Mivana Community ต้นแบบ “คน-ป่า” อยู่ร่วมกันยั่งยืน

หนึ่งในสาเหตุสำคัญของการสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ของไทยในปัจจุบัน มาจากความต้องการใช้พื้นที่ในการเพาะปลูก ทำเกษตรกรรมของชาวบ้าน ซึ่งไม่เพียงทำให้พื้นที่ป่าไม้ลดลงเท่านั้น แต่การทำการเกษตรยังใช้สารเคมีอย่างรุนแรง จึงส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในหลากมิติ จนทำให้เกิดทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติ สภาพอากาศที่แปรปรวน และภาวะโลกร้อนที่ทำให้เกิดผลกระทบกับสิ่งมีชีวิต ตลอดจนผู้คนทั่วโลก

ที่สำคัญ ปัญหาการบุกรุกป่ายังนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างชุมชนกับหน่วยงานภาครัฐผู้ทำหน้าที่พิทักษ์รักษาป่าอีกด้วย

จากปัญหาดังกล่าว บริษัท มีวนา จำกัด จึงร่วมเป็นหนึ่งในการจัดตั้ง ชุมชนมีวนา (Mivana Community) เพื่อเชื่อมต่อสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าที่ยั่งยืนที่ได้จากการเกษตร ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ ไปจนถึงกระบวนการปลายน้ำ โดยมีเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่ป่า แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ป่า จ.เชียงราย

ภายใต้แนวปฏิบัติ Partnership for Sustainability เพื่อเป็นต้นแบบการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าอย่างมีส่วนร่วม เพื่อให้ “คน” กับ “ป่า” อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน

โดยล่าสุดในงาน Good Society Expo 2019 มีการเปิดตัว “ชุมชนมีวนา” (Mivana Community) อย่างเป็นทางการในงาน และได้มีการนำเสนอเรื่องราว และเป้าหมายในการขยายพื้นที่ป่ามีวนาอย่างยั่งยืนภายใต้วิถีมีวนา และกระบวนการทำงานตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยมีตัวแทนจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ผู้ส่งเสริม และสนับสนุนการปลูกกาแฟอินทรีย์ ตัวแทนภาครัฐ รวมถึงตัวแทนภาคธุรกิจที่เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างการตระหนักรู้ในการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าไปสู่กลุ่มผู้บริโภค

“ธชา อุนนานนท์” รองกรรมการผู้จัดการ งานการตลาด บริษัท พีเอ็ม เอสอี จำกัด กล่าวว่าก่อนที่จะมาเป็นชุมชนมีวนา บริษัทได้ทำโครงการกาแฟอินทรีย์รักษาป่ามีวนามาตั้งแต่ปี 2553 ที่ป่าต้นน้ำแม่ลาว โดยมีเป้าหมายหลักคือการรักษาพื้นที่ป่าต้นน้ำ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมอาชีพให้กับคนในชุมชน จนเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่บ้านขุนลาว บ้านห้วยคุณพระ และบ้านห้วยไคร้

“จากนั้นจึงขยายพื้นที่ในการพัฒนาไปต้นน้ำแม่สรวย คือ บ้านดอยช้าง บ้านใหม่พัฒนา และบ้านผาแดงหลวง รวมถึงต้นน้ำแม่กรณ์ ที่มีหมู่บ้านร่มเย็น โดยมุ่งสร้างการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชน และความสามารถในการประกอบอาชีพที่มั่นคง ลดทอนปัญหาการทิ้งถิ่น ทั้งนั้นเพราะเรามองเห็นการขยายผลการรักษาป่าต้นน้ำ เพิ่มพื้นที่ป่า ด้วยการสร้างเครือข่ายพันธมิตร ที่มีเจตนารมณ์ในการรักษาผืนป่าของประเทศไทย ด้วยแนวคิด Partnership for Sustainability โดยมีเป้าหมายขยายพื้นที่ป่าด้วยการมีส่วนร่วม เพื่อให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาทั้งห่วงโซ่ ตั้งแต่กระบวนการปลูก และผลิตกาแฟ จนถึงการหาช่องทางจำหน่ายเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภค ยิ่งเฉพาะคนเมืองที่มองเห็นปัญหา แต่ไม่มีเวลาดูแลแหล่งน้ำ และผืนป่า แต่เขาเหล่านั้นสามารถมีส่วนร่วมสร้างคุณค่า และคืนผืนป่าได้จากการเลือกบริโภคกาแฟจากชุมชนมีวนา”

“โดยพันธมิตรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำจะเป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อน Mivana Community โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่สร้างการตระหนักรู้ไปสู่กลุ่มผู้บริโภค ทั้งเกรฮาวด์ คาเฟ่,บีนส์แอนด์บราวน์ ร้านกาแฟแบรนด์ Casa Lapin, เกรทเอิร์ธ อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้จัดจำหน่าย และกระจายกาแฟพรีเมี่ยมให้กับกลุ่มธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร ระดับ 5 ดาว สยามแม็คโคร และร้านสินค้าออร์แกนิก อาทิ ร้านใบเมี่ยง ร้านเลมอนฟาร์ม และเอสแอนด์พีอีกด้วย”

“อภิรุณ คาปิ่น” ประธานกลุ่มกาแฟอินทรีย์รักษาป่า บ้านขุนลาว จ.เชียงราย กล่าวเสริมว่าที่ผ่านมาชุมชนได้ทำงานเพื่อปกป้องผืนป่าต้นน้ำมาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อมีวนาเข้ามาสร้างการมีส่วนร่วม มีเจ้าหน้าที่ส่งเสริมให้เกษตรกร และคนในพื้นที่เข้าใจในการทำเกษตรแบบอินทรีย์ พัฒนาชุมชนให้ปลูกกาแฟ ทำให้ชุมชนมีแต่สิ่งที่ดี สุขภาพร่างกายของเกษตรดีขึ้น มีรายได้ที่แน่นอน

“ที่สำคัญ ยังมีเรื่องของการค้าที่เป็นธรรม ซึ่งมีวนามีให้กับเรามาตลอด พร้อมกับการช่วยสร้างแบรนด์กาแฟอินทรีย์มีวนา รวมถึงการกระจายสินค้าไปยังกลุ่มผู้ดื่มกาแฟระดับพรีเมี่ยม ทำให้คนปลายน้ำเข้าใจ และหันมาใส่ใจความเป็นอยู่ของคนต้นน้ำ ที่จะต้องเกื้อกูลและมีส่วนร่วมในการพลิกฟื้นผืนป่าที่ต้องเกิดการร่วมมือของทุกภาคส่วน”

ขณะที่ตัวแทนภาคธุรกิจที่เข้ามามีส่วนร่วมกับชุมชนมีวนาอย่าง “วรุณทิพย์ โตวรรณสูตร” ผู้จัดการอาวุโสการตลาด บริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ จำกัด บอกว่าเกรฮาวด์มีส่วนร่วมกับมีวนามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การใช้เมล็ดกาแฟในช่วงแรก ๆ เพราะมองถึงการช่วยรักษาป่าต้นน้ำ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากการใช้สารเคมี การสร้างอาชีพให้ชาวบ้าน และมีวนายังเป็นกาแฟที่เต็มไปด้วยคุณภาพ ตั้งแต่การปลูก เก็บ การแปรรูป จนนำมาชงเป็นกาแฟที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

“นอกจากนั้นเกรฮาวด์ยังคิดค้นสูตรกาแฟร่วมกับมีวนาให้เป็น Signature Greyhound Blend by Mivana Organic Forest Coffee เพื่อให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการทำสิ่งดี ๆ ให้กับสังคม ผ่านเรื่องราวดี ๆ ที่ทีมงานของเราไปสัมผัสในพื้นที่จริง ทำให้ผู้บริโภครับรู้ และเกิดการมีส่วนร่วมว่ากาแฟที่พวกเขาดื่มนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูธรรมชาติและเพิ่มพื้นที่ป่าใน จ.เชียงรายด้วย”


ทั้งหมดนี้เป็นแนวปฏิบัติในการสร้างพันธมิตรด้านความยั่งยืน จนเกิดการขยายผลเป็น “โมเดลป่ามีวนา” อนุรักษ์ฟื้นฟูป่าอย่างมีส่วนร่วม เพื่อให้ “คน” กับ “ป่า” อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนตลอดไป