มองมุมคิด “ปิโก” ผู้บริหารเป็น “โค้ช” ช่วยพนักงาน

ในปี 2018 ผ่านมา นับเป็นปีแห่งความสำเร็จของปิโก (PICO) เพราะในส่วนของปิโก กรุ๊ป ได้รับรางวัลที่สะท้อนคุณภาพการให้บริการหลายรางวัล ได้แก่ The Best Event Agency in Asia Pacific จาก CEI Readers” Choice และ Gold Award ในประเภท The B2B Agency of the Year และ The Event Agency of the Year จาก Marketing Magazine”s Agency of the Year Awards 2018 และสำหรับปิโก ไทยแลนด์ สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีผลประกอบการสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา โดยปีที่ผ่านมามีรายได้กว่า 2,020 ล้านบาท สูงที่สุดตลอด 10 ปีผ่านมา ปิโกที่มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท

ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาองค์กรให้มีศักยภาพสูงสุดมาอย่างต่อเนื่อง โดยยึดถือหลักการ “คุณภาพคน คุณภาพงาน”

“ศีลชัย เกียรติภาพันธ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของปิโก กรุ๊ป ถือเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญว่าปิโกปรับตัวได้ดีท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกดิจิทัล โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ปิโกขับเคลื่อนธุรกิจตามแนวคิด Drive Change และยึดหลักการสร้างคุณภาพคน คุณภาพงาน

“แนวคิดดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกับวิสัยทัศน์ของบริษัท ที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อความสำเร็จในการเป็นบริษัทชั้นนำด้านการให้บริการด้านการสื่อสารประสบการณ์ เพื่อเป็นบริษัทแรกที่ลูกค้านึกถึง และเพื่อเป็นสถานที่ทำงานอันดับแรกที่คนเก่งเลือก เรามองว่าการวางแผนในการทำธุรกิจต้องมีวิสัยทัศน์ระยะสั้น และระยะยาว โดยระยะสั้น เราให้ความสำคัญกับธุรกิจหลักที่มีความเชี่ยวชาญ คือ เรื่องการสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาด (events) การบริหารจัดการ และการบริการอย่างครบวงจรในธุรกิจไมซ์ ส่วนวิสัยทัศน์ระยะยาว เรามุ่งสร้างโมเดลธุรกิจใหม่สู่นวัตกรรมดิจิทัล เพื่อโอกาสทางธุรกิจที่ยั่งยืนในอนาคต โดยเฉพาะการสร้างสรรค์ดิจิทัลแอปพลิเคชั่นเพื่อสื่อสารองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง”

“แต่การที่จะดำเนินตามวิสัยทัศน์ให้ได้งานคุณภาพ เราต้องสร้างคนคุณภาพก่อน ตรงนี้จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพบุคลากร และการสร้างความผูกพันระหว่างบุคลากรกับบริษัท โดยเน้นเรื่องการสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ส่งเสริมการต่อยอดนวัตกรรมทางความคิด รวมทั้งการดูแลบุคลากรด้วยระบบสวัสดิการที่เหมาะสม และเป็นธรรมเพื่อทำให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพ”

“เนื่องจากพนักงานถือเป็นทรัพยากรที่มีค่าสูงสุด และเป็นรากฐานที่สำคัญของการพัฒนาบริษัท การพัฒนาทรัพยากรบุคคลถือเป็นนโยบายหลักที่สำคัญ ดังนั้น เราจึงมีนโยบายที่มุ่งเน้นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลและปรับปรุงระบบการบริหารงานทรัพยากรบุคคลให้เกิดประสิทธิภาพ ตั้งแต่กระบวนการสรรหา เพื่อสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพสูงสุด มีการส่งเสริมการพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถอย่างต่อเนื่อง และการปลูกฝังค่านิยมในองค์กร ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ตลอดจนเสริมสร้างให้พนักงานเป็นพนักงานที่มีคุณภาพ ทั้งคุณภาพการทำงาน และคุณภาพชีวิตควบคู่กันไป”

“ศีลชัย” กล่าวต่อว่า ดีเอ็นเอคนของเราคือคนที่มีความรู้รอบตัว เป็นคนหูตากว้างไกล ช่างสังเกต มีจิตวิทยาที่ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นในยุคเทคโนโลยี เพราะการมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่ไม่มีจิตวิทยาในการจับออกมาเป็นธุรกิจก็ไม่เกิดประโยชน์ นอกจากนั้น การทำงานต้องอยู่บนฐานการวิจัยด้วย เพราะผมมีพื้นฐานเป็นนักวิทยาศาสตร์ จบปริญญาตรีคณะสาธารณสุขศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหิดล ผมจึงเชื่อว่าการทำงานที่อยู่บนพื้นฐานการวิจัย ทำให้มีข้อมูลมากพอที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาได้ดี

ที่ผ่านมาหลายบริษัทในไทยเจอทั้งวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ วิกฤตนํ้าท่วมใหญ่ วิกฤตการเมืองไทย ปิโกเองก็เช่นกัน ฉะนั้น การผ่านจุดนั้นมาได้ ทั้งยังคงสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง คือการเป็นผู้บริหารหรือผู้นำที่ดี มีการเตรียมความพร้อม สามารถคาดคะเนเหตุการณ์ล่วงหน้า 6-8 เดือน และต้องมีแผนหนึ่งสองสาม เพื่อช่วยให้ธุรกิจเดินหน้า โดยไม่ต้องปลดพนักงาน หรือลดเงินเดือน”

“ที่สำคัญ ผมมองว่าความท้าทายในการบริหารบุคลากรเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แต่ความท้าทายตอนนี้คือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดโอกาสให้พนักงานสามารถแสดงศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ เหมือนอย่างบริษัท Google ผมจึงบริหารคนแบบโค้ชที่คอยให้คำปรึกษา และตอนนี้เรามีพนักงานประมาณ 200 คน อายุเฉลี่ยของพนักงานที่นี่คือ 41 ปี มีเรื่อง turn over ของเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นบุคลิกของคนรุ่นใหม่ ชอบที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ พวกเขาไม่อยากอยู่ที่เดิมนาน ๆ”

“ผมมองว่า turn over ไม่ใช่ปัญหาขององค์กร แต่ผมกลับอยากเห็น turn over สูงกว่า 10% ทุกปี เพราะเด็กรุ่นใหม่ที่เริ่มเข้ามาทำงานยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองชอบอะไร เมื่อเขาเข้ามาทำงานแล้วไม่ชอบ เราก็ไม่ควรบังคับให้เขาอยู่ต่อ สำหรับคนรุ่นเก่าที่อยู่กับเรานาน ๆ เพราะเขามีความสุขกับงานที่ทำ และที่นี่เปิดโอกาสให้คนได้โชว์ฝีมือ ที่สำคัญ ตอนนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไป เราต้องปรับตัวในเรื่องของรูปแบบการใช้กำลังคน เราไม่ได้ใช้คนภายในองค์กรเพียงอย่างเดียว แต่เรามีวิธีการมองหาคนแบบกึ่ง ๆ ทำตัวเป็น incubator ด้วย เพราะการทำงานกับคนนอกองค์กรช่วยทำให้เราปรับตัว และได้ความรู้ใหม่ ๆ”

“ศีลชัย” กล่าวในตอนท้ายว่า ปิโกให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงบริบทของประเทศอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะต้องพัฒนาพนักงานให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงด้วย เราจึงสนับสนุนพนักงานของเราให้มีการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองผ่านกระบวนการพัฒนาหลายรูปแบบ เช่น การฝึกอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์กร รวมถึงหลักสูตรการอบรมและดูงานในต่างประเทศ การมอบหมายงานโปรเจ็กต์ต่าง ๆ ให้เรียนรู้พัฒนาตนเองผ่านการทำงาน รวมถึงการเรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์

“เราส่งเสริมการเรียนรู้ และการพัฒนาองค์ความรู้ให้เกิดขึ้น ส่งเสริมให้พนักงานเกิดความคิดสร้างสรรค์ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ ทั้งในระดับบุคคล และทีมงาน รวมไปถึงสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ร่วมกันในบริษัท เพื่อสร้างรากฐานในระยะยาวของบริษัทให้มีความสามารถในการแข่งขัน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัท แต่สิ่งที่เรามุ่งเน้นให้พนักงานมีไม่น้อยไปกว่าทักษะ และความสามารถคือ มีความรับผิดชอบ (accountability) มีความซื่อสัตย์ (integrity) มีเกียรติ (dignity) เพื่อส่งเสริมให้พนักงานยึดหลักในการทำงานบนพื้นฐานด้านจริยธรรม”

อันเป็นรูปแบบของปิโกที่มุ้งเน้นการสร้างคน เปิดโอกาส เพื่อให้ได้ผลงานที่ดีขับในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จ