เก็บไทยให้สวยงาม สร้างแรงบันดาลใจจัดการขยะยั่งยืน

จากประกาศวิสัยทัศน์ “World Without Waste” ของ “โคคา-โคลา” ในการมุ่งใช้ และจัดการบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มอย่างรับผิดชอบ เพื่อลดปัญหาขยะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายคือการจัดเก็บบรรจุภัณฑ์เพื่อนำกลับมารีไซเคิลในปริมาณเทียบเท่ากับปริมาณบรรจุภัณฑ์ที่จำหน่ายออกสู่ตลาดให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ก่อนปี 2573 จึงทำให้ “กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาในประเทศไทย” ดำเนินกิจกรรมและโครงการในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อมุ่งสร้างจิตสำนึก ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คนให้เห็นถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาขยะ

อีกทั้งยังร่วมมือกับพันธมิตร คู่ค้า บริษัทผู้ผลิตขวด ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนทำงานร่วมกับชุมชน ผู้บริโภคให้หันมาช่วยกันเก็บบรรจุภัณฑ์มารีไซเคิลอย่างถูกต้อง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะบรรลุเป้าหมายภายใต้วิสัยทัศน์ World Without Waste

โดยล่าสุด “โคคา-โคลา” ภายใต้ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิโคคา-โคลา ประเทศไทย, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และมูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน มีการเปิดตัวโครงการ “เก็บไทยให้สวยงาม (Keep Thailand Beautiful)” ซึ่งเป็นโครงการที่มีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอุทยานแห่งชาติให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบในการจัดการขยะมูลฝอย ผ่านการทำงานร่วมกันเพื่อศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำโครงการ “การจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืนในเขตอุทยานแห่งชาติ” ในพื้นที่นำร่องจำนวน 10 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่

1) อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด 2) อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี 3) อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง 4) อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน 5) อุทยานแห่งชาติตะรุเตา (เกาะหลีเป๊ะ)

6) อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา 7) อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี 8) อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 9) อุทยานแห่งชาติเอราวัณ และ 10) อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นชุมชน ผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ในการสร้างการรับรู้ และตระหนักถึงปัญหาขยะในเขตอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ

ทั้งยังเพื่อเป็นการแนะนำโครงการเก็บไทยให้สวยงามอย่างเป็นทางการ โคคา-โคลา จึงจับมือกับ “เดอะ คลาวด์” ชวนผู้บริโภคร่วมออกเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง พื้นที่อุทยานแห่งชาติอันเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว และเป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องของโครงการในกิจกรรม“มาหาเสม็ดเรียนรู้คุณค่า รู้จักการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และจัดการกับขยะอย่างยั่งยืน” เพื่อมุ่งเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ วิธีการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอย พร้อมกับการเรียนรู้คุณค่า รู้จักการอยู่ร่วมกับธรรมชาติพร้อมแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการจัดการขยะอย่างยั่งยืน

“นันทิวัต ธรรมหทัย” ผู้อำนวยการองค์กรสัมพันธ์ การสื่อสาร และความยั่งยืน บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่าโคคา-โคลา เข้าใจดีว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีความสำคัญต่อประเทศ เพราะสร้างรายได้เป็นลำดับต้น ๆ และอุทยานแห่งชาติที่มีความสวยงามถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน

“ด้วยเหตุนี้ เราจึงริเริ่มโครงการเก็บไทยให้สวยงาม เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยวางเป้าหมายที่จะทำให้อุทยานแห่งชาติให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวต้นแบบที่ดีในการจัดการขยะมูลฝอยในประเทศไทย ผ่านการส่งเสริมการบริหารจัดการขยะอย่างยั่งยืน และการรณรงค์ลดใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง และเลิกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นโฟมในเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีความตระหนักในผลกระทบ อันจะนำไปสู่การปฏิบัติและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต่อไป”

“สำหรับกิจกรรมมาหาเสม็ด ที่เราเชิญชวนผู้บริโภคร่วมเดินทางมายังเกาะเสม็ดครั้งนี้ เนื่องจากเกาะเสม็ดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกตลอดทั้งปีกว่า 1.2 ล้านคน ทำให้ปริมาณขยะบนเกาะมีมากเกินกว่าความสามารถในการบริหารจัดการขยะ โดยคิดเป็นจำนวนขยะเฉลี่ย 6 ตันต่อวัน”

“ขณะที่ขยะบางส่วนไม่ได้ถูกคัดแยกอย่างเหมาะสมตั้งแต่ต้นทาง ทำให้ยากต่อการนำไปจัดการต่ออย่างมีประสิทธิภาพ จนให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชน และระบบนิเวศ แต่ยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเกาะเสม็ด จนนำรายได้เข้าสู่ประเทศจำนวนมหาศาลทุก ๆ ปีอีกด้วย”

“นันทิวัต” กล่าวอีกว่ากิจกรรมมาหาเสม็ดครั้งนี้ นอกจากผู้บริโภคจะได้ชื่นชมความสวยงามทางธรรมชาติที่หลากหลายตลอดระยะเวลา 3 วันแล้ว ยังมีโอกาสได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ที่มีความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการโรงแรม White Sand Resort รวมไปถึงเรื่องขยะใกล้มือโดยเจ้าของร้าน SoLUTion Refill@Station เกาะเสม็ด และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการขยะ

โดยบริษัท ไทยไพบูลย์ ระยอง จำกัด ผู้ประกอบกิจการประเภทการบำบัด และการกำจัดของเสียที่ไม่เป็นอันตราย ตลอดจนสัมผัสประสบการณ์อาหารรูปแบบใหม่ที่มีแนวคิดจากการเชื่อมโยงเรื่องราวของขยะที่เกิดขึ้นในท้องทะเล โดยเชฟแบล็ก หรือภานุภน บุลสุวรรณอีกด้วย

“กิจกรรมมาหาเสม็ดนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Earth Appreciation หรือการเรียนรู้ธรรมชาติใกล้ตัวฉบับ 101 โดยเป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากการเดินทางตามน้ำ และมาหาสมุทร โดยเป็นความริเริ่มของโคคา-โคลา ที่ต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคได้ตระหนักและเข้าใจถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวผู้บริโภค แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจเกิดผลกระทบใกล้ตัวมากกว่าที่คิด”

“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้บริโภคจะตระหนักถึงบทบาทที่ตนมีในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะร่วมจัดการปัญหาขยะในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการแยกขยะที่ต้นทางในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการสร้างนิสัยและวินัยในการแยก และจัดการขยะอย่างมีความรับผิดชอบในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อย่างอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศต่อไปอีกด้วย”