“เอ็นนู ซื่อสุวรรณ” ประธานกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม กล่าวถึงต้นเหตุหนี้ของเกษตรกร ในงานสัมมนาพิเศษ “แนวพระราชดำริ ภูมิคุ้มกันสังคม วัคซีนธุรกิจยั่งยืน” ว่าปัญหาตอนนั้นเริ่มจากแนวโน้มที่ลูกหลานของชาวเกษตรกรไม่อยากทำการเกษตร และพ่อแม่เองก็ไม่อยากให้ลูกทำ จึงไปกู้เงินส่งลูกเรียนในระดับปริญญา ดังนั้น พอเศรษฐกิจล่มสลาย หลายบริษัทปิดตัว คนจบปริญญาจึงพลอยตกงานแล้วกลับไปหาพ่อแม่ และครอบครัว แต่ไม่มีรายได้พอจ่ายหนี้ และละเลยต่อการจ่ายดอกเบี้ย
“พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ทรงชี้แนวทางการดำเนินชีวิตแก่ปวงชนชาวไทยตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยพระองค์ตรัสว่าวิธีแก้ไขต้องทำเป็นขั้นตอน โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน คือ 1) ทำให้ชาวเกษตรกรพออยู่พอกิน 2) ชุมชนต้องร่วมกันคิด หาปัญหาร่วมที่ต้องการจะแก้ไข และ 3) ขยายผลทางธุรกิจ ร่วมมือกับภายนอก ขณะเดียวกัน เกษตรกรต้องมีภูมิคุ้มกันตัวเอง มีทักษะการจัดการ รู้จักปรับตัวเพราะโลกเปลี่ยนเร็ว ที่สำคัญพ่อค้าคนกลางต้องทำการค้าอย่างเป็นธรรม และสถาบันการศึกษาต้องผลักดันข้อมูลวิจัยมาใช้จริง”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
“3 ขั้นตอนดังกล่าว ส่งเสริมภูมิคุ้มกันที่ดีในสังคม และชุมชน ไม่ควรต่างคนต่างอยู่ และต้องมีอาชีพเสริมที่หลากหลาย ซึ่งใน 300 กว่าชุมชนต้นแบบที่ผมเข้าไปส่งเสริม มีผลลัพธ์ออกมาในทางที่ดี เช่น มีสถาบันการเงินชุมชน, สวัสดิการชุมชน, แผนชุมชน, ธนาคารต้นไม้, ธนาคารขยะ, ธนาคารความดี เป็นต้น”
ดังนั้น การแก้ไขเรื่องหนี้ของเกษตรกร จึงต้องใช้ยุทธศาสตร์ชาติเข้ามาเป็นแนวทาง ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมหลักอยู่หลายส่วนที่เกษตรกรสามารถเข้าไปเกี่ยวข้อง เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม และช่วยปลดหนี้ให้กับตนเอง ได้แก่
หนึ่ง อุตสาหกรรมการแปรรูปสินค้าการเกษตร เพียงแต่ที่ผ่านมาเกษตรกรเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบ และส่งให้บริษัทใหญ่ ๆ แปรรูป ทำให้ขาดรายได้ที่ตนเองสามารถสร้างได้ ผลตรงนี้ จึงต้องสร้างพวกเขาให้ได้รับการส่งเสริม และรู้จักการแปรรูป
สอง อุตสาหกรรมอาหารไทย เพราะอาหารไทยเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ และแต่ละภูมิภาคมีจุดเด่นแตกต่างกัน ซึ่งเกษตรกรสามารถทำอาหารขายเองได้
สาม อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการ ปัจจุบันเป็นยุคที่คนชอบไปทานอาหารนอกบ้าน และเช็กอินโชว์ตามโซเชียลมีเดีย เกษตรกรสามารถใส่ความคิดสร้างสรรค์ และสร้างร้านอาหาร หรือร้านกาแฟที่ดึงดูดคน และใช้ผลผลิตจากสวนของตัวเอง
สิ่งสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดคือการสร้าง “คน” เพราะถ้าเราไม่สร้างคน สิ่งต่าง ๆ จะไม่ประสบความสำเร็จ ผลตรงนี้ จึงทำให้ต้องเสริมสร้างคนสู่วิถีพอเพียง สอนเกษตรกรให้รู้จักวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล เช่น ทำบัญชีครัวเรือน, ข้อมูลการผลิต นอกจากนั้น รัฐบาลควรมีเครื่องมือที่เหมาะสม และต้องส่งเสริมเกษตรกร หรือผู้ผลิตให้มีนวัตกรรม ผลิตสินค้าที่เหมาะสมกับเทรนด์ในปัจจุบัน เช่น สินค้าที่เหมาะกับผู้สูงวัย เป็นต้น
ถ้าเราสร้าง “คน” สำเร็จ เศรษฐกิจก็จะเติบโตอย่างยั่งยืน