Empower Living “เอพีนำองค์กรแสวงหาโอกาสธุรกิจ”

"วิทการ จันทวิมล"

ต้องยอมรับว่าในบริบทของเอพี ไทยแลนด์ กรุ๊ป ไม่เพียงจะเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของเมืองไทย หากยังเป็นองค์กรหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี โดยเฉพาะเรื่องนวัตกรรมต่าง ๆ ที่จะนำมาปรับใช้กับองค์กรของตัวเอง

ทั้งนั้นเพราะเอพี ไทยแลนด์ กรุ๊ป มุ่งเน้นองค์กรที่จะรุกพันธกิจใหญ่ในการเติมเต็มชีวิตที่ปรารถนาบนคอนเซ็ปต์ “empower living” ด้วยการดำเนินงานที่พร้อมสนับสนุนให้ทุกคนในสังคม สามารถเติมเต็มทุกเป้าหมายของชีวิตตามใจปรารถนา ด้วยนวัตกรรมสินค้า การบริการที่มีคุณค่าที่มีความหมายต่อชีวิตใน 4 กลยุทธ์สำคัญ คือ

หนึ่ง AP THAILAND values มุ่งสร้างค่านิยมที่จะเป็นดีเอ็นเอสำคัญในการหล่อหลอมบุคลากรกว่า 2,000 คน ภายใน 6 องค์กรเครือเอพีให้มีพฤติกรรมที่พร้อมส่งมอบนวัตกรรมสินค้า และบริการที่ตอบสนองเป้าหมายในชีวิตที่แตกต่างกันของลูกค้าอย่างลงตัว และสมบูรณ์ที่สุด

สอง masterplan for tomorrow การเดินหน้าขยายขอบเขตในการสร้างพิมพ์เขียวแห่งการอยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพให้ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

สาม designing your future การมุ่งแสวงหาความต้องการที่ยังไม่ถูกค้นพบ หรือ unmet needs ของลูกค้า เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้า และนวัตกรรมบริการ หรือ creative solution ใหม่ ๆ ที่มีคุณค่าเพื่อยกระดับชีวิตในวันนี้ให้ดียิ่งขึ้น

สี่ power of ecosystem การสร้างระบบนิเวศที่จะช่วยสนับสนุนการมีคุณภาพชีวิตที่ดีแบบครบวงจร

โดยเฉพาะ AP THAILAND Values ซึ่งถือเป็นค่านิยมใหม่ ๆ ของเอพี ไทยแลนด์ กรุ๊ป ที่แม้จะถูกปลูกฝังอยู่ในองค์กรมา 2 ปี แต่กระนั้น เมื่อนำมาผนวกกับการคิดนอกกรอบ และการออกแบบความคิดใหม่ ๆ จึงทำให้ AP THAILAND Values ถูกนำมาให้พนักงานลงมือปฏิบัติ กระทั่งกลั่นกรองออกมาเป็น “ค่านิยมใหม่” ที่มีประสิทธิภาพสูงยิ่ง

สำหรับเรื่องนี้ “วิทการ จันทวิมล” รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ เอพี
ไทยแลนด์ กรุ๊ป กล่าวว่า เพราะความท้าทายที่เกิดขึ้นในโลกธุรกิจ ทั้งในบทบาทของเทคโนโลยีที่เข้ามาดิสรัปต์หลายภาคธุรกิจ และคู่แข่งจากภายนอกธุรกิจ (unknown unknown competitors) ที่เข้ามาแชร์ตลาด ทั้งในเรื่องความพร้อมของเงินทุน และข้อมูลแบบที่ไม่ทันตั้งตัว จึงทำให้เกิดความคาดหวังเพิ่มขึ้นของลูกค้าที่จะมองเรื่องของปัจจัยต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจภายในประเทศ

“ดังนั้น ในท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น คำถามคือเราจะทำอย่างไรให้สินค้า หรือบริการที่พัฒนาขึ้นนั้นสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ตลอดจนนำพาองค์กรก้าวเดินไปสู่การเติบโต พร้อมการแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจในเวลาเดียวกัน”

AP THAILAND values” จึงเป็น “ค่านิยมใหม่” อย่างหนึ่งที่จะทำให้เอพีไทยแลนด์ กรุ๊ป เกิดความยั่งยืนจาก 5 ส่วนด้วยกัน คือ

หนึ่ง put people first การที่เราจะเติมเต็มคน สิ่งหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจก่อนคือคน และคนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้า เป็นคนในองค์กรก็ได้ แต่เราต้องเข้าใจก่อนว่า เขามีวัตถุประสงค์ในชีวิตอย่างไร ? เขามีความคาดหวังอย่างไร ? หลังจากนั้นจึงมากลั่นกรอง เพื่อสร้างนวัตกรรม หรือแผนงานต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์คนเหล่านี้

สอง build together เพราะเรามีความเชื่อว่าไม่มีคนเก่งคนเดียวในโลก แต่ทุกคนจะต้องทำงานร่วมกัน ที่สำคัญ เราทำงานเรื่องนี้ในเอพีฯมาสักระยะหนึ่งแล้วด้วยการทำงานข้ามแผนก วิธีการคือนำคนแต่ละแผนกมานั่งทำงานร่วมกัน เพื่อพัฒนางานบางอย่างขึ้นมา และเราไม่เชื่อว่าแค่เอพีฯเท่านั้นที่ทำได้ เพราะลักษณะการทำงานของเราจะทำงานกับพันธมิตรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรทางด้านผู้รับเหมา, ซัพพลายเชน หรือพาร์ตเนอร์ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้แก่คนทำงานของเรา

สาม progress with purpose เนื่องจากเอพีฯมีวัตถุประสงค์ในการสร้างคน ทั้งยังมีการนำคนเหล่านี้มาถ่ายทอดให้แต่ละหน่วยงาน แม้แต่คนที่อยู่ข้างล่างสุดของโครงสร้างองค์กรก็เข้าใจว่าเรากำลังทำงานอะไรอยู่ เพราะที่ผ่านมาในอดีตองค์กรจะพบปัญหาว่าเมื่อพนักงานที่ไม่ได้เป็น top management เขาจะทำงานไปวัน ๆ พวกเขาแค่ทำงานให้เสร็จ แต่ไม่เข้าใจเรื่องของวัตถุประสงค์จริง ๆ จนทำให้อัตราการเทิร์นโอเวอร์ของพนักงานในระดับล่างมีสูง

แต่พอเอพีฯนำเรื่องนี้มาอธิบาย พนักงานจะรู้สึกว่าชีวิตของเขามีคุณค่าต่อองค์กร และทุกงานที่ทำอยู่มีคุณค่าต่อตัวเอง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เนื่องจากเราทำรีเสิร์ชพบว่าเมื่อพนักงานมีคุณค่าต่อองค์กร สิ่งที่เขาทำจะรัก และจะอยู่กับองค์กรไปนาน ๆ ฉะนั้น progress with purpose ต่อไปจะเข้มข้นยิ่งขึ้นนับจากนี้

สี่ go beyond ความสำเร็จในวันนี้จะต้องมีมากกว่าในวันข้างหน้า ดังนั้น ทุกเรื่องที่ทำจะต้องนำเสนอลูกค้าให้ดีขึ้น และจะต้องส่งมอบสิ่งดี ๆ ให้กับลูกค้า

ห้า be innovative สิ่งสำคัญคือต้องสร้างองค์กรแห่งการคิดค้นใหม่ ๆ การที่จะเป็นอย่างนี้ได้จำต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคนให้ได้สัก 2-3 อย่าง คือ หนึ่ง ต้องเป็นคนช่างสงสัย, อยากรู้อยากเห็น, ต้องคิดเสมอว่ามีอะไรใหม่ ๆ ไหม และมีอะไรน่าสนใจไหม สอง ต้องกล้าฝัน กล้าคิดไปข้างหน้า และคิดจะทำอย่างไรให้แตกต่าง และสาม ต้องกล้านำความฝันนั้นไปทดลองทำ ทำผิดก็แก้ไขใหม่ อันนี้เป็นค่านิยมที่ทำให้เกิด be innovative ซึ่งเป็นค่านิยมใหม่ที่เติมเข้าไป

นอกจากนั้น “วิทการ” ยังอธิบายถึงเรื่อง “BIM sustainable development” ที่เกี่ยวข้องกับคำอธิบายดังนี้ คือ

B-building

I-information

M-management

“จริง ๆ เราทำเรื่อง BIM sustainable development มา 2 ปีแล้ว และโครงการที่เราทำเรื่องนี้ก็ออกสู่ตลาดไปบ้างแล้ว ที่สำคัญ เราใช้ BIM ในการซื้อที่ดิน, กระบวนการออกแบบ, กระบวนการก่อสร้าง จนถึงกระบวนการส่งมอบลูกค้า เพราะ BIM คือการพัฒนานวัตกรรมอย่างหนึ่งที่ไม่ใช่ซอฟต์แวร์ แต่เป็นสิ่งที่ต้องมานั่งช่วยกันคิดค้น และใช้พลังค่อนข้างมากในการติดต่อสื่อสารกับคน

นอกจากนั้น คนที่ร่วมอยู่ในระบบนิเวศของ BIM รวมถึงเงินที่ลงทุนไปตลอดระยะเวลา 2 ปี จึงไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท เพื่อเราจะพัฒนานวัตกรรมที่เรียกว่า BIM เข้าไป”

“โดยเฉพาะการลงทุนเรื่องคน, เทรนนิ่งและเรื่องของการจูงใจที่จะทำอย่างไรให้คนมาทำงานร่วมกัน เฉพาะลงทุนเรื่องคนก็ 10 ล้านบาทแล้ว ไหนจะเรื่องเกี่ยวกับซอฟต์แวร์อีก เพื่อให้การทำงานของ BIM มีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนั้นยังมีเรื่องอื่น ๆ อีกมากมายที่ต้องเข้าไปจัดการ โดยเฉพาะเรื่องของระบบอะไรต่าง ๆ ดังนั้น BIM จึงไม่ใช่เรื่องของการซื้อซอฟต์แวร์แล้วมาดำเนินงานในองค์กร แต่เป็นการพัฒนานวัตกรรม กระบวนการออกแบบ และการก่อสร้างสมัยใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์”

“ทั้งนั้นเพราะเป้าหมายในอนาคต เราต้องการสร้าง AP BIM Academy และที่ผ่านมาเราทำเรื่องนี้มา 2 ปีแล้ว แต่เก็บไว้ในออนไลน์ หรือเทรนนิ่งฮับ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 50-60 คอร์ส ที่เปิดโอกาสให้พนักงานเข้าไปเรียน เพราะเราอยากถ่ายทอดให้กับคนในองค์กรของเราก่อน แต่ตอนหลังได้รับการร้องขอจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ เราจึงส่งเจ้าหน้าที่ของเราออกไปเทรนนิ่งให้กับคณะต่าง ๆ ในมหา”ลัย ที่สำคัญ เรามีเปิดบริการให้นิสิต-นักศึกษาเหล่านั้น สามารถ login เข้ามาใช้ใน AP BIM Academy ได้ด้วย”

“ดังจะเห็นว่านิสิต-นักศึกษารุ่นใหม่ต่างให้ความสำคัญกับ BIM มาก ทั้ง ๆ ที่ระบบการศึกษาของเรายังเป็นวิชาทางเลือก ไม่ใช่วิชาหลัก และหลายคนนำ BIM ไปหากินแล้ว เพราะคนที่ทำเรื่องนี้เป็นมีน้อยมาก เราก็เลยคิดว่าจะนำ BIM ไปส่งเสริมเรื่องของการศึกษาในคณะที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นคณะวิศวะ หรือสถาปัตย์”

แต่การจะเป็น “empower living” ได้ “วิทการ” บอกว่า…ชีวิตของพวกคุณจะต้องถูกออกแบบเสียก่อนฉะนั้น จึงไม่แปลกที่เอพี ไทยแลนด์ กรุ๊ป จะให้ความสำคัญกับศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน (SEAC) เพราะเขามองเห็นว่าภาพของอนาคต ไม่ว่าจะเป็นบริษัท,ผู้บริหาร, ผู้ถือหุ้น, พนักงาน และพันธมิตรทางธุรกิจต่าง ๆ จะต้องมองภาพองค์กรเป็นภาพเดียวกัน

ผลเช่นนี้ จึงทำให้เอพี ไทยแลนด์ กรุ๊ป ให้ความสำคัญกับเรื่อง “designing your future”

“เอพีฯในอนาคต 5-10 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร และเราจะทำอะไรได้บ้าง ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราคิด และมองว่าจะอาศัยจุดแข็งของเราทำอะไรได้บ้าง เพื่อมาต่อยอดธุรกิจ ตรงนี้จึงเป็นคำตอบที่เราทำ SEAC เพราะมองว่าการที่เราจะเติมเต็มความรู้สึกของลูกค้าให้ชีวิตสมบูรณ์ เขาจะต้องมีความสุขกับตัวเอง, ครอบครัว เพื่อน ฯลฯ และความเจริญก้าวหน้าในอาชีพ ดังนั้น องค์ประกอบที่จะทำให้ชีวิตของคนเรามีความสุขได้คือ การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ”

“เราจึงสนับสนุนเรื่องของ lifelong learning เพราะเชื่อว่าการเรียนรู้ไม่ใช่แค่เรียนมหา”ลัยแล้วจบ แต่การเรียนรู้เป็นการเดินทางตั้งแต่เด็ก เราจึงมีโครงการ Your Next U Young ซึ่งเป็นหลักสูตรในการพัฒนาเด็ก เพื่อให้เขาเห็นศักยภาพก่อนเข้ามหา”ลัย ทั้งยังทำให้เขารู้ว่าเก่งทางด้านไหน โดยเราจะเทรนเขาทั้งในแง่ของการมองเทคโนโลยีต่าง ๆ และสอนให้เขาคิด วิเคราะห์ เพื่อเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต ขณะเดียวกัน เราก็มีโครงการ Your Next U ซึ่งเป็นหลักสูตรธุรกิจที่ต้องการพัฒนาคนวัยทำงานให้มีศักยภาพสูงขึ้น มีการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา โดยผ่านโปรดักต์ต่าง ๆ ที่นำมาจากสถาบันดัง ๆ ทั่วโลกในราคาที่เหมาะสม ที่สำคัญ ผู้ที่เรียนหลักสูตรนี้สามารถเรียนรู้ผ่านอินเทอร์เน็ต และจะเรียนรู้ที่ไหนก็ได้ เวลาไหนก็ได้ด้วย”

“นอกจากนั้น เรายังมีโครงการ Executive Learning ซึ่งเป็นหลักสูตรสำหรับเจ้าของธุรกิจ หรือผู้บริหารระดับสูง เพราะคนเหล่านี้ต้องการรู้ว่าเขาจะทรานส์ฟอร์มองค์กรอย่างไรในยุคดิสรัปชั่น หลักสูตรนี้ก็จะตอบสนองความคิดของพวกเขา เพื่อมาช่วยปรับเปลี่ยนวิธีคิดของผู้บริหาร ทั้งยังชี้ช่องจนทำให้เขามองเห็นภาพว่า องค์กรควรจะปรับเปลี่ยนอย่างไร เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า สิ่งต่าง ๆ ที่อธิบายผ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ จะไปตอบโจทย์เรื่องของ empower living อย่างมีคำตอบ”


ทั้งนั้น เพื่อเติมเต็ม “empower living” ของเอพี ไทยแลนด์ กรุ๊ป ในอนาคต