เทสโก้ ใช้ “ตลาดนำเกษตร” ซื้อตรงจากผู้ปลูกเพิ่มรายได้

บริษัท เทสโก้ โลตัส จำกัด ได้วางนโยบายไว้ชัดเจนว่าจะขยายการรับซื้อพืชผลทางการเกษตร ด้วยวิธี “ซื้อตรง” จากเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มี 600 ราย ให้เพิ่มเป็น 1,000 รายในอนาคต ล่าสุดได้มีความร่วมมือกับชมรมส่งเสริมพัฒนาอาชีพอิสระคนพิการ ด้วยการรับซื้อฟักทอง เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับผู้บริโภคผ่านสาขาของเทสโก้ โลตัส ใน 4 จังหวัดภาคเหนือ

“พรเพ็ญ นาถพิริยรัตน์” รองประธานกรรมการแผนกกำกับดูแลคุณภาพสินค้า บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ระบุถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า เกิดขึ้นจากการนำขอนแก่นโมเดลมาใช้ เพื่อรับซื้อผลผลิตตรง ลดการถูกกดราคาโดยพ่อค้าคนกลางที่ภาคเกษตรต้องเผชิญในอดีต อีกทั้งยังช่วยประกันราคาพืชผลเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรด้วย และความร่วมมือกับชมรมดังกล่าว เพราะผลผลิตได้มาตรฐาน รสชาติและสีสันที่ดี จึงเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก

“เราไม่ได้รับซื้อผักอย่างเดียว ยังมีสินค้าอื่น ๆ ที่เป็นที่ต้องการของตลาดอีก เช่น แตงกวา แตงร้าน เป็นต้น จึงมองว่ากลุ่มนี้จะเป็นโมเดลใหม่ที่เราสามารถขยายสินค้าเกษตรที่นอกเหนือจากที่มีอยู่มากขึ้นได้ สร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับเกษตรกรทั่วประเทศได้อย่างมาก”

นอกจากนี้ “วันเพ็ญ” ยังบอกอีกว่า ขณะนี้กำลังมองถึงสินค้าอื่น ๆ ในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อส่งให้กับเทสโก้ โลตัส อย่างเช่น มะละกอ ซึ่งอยู่ในระหว่างพิจารณาสภาพพื้นที่เพิ่มเติมว่าจะเหมาะสมในการปลูกหรือไม่ อีกทั้งเทสโก้ โลตัส ยังต้องการให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมีในการเพาะปลูก อีกทั้งต้องการให้ใช้ “ตลาดนำเกษตร” เกษตรกรจึงจะอยู่ได้อย่างมั่นคง

 

“เราเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ยาก และเราจะสนับสนุนเครือข่ายมากขึ้น กรณีซื้อตรงจากกลุ่มนี้ยิ่งทำให้เชื่อมั่นว่าเราจะสามารถขยายไปต่อได้ คุณภาพของฟักทองที่นี่ยังเป็นที่ต้องการ ปริมาณ 2 ตันในช่วงเริ่มต้น เรามองว่าในอนาคตจะขยายปริมาณรับซื้อได้ถึง 10 ตันด้วยซ้ำ เพราะความต้องการของเรามีอยู่ทั่วประเทศมากกว่า 10 ตัน อยากจะแนะนำว่า อย่าปลูกมากจนเกินความต้องการ เพราะจะส่งผลกระทบต่อราคาที่ตกลง สิ่งที่เทสโก้มองหาคือ “คุณภาพ” และเกษตรปลอดภัยตั้งแต่คนปลูก เพราะฉะนั้น ผู้บริโภคก็จะปลอดภัยด้วยเช่นกัน”

 

ทั้งนี้ สำหรับจุด “พลิกผัน” ที่ทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างเทสโก้ โลตัส กับชมรมส่งเสริมพัฒนาอาชีพอิสระคนพิการในครั้งนี้ “อรรถพล กันธะอุดม” ในฐานะประธานชมรมเล่าว่า ก่อนหน้าที่จะได้ผลผลิตที่ดีตามมาตรฐานนั้น ได้ผ่านช่วงทดลองปลูกอย่างต่อเนื่อง จนได้ฟักทองพันธุ์เหลืองอำไพที่เป็นที่ต้องการของตลาด น้ำหนักเฉลี่ยที่ 3 กิโลกรัมต่อผล และหากได้น้ำที่ดีต่อเนื่อง ทำให้ได้ฟักทองหนักรวม 7 กิโลกรัมต่อผลทางชมรมส่งเสริมพัฒนาอาชีพฯจะเป็นตัวกลางรวบรวมลูกไร่ที่ปลูกฟักทองให้มาร่วมชมรม โดยจะจัดส่งผลผลิตให้เทสโก้ โลตัส ที่ 2 ตันต่อสัปดาห์ จากสมาชิกที่มีอยู่ 400 คน แต่ที่ดำเนินการปลูกฟักทองอยู่ที่ 35 ราย รวมไปจนถึงกลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์และเกษตรกรในพื้นที่ราบอีก 3 อำเภอ แต่ที่ใช้พื้นที่ปลูกมากที่สุด คือ ในอำเภอเวียงแหง ที่อยู่ติดชายแดนไทย-พม่า ประมาณ 90 ไร่

“อรรถพล” บอกอีกว่า หลังจากที่ชมรมส่งเสริมพัฒนาอาชีพฯเริ่มประสบความสำเร็จ ก็เริ่มมีเกษตรกรในพื้นที่ให้ความสนใจมากขึ้น อีกทั้งการปลูกฟักทองก็ไม่ต้องใช้เวลาในการดูแลมากนัก และยังทำรายได้ค่อนข้างดี หลังจากนั้นก็มีการส่งขายให้กับโรงแรมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างมาก และไม่ถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลางอีก

“ช่วงที่ขึ้นไปเวียงแหงครั้งแรก พื้นที่เต็มไปด้วยการปลูกฝิ่นเต็มไปหมด ตอนเริ่มแรกชมรมยังไม่มีตลาดที่จะรับฟักทองได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเทสโก้ โลตัส เข้ามาส่งเสริม อีกทั้งเมื่อเริ่มมีหลักประกันที่มั่นคงแล้ว เราสามารถเข้าไปคุยกับลูกไร่ในพื้นที่ต่าง ๆ ได้ จึงกล้าที่จะรับประกันได้ มาถึงจุดพลิกผันเมื่อเทสโก้ โลตัส เข้ามา ก็เริ่มทำอย่างเต็มตัว”

“อรรถพล” ยังบอกอีกว่า แม้ว่าปริมาณฟักทองที่ 2 ตัน จะดูเป็นปริมาณที่ค่อนข้างน้อย เพราะในการปลูกฟักทองยังมี “ข้อจำกัด” โดยสามารถเพาะปลูกที่ให้ได้ผลผลิตที่ได้มาตรฐานตั้งแต่ช่วงมีนาคม-พฤศจิกายนเท่านั้น ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนทดลองปลูกอย่างไรจึงจะสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ข้อจำกัดดังกล่าวยังทำให้ไม่สามารถรับออร์เดอร์รายใหม่ได้ เพราะส่วนใหญ่จะป้อนผลผลิตให้กับลูกค้าเดิมและเทสโก้ โลตัส

“สำหรับการจัดการภายในชมรมนั้นจะใช้หลักการที่ว่า หลังหักค่าใช้จ่ายในแต่ละรอบแล้วนั้น เราจะนำรายได้เข้ากลุ่มไว้ที่ประมาณ 50% ทั้งนี้ ราคาที่เรารับจากเกษตรกรค่อนข้างสูงอยู่แล้ว เพราะเราต่างเน้นจุดที่ว่าเกษตรกรต้องอยู่ได้อย่างยั่งยืน”