อปี จึงช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี เรายังได้สร้างประโยชน์สู่ชุมชนด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนในท้องถิ่น ซึ่งเป็นการยกระดับเศรษฐกิจให้กับภาคใต้”

“ลูก้า คิโอด้า” อธิบายต่อว่า สำหรับการได้รับรางวัล AWS นับเป็นการตอกย้ำว่า เราให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่เราใช้อย่างยั่งยืน ซึ่งเราเป็นผู้ผลิตน้ำดื่มเจ้าเดียวในประเทศไทยกับมาตรฐานการจัดการทรัพยากรน้ำ AWS และเรากำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายที่จะทำให้ทุกโรงงานของกลุ่มธุรกิจน้ำดื่มเนสท์เล่ทั่วโลกได้รับรองมาตรฐาน AWS ให้สำเร็จภายใน 2025 ด้วย

“มาตรฐาน AWS นับเป็นมาตรฐานจัดการ และดูแลทรัพยากรน้ำระดับสากลเพียงหนึ่งเดียว ที่มุ่งหวังให้การดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพยากรน้ำเป็นไปด้วยความเข้าใจถึงปัญหาร่วมกันในบริเวณแหล่งน้ำที่องค์กรเข้าไปดำเนินการ รวมทั้งเข้าใจถึงโอกาสและความเสี่ยงต่าง ๆ ของแหล่งน้ำรอบพื้นที่”

“นอกจากนี้ มาตรฐาน AWS ยังให้การรับรองและสนับสนุนการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมจากองค์กรที่ใช้ทรัพยากรน้ำ การพัฒนาจัดการทรัพยากรน้ำอย่างต่อเนื่อง และความร่วมมือระหว่างองค์กรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญปัญหาในบริเวณแหล่งน้ำโดยรอบ โดยมาตรฐาน AWS มีเกณฑ์การพิจารณาทั้งในระดับองค์กรและบริเวณแหล่งน้ำโดยรอบ ประกอบด้วย 4 ปัจจัย คือ การรักษาสมดุลของทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน, การดำรงรักษาสภาพที่ดีของทรัพยากรน้ำ, การจัดการทรัพยากรน้ำที่ดี และการอนุรักษ์ไว้ซึ่งความสมบูรณ์ของพื้นที่แหล่งน้ำสำคัญ

“ลูก้า คิโอด้า” กล่าวด้วยว่า นอกจากการจัดการเรื่องความยั่งยืนด้านน้ำ กลุ่มธุรกิจน้ำดื่มเนสท์เล่ยังมุ่งเน้นการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างคุณค่าร่วมกันในสังคม และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวบ้านในชุมชน ทั้งในเรื่องของการให้ความรู้ในเรื่องของการจัดการน้ำ และการรีไซเคิลขวดพลาสติก ได้แก่ โครงการเยาวชนพิทักษ์น้ำ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำดื่มเนสท์เล่ และองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล ในการให้ความรู้แก่เยาวชนในการจัดการทรัพยากรน้ำในโรงเรียนและชุมชน รวมถึงการรีไซเคิลขวดพลาสติกกับโครงการ I am doing it ซึ่งเป็นการสอนเยาวชนให้รู้จักการรีไซเคิลขวดพลาสติกอีกด้วย

“ซึ่งเป้าหมายหลักของเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ นอกจากความพยายามในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำแล้ว ยังรวมถึงการเข้าถึงและเข้าใจชุมชนรอบบริเวณโรงงานผลิตเกี่ยวกับความต้องการการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การตรวจสอบคุณภาพน้ำเพื่อปกป้องแหล่งน้ำบริเวณโดยรอบอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการดำเนินโครงการที่สร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในระยะยาว”

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณชุมชนโดยรอบโรงงานผลิตน้ำดื่มเนสท์เล่ สุราษฎร์ธานี ล่าสุดโรงงานผลิตน้ำดื่มเนสท์เล่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้เชิญตัวแทนชุมชนและตัวแทนนักเรียนบ้านทุ่งเซียด มาร่วมรับฟังบรรยายเกี่ยวกับการได้รับการรับรองมาตรฐาน AWS ของโรงงาน พร้อมร่วมทำกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้เรื่องน้ำสะอาดและการทดสอบคุณภาพน้ำเบื้องต้น เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และส่งต่อความรู้ให้กับครอบครัวและคนรอบข้างต่อไป”

“คริส วูตตัน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Alliance for Water Stewardship (AWS) ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า AWS คือ องค์กรพันธมิตรด้านการจัดการน้ำและดูแลทรัพยากรน้ำ และเป็นผู้นำระดับโลกที่ช่วยขับเคลื่อนแนวทางการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีความรับผิดชอบ เป็นประโยชน์ต่อสังคมและเศรษฐกิจ รวมทั้งมีความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราร่วมมือกับองค์กรระดับนานาชาติทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรมากมาย

“เนสท์เล่จึงถือเป็นองค์กรระดับแนวหน้าที่ช่วยขับเคลื่อนแนวทางดังกล่าว เพราะทางเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ต้องการแสดงถึงความตั้งใจที่แน่วแน่ในการดูแลและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำให้มีความยั่งยืน จากความสำเร็จของโรงงานกลุ่มธุรกิจน้ำดื่มเนสท์เล่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะโรงงานแห่งที่ 2 ในประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน AWS ต่อจากโรงงานกลุ่มธุรกิจน้ำดื่มเนสท์เล่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มธุรกิจน้ำดื่ม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) ในการเสริมสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่องค์กรอื่น ๆ ไม่เพียงแค่มุ่งเน้นเฉพาะคุณภาพของผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังคงให้ความสำคัญถึงทรัพยากรน้ำที่ยั่งยืน ระบบนิเวศ และสิ่งแวดล้อม รวมถึงความเป็นอยู่ของชุมชนรอบโรงงานผลิต”

เพราะน้ำมีคุณค่า จึงเป็นเหตุผลที่เนสท์เล่ยึดหลักการของความยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน และไม่กระทบถึงรุ่นลูกหลานในอนาคต