สัมภาษณ์
บ่ายแก่ ๆ พุธที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา “ประชาชาติธุรกิจ” คือหนึ่งในสื่อมวลชนได้รับเชิญจาก “คิง เพาเวอร์” ร่วมรับฟังความคืบหน้าโครงการ King Power Thai Power พลังคนไทย ที่กำลังมุ่งหน้าสู่ Creating Shared Value (CSV) เพื่อสร้างคุณค่าร่วมกันระหว่างพันธมิตรธุรกิจ ลูกค้า ชุมชน สิ่งแวดล้อม สู่เป้าหมายธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
- ยื่นภาษีปี 2567 หมดเขตเมื่อไหร่ ยื่นไม่ทันต้องทำอย่างไร
“อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ซึ่งวันนี้ก้าวสู่ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ฉายภาพให้เห็นว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาได้เดินหน้าใน 4 แกนหลัก ๆ คือ กีฬา, ดนตรี, ชุมชน, การศึกษาและสาธารณสุข รวมกว่า 12 โครงการที่ดำเนินการต่อเนื่อง ใช้งบประมาณไม่น้อยกว่าปีละ 200 ล้าน สามารถกระจายโอกาสและสร้างความสุขสู่ชุมชนทั่วทุกภูมิภาค ทั้ง 77 จังหวัด กว่า 3,000 ชุมชน
“อัยยวัฒน์” ขยายความถึงสิ่งที่ทำมาตลอดหลายปีว่า … ถ้าเอาแกนหลัก ๆ ที่เราทำ เรื่องกีฬาเนี่ยชัดเจน เราอยากเห็นคน และน้อง ๆ เติบโตในสังคมที่มันยากขึ้นเรื่อย ๆ
ในส่วนดนตรีหรือ MUSIC POWER ส่งเสริมให้คนรักเสียงดนตรีกว่า 4,000 คน ได้แสดงความสามารถในเวทีประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่าที่ได้รับการกล่าวขานว่ามีมาตรฐานสูง เป็นที่จับตาที่สุดในภูมิภาค รวมทั้งมองว่าสามารถพัฒนาเป็นอาชีพได้
ส่วนเรื่องชุมชนได้ช่วยพัฒนาโปรดักต์ต่าง ๆ ของคนไทยให้เป็นที่ยอมรับ โดยมีคิง เพาเวอร์, สโมสรเลสเตอร์ และ OHL (ทีมฟุตบอลอีกทีมหนึ่งของคิง เพาเวอร์) ที่เบลเยียม เป็น marketing tool สำคัญ
ขณะที่การศึกษาและสาธารณสุข ขับเคลื่อนผ่านมูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภามอบตู้อบเด็กให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล และมอบทุนการศึกษาระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยเดอ มง ฟอร์ต อังกฤษ สร้างบุคลากรที่มีคุณภาพกลับมาพัฒนาประเทศไปแล้ว 20 ทุน
ตั้งแต่เดือนตุลาคมทั้งเรื่องการศึกษาและสาธารณสุขจะถูกขับเคลื่อนผ่านมูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นหลัก
ถามความคืบหน้าโครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย สนามฟุตบอลหญ้าเทียม และโครงการล้านลูกล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย ซึ่งคนไทยรู้จักกันดี ต็อบ-อัยยวัฒน์ บอกว่า ได้สร้างสนามฟุตบอล 7 คน เสร็จไปแล้ว 60 แห่ง และมอบลูกฟุตบอลไปแล้วกว่า 5 แสนลูก
“กำลังดูว่าจะสามารถต่อยอดออกไปอย่างไรได้อีก ต้องมาดูว่าในอนาคตน้อง ๆ ยังต้องการสนามแบบนี้อีกไม่”
โดยตัวสนามฟุตบอลตอบโจทย์ Creating Shared Value ไม่แพ้การมอบให้ชุมชนต่าง ๆ ผลิตของที่ระลึกทำจากผ้าให้กับสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ อวดสายตาชาวโลก
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ซีอีโอของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยอมรับ ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากสิ่งที่ทำไป
“ถ้าคิดจะทำดีไม่ต้องแอบทำ ต้องร่วมกันทำ จงภูมิใจในสิ่งที่ทำ” เมื่อคิดจะทำอะไรต้องดูให้ดี เลือกให้ถูกว่าเขาเดือดร้อนเรื่องอะไร ต้องมองให้ชัดเจนว่าจุดไหนที่สำคัญ เรื่องที่เขาลำบากคืออะไร ต้องหาคนไปคลุกเพื่อลงมือทำร่วมกัน และไม่ว่าอะไรที่สามารถสร้าง value ได้ก็จะทำ
แม้การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้จะมุ่งโฟกัสไปที่โครงการเพื่อสังคม “King Power Thai Power พลังคนไทย” และไม่ยอมเอ่ยถึงธุรกิจร้านค้าปลอดภาษี เรือธงธุรกิจหลัก แต่ซีอีโอหนุ่มคิง เพาเวอร์ ที่มีธุรกิจกระจายอยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะอังกฤษซึ่งกำลังมีประเด็นเรื่อง Brexit ยอมรับว่า ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้หนักหนาไม่น้อย
“เศรษฐกิจไม่ดีหมด ไม่ใช่แค่เรา (ประเทศไทย) ไม่ใช่แค่อังกฤษ จีน อเมริกา คงเป็นช่วงที่เป็นขาลงจริง ๆ ถามว่า กระทบมั้ย กระทบหมดทุกคนอยู่แล้ว แต่ว่าเราจะทำยังไงกับมันมากกว่า อันดับแรกคงต้องดูสิ่งที่เรามีความสามารถก่อน อย่างเช่นตลาดต่างประเทศซึ่งเรามีความแข็งแรง หรือกับลูกค้าในประเทศ แล้วแต่บริษัทไหนทำ ผมว่าเรื่องคอสต์คือสิ่งสำคัญ ต้องดูดี ๆ เพราะว่าปลี่ยนแปลงเร็ว”
ยังไม่รู้ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาดีอีกเมื่อไหร่ และกระทบไปทุกที่ น่าจะอีกนานหลาย ๆ เดือน หลาย ๆ ปี และไม่ต้องบอกว่าใครผิด ใครถูก
กับคำถามที่ว่า มีโอกาสที่เด็กไทยจะไปเล่นให้ทีมเลสเตอร์ ซึ่งคิง เพาเวอร์เป็นเจ้าของอยู่ หรือในสโมสรอังกฤษอื่น ๆ บ้างหรือเปล่า
“คุณต็อบ” ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก และแฟนฟุตบอลชาวไทยคุ้นหน้าคุ้นตา ทุกครั้งที่มีการถ่ายทอดสดมายังประเทศไทย ตอบว่า
“มีปัจจัยอยู่ 2 อย่าง อันแรกคือเรื่องของวินัย ผมไม่ได้บอกว่า คนไทยไม่มีวินัย แต่นักฟุตบอลไทยเวลามีโอกาสไปฝึกที่นั่น ไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวยังไง ต้องดูแลตัวเองแบบไหน การเป็นโปรเฟสชั่นนอล (นักฟุตบอลอาชีพ) ต้องทำตัวอย่างไร เวลามีน้อง ๆ ไป สิ่งที่มองเห็นเลย เค้าต้องปรับตัวกับสิ่งที่ไม่เคยเจอ กินต้องตรงเวลา นอนต้องตรงเวลา ไปเรียนหนังสือ แล้วก็ต้องเล่นกีฬา ในเวลาหนึ่งวันเขาต้องจัดการเองหมด ไม่มีพ่อแม่ไปนั่งดู
ถ้านอนน้อย พักผ่อนน้อย เล่นไม่ดี ก็จะหลุดจากทีม หรือถ้าไม่ดูแลเรื่องอาหารการกินให้ดี ไม่มีกล้ามเนื้อ ทุกอย่างจะถูกบันทึกไว้หมด คือมันโดนทรีตด้วยความโปรเฟสชั่นนอลของสตาฟ บางทีคนไทยจะคิดว่าฉันเก่งแล้ว
ข้อที่ 2 คือความเข้าใจในการเล่นฟุตบอล เราไม่ได้สอนให้นักกีฬาเราเข้าใจ ถ้าลูกบอลไม่อยู่กับตัวต้องทำยังไง ตอนที่กองหน้าอีกฝั่งวิ่งไปเราต้องทำอะไรบ้าง แต่ความรู้พวกนี้ที่อังกฤษเขาฝึกตั้งแต่ 9 ขวบ เด็กไทยเจอเข้าไปแบบนี้ อาทิตย์สองอาทิตย์แรกแทบวิ่งไม่เป็น
ผมเคยถามสตาฟโค้ช เขาตอบว่า (เด็กไทย) skill ดี เทคนิคดี ร่างกายไม่ใช่ปัญหา แต่ knowledge ของฟุตบอลไม่มีเลย
ถามอีกว่า ช่วงนี้ asset ในยุโรปราคาลดต่ำลงมาก เป็นช่วงจังหวะที่จะเข้าไปทำอะไรเพิ่ม ลงทุนในสโมสรฟุตบอลอื่น ๆ ในยุโรปอีกหรือเปล่า
“ผมเห็นด้วยว่าราคา asset ตอนนี้ต่ำ แต่ถ้าถามว่า จะลงทุนอะไรเพิ่มมั้ย ยอมรับว่าดูอยู่เหมือนกัน ไม่ว่า Brexit จะออกมาอย่างไรคงไม่น่าจะแย่ไปกว่านี้แล้ว เพราะผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าอังกฤษก็ยังเป็นอังกฤษ ยังมีแต่คนอยากไป ต่อให้จะมีอะไรเกิดขึ้นกตาม
“นี่มองจากผมนะ อาจจะผิดก็ได้” อัยยวัฒน์ กล่าวในที่สุด