คอลัมน์ CSr Talk
โดย สุรีพันธุ์ เสนานุช สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- พบรอยร้าวบ่อฝังกลบกากแคดเมียมของ เบาด์ แอนด์ บียอนด์
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
ภาพความโกลาหลจากการจลาจลในเมือง Gotham ในตอนจบของภาพยนตร์เรื่อง Joker ชวนให้คิดอีกครั้งว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำอาจถลำลึกไปจนถึงจุดวิกฤตแล้ว ถ้ายังไม่มีแนวทางจัดการที่ชัดเจน
บทความ “บทเรียนจาก Gotham ในภาพยนตร์ Joker สู่ฮ่องกง และประเทศไทย” ของ “ผศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม” ใน The Standard คลี่ภาพที่มาของสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำในสังคม ความกดดัน คับแค้น จนนำไปสู่ความบ้าคลั่ง ที่น่ากลัวคือเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ใช่ว่าจะไม่มีในสังคมไทย
ข้อมูลจาก “ไทยรัฐ” เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมาระบุว่า ในปี พ.ศ. 2559 มีผู้ลงทะเบียนรับสวัสดิการแห่งรัฐผ่านเกณฑ์ 7.5 ล้านคน ในปี พ.ศ. 2560 เพิ่มขึ้นเป็น 11.4 ล้านคน และในปี พ.ศ. 2561 เพิ่มขึ้นอีก 3.1 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นคนว่างงาน 4.94 ล้านคน กลุ่มที่มีรายได้ต่อปีที่เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด คือ 5,001-10,000 บาท จำนวน 2.61 ล้าน รายได้น้อยที่สุด คือ 1-5,000 บาท จำนวน 1.15 ล้าน ส่วนที่มีรายได้สูงสุด คือ 90,001-100,000 บาท มีจำนวน 231,000 คน
“รวยกระจุก จนกระจาย” คือ สภาพสังคมไทยในปัจจุบันที่รับรู้กันหลายปี แต่ไม่ควรเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะความเหลื่อมล้ำจะสร้างความเสียหายกับสังคมได้มากกว่าที่คิด
ประเทศจีนเป็นตัวอย่างประเทศที่มีนวัตกรรมเชิงนโยบายในการลดปัญหาความยากจนอย่างเป็นรูปธรรม มีการวางเป้าหมายที่ชัดเจนว่า ในปี ค.ศ. 2020 อัตราการเติบโตของรายได้ชาวนาในพื้นที่ยากจนจะต้องสูงกว่าอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยของประเทศ ลดความยากจนในพื้นที่ชนบททุกแห่ง ใช้กลยุทธ์ลดความยากจนด้วย นโยบาย “5-Batches” อันได้แก่ การพัฒนาอุตสาหกรรม, การโยกย้ายถิ่น, การชดเชยสิ่งแวดล้อม, การพัฒนาการศึกษา และสร้างความมั่นคงทางสังคม
พร้อมกับสร้างระบบที่สำคัญ 7 ระบบ ได้แก่ ระบบความรับผิดชอบ, ระบบนโยบาย, ระบบการลงทุน, ระบบการให้ความช่วยเหลือ, ระบบการเลื่อนชั้นทางสังคม, ช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายรอบด้าน และระบบการประเมิน
การลดความเหลื่อมล้ำ ถ้าทำจริงอย่างมีเป้าหมาย ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เกาหลีใต้ในสมัยรัฐบาล “ปาร์ก จุง ฮี”ทำสำเร็จมาแล้ว โดยการถมความแตกต่างของรายได้ระหว่างชนบทกับในเมืองในระยะเวลา 6 ปี ด้วยโมเดลที่เรียกว่า Saemaul Undong
นั่นคือภาพใหญ่ แล้วในภาพที่เล็กลงมา เราจะช่วยกันได้อย่างไร ในระดับองค์กรที่มี CSR เป็นเครื่องมือ และระดับปัจเจกชนที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม
เรื่องราวของ “คุณขวัญชัย ปรีดี” ผู้ทิ้งอาชีพช่างภาพแฟชั่นจากลอนดอน มาก่อตั้งหมู่บ้านนานาชาติเปรมปรีดี เป็นที่รวมของจิตอาสาจากทั่วโลก มาจัดค่ายให้เด็กไทยได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษ คือ ตัวอย่างหนึ่งของคนที่เข้ามามีส่วนในการร่วมแก้ไขสังคม ชมรมคนรักษ์วัดไทร ในซอยประดู่ 1 ย่านพระราม 3 กรุงเทพฯ ก็เป็นคนอีกหนึ่งกลุ่มที่ร่วมกันทำสิ่งดี ๆ ให้กับชุมชน ด้วยแรงศรัทธาที่มีต่อท่านอธิการปรีชา เจ้าอาวาสผู้สมถะ มีการจัดเรียนภาษาอังกฤษฟรี ให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ในวันเสาร์-อาทิตย์ และสอนการทำอาหาร ทำเวชภัณฑ์จากสมุนไพรให้เป็นอาชีพ โดยมีอาสาสมัครมาจากแหล่งต่าง ๆ เข้ามาเนืองแน่น
สำหรับองค์กรธุรกิจที่มีศักยภาพมากกว่า ถึงเวลาที่ต้องพิจารณาปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างจริงจังหรือยัง เป้าหมายสุดท้ายในการแก้ปัญหานี้คือ การช่วยให้ผู้ด้อยโอกาสในสังคมพึ่งตนเองได้ มีรายได้พอยังชีพ ไม่มีหนี้สิน มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง มีสวัสดิการดูแลยามเจ็บป่วย เด็ก ๆ ได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียม
ดังนั้น การทำงานกับชุมชนจึงต้องทำให้ครบทุกมิติ เริ่มจากการเก็บข้อมูลเพื่อคัดแยกกลุ่มความต้องการที่แตกต่างกันตามปัญหา นำมาวางแผนการบริหารจัดการ กำหนดเป้าหมาย ติดตาม ประเมินผล เป็นงานที่ต้องการความต่อเนื่อง จึงไม่ใช่กิจกรรมที่จบไปในแต่ละปีเหมือนที่ผ่านมา คนทำงานต้องมีความรู้ ทักษะในการทำงาน กับความแตกต่างทั้งวิธีคิด และวิถีชีวิต ต้องทำความเข้าใจเพื่อให้เข้าถึง จึงนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้
ในภาพยนตร์เรื่อง Joker ความบ้าคลั่งของ “อาเธอร์ เฟล็ก” มาจากวันอันเลวร้ายเพียงวันเดียวที่โถมใส่ชีวิตที่อับจนของเขา ถูกวัยรุ่นรุมแกล้งด้วยความสนุกสนาน ถูกไล่ออกจากงานโดยนายจ้างไม่ใส่ใจว่า เขาเผชิญปัญหาอะไรบ้าง สวัสดิการรักษาโรคจิตที่ต้องรับยาประจำถูกยกเลิกจากการตัดงบประมาณของรัฐ สถานการณ์เกิดขึ้นได้เสมอกับทุกคนในทุกสังคม โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสที่ไม่มีใครเคยมองเห็นตัวตนของพวกเขา
หากยังปล่อยให้ความเหลื่อมล้ำเป็นเพียงข้อมูลที่ไม่ได้นำมาพิจารณาแก้ไข โอกาสที่ปัญหาจะดิ่งลึกลงไปกว่าที่เห็นและเป็นอยู่มีโอกาสสูงมาก และเมื่อถึงวันที่ความยากจนแผ่ขยายปริมาณออกไปเรื่อย ๆ กลุ่มคนที่กระจุกตัวกลุ่มเล็ก ๆ แม้จะร่ำรวยด้วยทรัพย์สินมหาศาลขนาดไหน ก็ไม่อาจเป็นสุขได้อย่างแน่นอน
ข้อมูลอ้างอิง : https://readthecloud.co/prampredee/https://thestandard.co/joker-gotham-lesson-learned/https://: www.salika.co/2018/08/08/guizhou-use-big-data-and-cloud-reduce-poverty/ (หน้า 32, 31)