เศรษฐกิจแบบหมุนเวียน (circular economy) เป็นระบบเศรษฐกิจที่มุ่งเรื่องการใช้ทรัพยากรคุ้มค่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือไอวีแอล ผู้ดำเนินธุรกิจรีไซเคิลครบวงจรในประเทศไทยมานานกว่า 8 ปี ได้ยึดถือระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนเป็นหลักในการดำเนินธุรกิจ
จุดเด่นของบริษัท คือ การมีเทคโนโลยีล้ำหน้าจากยุโรป ในการรีไซเคิลพลาสติก PET (polyethylene terephthalate) อย่างครบวงจรสู่ผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกรีไซเคิล rPET และ rHDPE ที่โรงงานในจังหวัดนครปฐม โดยแต่ละปีสามารถรีไซเคิลขวด PET เฉลี่ย 1.65 พันล้านขวด ซึ่งช่วยประเทศไทยลดการใช้น้ำมันดิบกว่า 530,000 บาร์เรล ลดการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 118 ล้านกิโลกรัม
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
“ริชาร์ด โจนส์” รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กร ความยั่งยืน และทรัพยากรบุคคล บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วง 15 ปีแรก บริษัทของเราอยู่ในนามอินโดรามา โฮลดิ้ง เริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตเส้นใยขนสัตว์รายแรกของประเทศไทย ก่อนจะก้าวเข้าสู่ธุรกิจเคมีภัณฑ์ และประสบความสำเร็จในฐานะผู้ผลิต PET และเส้นใยโพลีเอสเตอร์รายใหญ่ที่สุดในประเทศ จากนั้นจึงมีการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคต่าง ๆ โดยเข้าซื้อกิจการในทวีปอเมริกา และทวีปยุโรป จนทำให้เป็นผู้ผลิตสารตั้งต้น PTA รายใหญ่ในอุตสาหกรรมและเป็นผู้ผลิต PET ระดับโลก
“เราเริ่มเข้าสู่ธุรกิจรีไซเคิลเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2554 เพื่อตอบสนองความท้าทายในการจัดการพลาสติกอย่างเป็นรูปธรรม ปัจจุบันมีโรงงานรีไซเคิล 11 แห่งทั่วโลก ในเนเธอร์แลนด์, ไอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, สหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก รวมถึงโรงงานรีไซเคิลในประเทศไทย ซึ่งไอวีแอลก่อตั้งโรงงานรีไซเคิลโพลีเอสเตอร์และพลาสติก PET ครบวงจรในประเทศไทย เป็นครั้งแรกในปี 2557 และเป็นโรงงานรีไซเคิลแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตจากยุโรป”
“ปัจจุบันลูกค้าของอินโดรามา เวนเจอร์ส ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก มีความต้องการใช้วัสดุ และบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากรีไซเคิลของเราอย่างต่อเนื่อง เช่น ประเทศญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย และสหภาพยุโรป ซึ่งประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทั้ง 28 ประเทศ ยอมรับการนำเม็ดพลาสติกรีไซเคิลมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร แสดงให้เห็นว่าเม็ดพลาสติกรีไซเคิลได้มาตรฐานและปลอดภัย โดยเยอรมนีมีอัตราการนำขวดพลาสติกมารีไซเคิลสูงสุดในสหภาพยุโรป มากถึงร้อยละ 94 ส่วนในเอเชีย ประเทศญี่ปุ่นมีอัตราการนำพลาสติกมารีไซเคิลสูงสุด มากถึงร้อยละ 83”
“ผลเช่นนี้จึงทำให้เราตั้งเป้าหมายการรีไซเคิลขวดพลาสติก PET เพิ่มขึ้นเป็น 750,000 ตัน ในปี 2568 ซึ่งสอดคล้องกับคณะกรรมาธิการยุโรปที่ประกาศเป้าหมายที่จะให้เพิ่มสัดส่วนการใช้เม็ดพลาสติก PET รีไซเคิล (rPET) เป็นร้อยละ 25 ของเม็ดพลาสติกที่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนั้น เรากำลังร่วมมือกับ 2 สตาร์ตอัพระดับโลก ได้แก่ Loop Industries ในอเมริกาเหนือ และ Ioniqa ในยุโรป เพื่อพัฒนานวัตกรรมเคมิคอลส์รีไซเคิล ซึ่งจะสามารถทำให้ PET ที่ผ่านการใช้งานแล้วแตกตัวจนถึงระดับโมเลกุลพื้นฐาน โดยเทคโนโลยีนี้จะทำลายข้อจำกัดในการรีไซเคิล PET ที่มีสี ซึ่งเป็นปัญหาของอุตสาหกรรมรีไซเคิลมายาวนาน โดยคาดว่าการพัฒนาเทคโนโลยีอันล้ำสมัยจะแก้ไขปัญหาขยะทั่วโลกนี้สำเร็จในปี 2563”
“อนิเวช ติวารี” หัวหน้าโรงงานอินโดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรี้ส์ นครปฐม เปิดเผยว่า โรงงานรีไซเคิลในไทยที่จังหวัดนครปฐมดำเนินธุรกิจรีไซเคิลขวดพลาสติก ผลิตเส้นใยและเม็ดพลาสติก PET รีไซเคิล (rPET) โดยมีกำลังผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์ จำนวน 120,000 ตันต่อปี และเม็ดพลาสติกรีไซเคิล 29,000 ตันต่อปี เพื่อรองรับลูกค้าในตลาดหลากหลายกลุ่ม
“เพื่อสร้างคุณค่าสูงสุดให้กับวัสดุที่ใช้งานแล้ว เราจึงพัฒนาความสามารถในการรีไซเคิลฝาขวด HDPE และฉลาก PP ส่วนฉลาก PVC ซึ่งปัจจุบันได้จ้างบริษัทรับจัดเก็บตามข้อกำหนดของรัฐบาล อยู่ระหว่างการคิดค้นวิธีนำมาใช้ประโยชน์ได้ใหม่อีกด้วย นอกจากนี้ เรายังหมุนเวียนน้ำในโรงงานให้กลับมาใช้ใหม่ได้ถึงร้อยละ 80”
นับเป็นบริษัทที่ดำเนินงานสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามกรอบสหประชาชาติ (The UN Sustainable Development Goals) ที่ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรและการผลิตอย่างยั่งยืน