หากจะพูดถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของ “ทาเคดา” ซึ่งเป็นบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ระดับโลก ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น คงจะอธิบายได้ว่าทาเคดาให้ความสำคัญกับการทำประโยชน์เพื่อสังคม เริ่มตั้งแต่ core business ที่ตั้งใจผลิตสินค้าโดยยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง เน้นการสร้างคุณค่า และขับเคลื่อนด้วยการวิจัยและพัฒนา เพื่อสุขภาพที่ดีและอนาคตที่สดใสของผู้คนทั่วโลก
ทาเคดามาก่อตั้งบริษัทในประเทศไทยเพื่อขยายแนวทางการทำธุรกิจที่ให้ประโยชน์ต่อสังคม จนปีนี้ทาเคดาครบรอบ 50 ปีในประเทศไทย
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
“ปีเตอร์ สตรีบัล” ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ทาเคดา ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีวิสัยทัศน์การทำธุรกิจเพื่อดูแลสุขภาพคนไทยอย่างยั่งยืนมา 5 ทศวรรษ โดยมุ่งเน้นแขนงการรักษาหลัก ๆ 4 ด้าน ได้แก่ มะเร็งวิทยา, ทางเดินอาหาร, โรคหายาก และประสาทวิทยา โดยทำงานผ่านการวิจัยนวัตกรรมยา การจัดกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ การสนับสนุนความรู้และการศึกษาแก่แพทย์และเภสัชกร
“นอกจากเราจะดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นสร้างประโยชน์ต่อผู้ป่วย เรายังดำเนินกิจกรรมซีเอสอาร์หลายโครงการอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิดการให้ ได้แก่ การเข้าร่วมโครงการอุ่นใจเมื่อใกล้สมาคมแพทย์ ในกลุ่มงานโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory Bowel Disease หรือ IBD) โดยเราทำหน้าที่สนับสนุนแพทยสมาคม ชมรมลำไส้เล็กลำไส้ใหญ่ และสมาคมแพทย์ระบบทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย ในการสร้างเครือข่ายในการให้ข้อมูลความรู้ ตลอดจนการตรวจวินิจฉัย และรักษาโรคอย่างถูกต้องให้แก่แพทย์และผู้ป่วย เพื่อการรักษาและพัฒนาสุขภาพของคนไทยให้ดีขึ้น และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังให้กับผู้ป่วยและครอบครัว”
“เราเชื่อว่าการแบ่งปันประสบการณ์ซึ่งกันและกันผ่านกิจกรรมการจัดงานเสวนาเพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง การสร้างกลุ่มเพื่อนเกี่ยวกับโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ เป็นการสร้างกลุ่มคนไข้ที่เข้มแข็ง และช่วยให้คนไข้เข้าถึงการรักษาที่ดีขึ้น”
“ที่สำคัญ เราทำโครงการเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง ซึ่งในโอกาสครบรอบ 50 ปีของทาเคดาในประเทศไทย ด้วยการสนับสนุนสมาคมเพื่อนมะเร็งไทย (Thai Cancer Association) ภายใต้มูลนิธิมิตรภาพบำบัด ในการจัดกิจกรรม Run Over Cancer ยิ่งวิ่ง?ยิ่งห่างมะเร็ง ซึ่งเป็นกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศลที่สวนจตุจักร เนื่องจากเล็งเห็นว่าทางสมาคมเพื่อนมะเร็งไทย และทาเคดานั้นมีเป้าหมายเดียวกันนั่นคือการมุ่งช่วยเหลือและให้ความรู้ผู้ป่วยมะเร็ง และผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยมะเร็ง เพื่อให้เข้าใจโรคและเข้าใจการปฏิบัติตัวเมื่อเป็นโรคได้ดีขึ้น อีกทั้งเพื่อให้ผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยนั้นเข้าใจว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อต้องดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ซึ่งการเดิน-วิ่งการกุศลจัดไปแล้วเมื่อ 8 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา”
โดยรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย มอบให้สมาคมเพื่อนมะเร็งไทย เพราะการวิ่งครั้งนั้นเป็นการสร้างขวัญกำลังใจเพื่อให้ผู้ป่วยมะเร็งมีพลังที่จะก้าวผ่านวิกฤต และเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับผู้ป่วยและญาติในการรับมือโรคมะเร็ง
“ปีเตอร์ สตรีบัล” อธิบายต่อว่าทาเคดา ประเทศไทย มีโครงการซีเอสอาร์ระดับโลก ที่ทำงานร่วมกับมูลนิธิวิทยาศาสตร์ทาเคดา (Takeda Science Foundation) มาเป็นระยะเวลา 53 ปี ก่อนที่ทาเคดาจะมาก่อตั้งบริษัทเพื่อทำธุรกิจในประเทศไทยเสียอีก โดยเราร่วมมือกับมูลนิธิในการสนับสนุนแพทย์ไทยไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำความรู้กลับมาพัฒนาวงการแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศไทย โดยไม่มีเงื่อนไขของการใช้ทุนใด ๆ ทั้งสิ้น
“ผมคิดว่าการให้ความรู้แก่แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ รวมไปถึงบุคลากรทางการแพทย์คือสิ่งสำคัญ และยั่งยืนที่สุด เพราะเราเชื่อว่าแพทย์และผู้เชี่ยวชาญคือทรัพยากรต้นน้ำ คือต้นทางในการพัฒนาวงการแพทย์ วงการยาและการดูแลผู้ป่วย นั่นหมายความว่าเมื่อเกิดการพัฒนาองค์ความรู้ และนวัตกรรม ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำ ส่งผลให้เกิดการรักษาที่ดีขึ้นนั่นเอง ทั้งนี้แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยอนุกรรมการพิจารณาทุนเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกแพทย์ในทุกสาขาที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตามหลักเกณฑ์ให้ได้รับทุนมูลนิธิวิทยาศาสตร์ทาเคดาเป็นประจำทุกปี ซึ่งที่ผ่านมามีแพทย์จากสถาบันต่าง ๆ กว่า 70 แห่งทั่วประเทศไทย ได้รับทุนการศึกษาไปแล้วถึง 211 ทุน ตั้งแต่ปี 2509”
“เราให้ทุนการศึกษาแพทย์หวังช่วยพัฒนาวงการแพทย์ และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้สามารถนำความรู้ที่ได้รับมาพัฒนาตนเองและพัฒนาองค์ความรู้ที่มีอยู่ให้ดีขึ้น เพื่อนำไปต่อยอดในการรักษาผู้ป่วย สร้างสรรค์นวัตกรรมทางการแพทย์ ตลอดจนพัฒนาองค์กรของตนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อันสอดคล้องกับปรัชญาของบริษัทที่แสวงหาสุขภาพที่ดี และอนาคตที่สดใสให้กับผู้คนทั่วโลก ผ่านนวัตกรรมด้านยารักษาโรคชั้นนำ ทั้งนี้ เพื่อช่วยพัฒนาขีดความสามารถแพทย์ไทยในการวินิจฉัย และรักษาโรคต่าง ๆ ในการยกระดับคุณภาพชีวิต และการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ของผู้ป่วยต่อไป”
“ปีเตอร์ สตรีบัล” กล่าวด้วยว่าทาเคดา ประเทศไทย มีการวางแผนเปิดตัวโครงการเพื่อสังคมอีกหนึ่งโครงการ ซึ่งโครงการนี้เป็นความร่วมมือที่ทาเคดาทำกับองค์กรแพทย์ และกลุ่มผู้ป่วย ได้แก่ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมเวชพันธุศาสตร์และจีโนมิกส์ทางการแพทย์ เครือข่ายเวชพันธุศาสตร์และสมาคมพันธุศาสตร์แห่งประเทศไทย และมูลนิธิเพื่อผู้ป่วยโรคหายาก (Rare Disease Foundation) เพื่อขยายขอบเขตการศึกษาและค้นคว้าวิจัยให้เกิดความรู้ความเข้าใจในโรคหายากเพิ่มมากขึ้น อาทิ โรคเลือด HAE โรค LSD เป็นต้น โดยจะจัดให้มีการให้ความรู้ผ่านการสัมมนาทางการแพทย์ เพื่อให้คนไข้ได้มีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้มากขึ้น
“ในอนาคตทางบริษัทวางแผนมุ่งเน้นให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษาและพัฒนาองค์ความรู้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และยังคงจะสนับสนุนวงการแพทย์ไทยให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องด้วย เพราะเราต้องการตอบโจทย์สุขภาพ และอนาคตที่สดใสขององค์กร”
นับเป็นความกระตือรือร้น และการมุ่งแสวงหาวิธีการรักษาที่จะสามารถเปลี่ยนชีวิตของผู้ป่วยเพื่อสร้างประโยชน์สุขอย่างยั่งยืน
