พลังน้ำใจเอกชนสู้โควิด ก้าวข้ามผ่านมหันตภัยไวรัสไปด้วยกัน

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต เช่น ภาคธุรกิจต้องหยุดชะงัก ส่วนพนักงานเองก็ต้องพักงาน หรือทำงานที่บ้าน (work from home) เพื่อไม่ต้องเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในทุก ๆ วัน ผลเช่นนี้ จึงทำให้ตลอดช่วงเวลาผ่านมา ทุก ๆ คนต่างผจญกับความยากลำบากในการใช้ชีวิตการเดินทาง และการทำงาน แต่ทุกคนบนโลกใบนี้ก็พร้อมที่จะยอมรับกับความจริงที่เกิดขึ้น ด้วยการหยุดตัวเองในการกระทำทุกกิจกรรม เพื่อจะได้ไม่เป็นการแพร่เชื้อไปสู่บุคคลอื่น ๆ

อันถือเป็นความรับผิดชอบต่อตัวเอง และสังคมในเบื้องต้น ที่ใคร ๆ ก็ทำได้

เพราะทุก ๆ คนบนโลกใบนี้ต่างต้องการก้าวข้ามผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

แต่ในอีกมุมหนึ่งก็มีภาคธุรกิจหลายแห่งต่างออกมาให้ความช่วยเหลือทีมแพทย์ และพยาบาล รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขต่าง ๆ ที่ต้องแบกความรับผิดชอบในการช่วยเหลือประชาชน ผู้ป่วย และผู้แพร่เชื้อการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคเอกชนที่ต่างต้องการให้ประเทศไทยก้าวข้ามผ่านวิกฤตไวรัสร้ายครั้งนี้โดยเร็ว

ผลิตแอลกอฮอล์ให้โรงพยาบาล

บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ (ประเทศไทย) ประกาศขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสู้วิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ ด้วยการผลิตแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือตามมาตรฐานทางการแพทย์กว่า 20,000 ลิตร เพื่อบริจาคให้กับโรงพยาบาลกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ

“รัคชิต ฮาร์เกฟ” รองประธานกรรมการอาวุโส ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ บริษัท ไบเออร์สด๊อรฟ กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มผลิตแอลกอฮอล์ 80% สำหรับล้างมือแล้วที่โรงงานในประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางการผลิตขนาดใหญ่ โดยปกติที่นี่จะเป็นโรงงานผลิตสินค้านีเวียและยูเซอริน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มบริจาคให้กับโรงพยาบาล และหน่วยงานที่ต้องการ เช่น สถานสงเคราะห์บ้านเด็กกำพร้า และเด็กด้อยโอกาส รวมกว่า 1,000 แห่งในประเทศไทย โดยจะไม่วางจำหน่ายทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป

“แอลกอฮอล์ล้างมือเหล่านี้ ทางบริษัทได้รับการสนับสนุนในเรื่องของการจัดส่งผลิตภัณฑ์จาก DHL ช่วยกระจายสินค้าให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด นอกจากนี้ ทางบริษัทยังแจกให้กับพนักงานออฟฟิศ และพนักงานขายหน้าร้านของทางผลิตภัณฑ์นีเวีย และยูเซอริน อีกกว่า 1,780 คนทั่วประเทศ เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคยิ่งขึ้น”

AIS ติดตั้ง 5G ดูแลผู้ป่วย

“วสิษฐ์ วัฒนศัพท์” หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการ และสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า บริษัทช่วยงานทีมแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ด้วยการนำเทคโนโลยี telemedicine เฝ้าระวังผู้ป่วยตลอด 24 ชม. ลดเสี่ยงบุคลากรทางการแพทย์

“เราติดตั้งสัญญาณเครือข่าย 5G พื้นที่ภายในโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งถูกใช้เป็นโรงพยาบาลสนามชั่วคราว เพื่อรองรับผู้ป่วยที่ได้รับการแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยการสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เพื่อนำเทคโนโลยี 5G มาช่วยสนับสนุนระบบสื่อสาร และเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ ของบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเปิดรับผู้ป่วยได้แล้วตั้งแต่วันนี้ อีกทั้งยังเป็นการเสริมเครือข่ายเพื่อรองรับการใช้งานเทคโนโลยี tele-medicine บริการทางการแพทย์ผ่านเทคโนโลยี 5G ในอนาคตอีกด้วย”

ยูนิลีเวอร์จับมือยูนิเซฟสู้โควิด

กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย จับมือยูนิเซฟ ร่วมต่อสู้โรคระบาดโควิด-19 ด้วยการมอบเจลแอลกอฮอล์ล้างมือกว่า 30,000 หลอด และสบู่กว่า 120,000 ก้อน ให้แก่ยูนิเซฟ เพื่อนำไปช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในกลุ่มเปราะบางทั่วประเทศไทย เช่น เด็กที่ใช้ชีวิตบนท้องถนน, เด็กในชุมชนแออัด, เด็กที่อาศัยอยู่ในบ้านพักเด็กและครอบครัวในแต่ละจังหวัด, สถานสงเคราะห์, สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟูภายใต้กรมกิจการเด็กและเยาวชน, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน, ศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชน ตลอดจนศูนย์การเรียนรู้ของเด็กข้ามชาติ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนต่าง ๆ

“โรเบิร์ต แคนเดลิโน” ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ของเราจำเป็นอย่างยิ่งต่อการปกป้องคนไทยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เราจึงร่วมมือกับยูนิเซฟ เพื่อให้เด็กที่ขาดแคลนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของเราได้อย่างเร่งด่วน

“การบริจาคครั้งนี้เป็นการบริจาครอบแรกในประเทศไทย โดยจะมีแผนความช่วยเหลือต่อเนื่องอีกเพื่อรับมือสถานการณ์โควิด-19 ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจของยูนิลีเวอร์ สำนักงานใหญ่ในประเทศอังกฤษ ที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะบริจาคผลิตภัณฑ์มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อร่วมต่อสู้การระบาดของไวรัสครั้งนี้”

“โธมัส ดาวิน” ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “วิกฤตครั้งนี้ร้ายแรงแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นั่นหมายความว่าเราต้องเข้าถึงเด็กทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือให้ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน สถานการณ์ตอนนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความท้าทายอีกมากมายที่กำลังรอเราอยู่ ซึ่งต้องอาศัยการแก้ปัญหาจากทุกฝ่ายอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพราะนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด ยูนิเซฟได้จัดทำและเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลและป้องกันตนเองจากโควิด-19 ให้แก่ประชาชน”

ลอรีอัลช่วยลดโควิดในยุโรป

ลอรีอัล กรุ๊ป ดำเนินโครงการสนับสนุนการต่อสู้กับเชื้อไวรัสโคโรน่าในหลายภาคส่วน โดยเบื้องต้นเริ่มการช่วยเหลือในภูมิภาคยุโรป ซึ่งขณะนี้เป็นศูนย์กลางของการระบาดครั้งใหญ่ของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ ลอรีอัลกำลังหารือถึงการช่วยเหลือในภูมิภาคอื่น ๆ รวมถึงเอเชียด้วยเช่นกัน

“ฌอง-พอล อากง” ประธาน และประธานกรรมการบริหารของลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวว่า ลอรีอัลมีโครงการช่วยเหลือในหลายส่วน เช่น การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข โดยโรงงานในเครือลอรีอัลได้เริ่มทำการผลิตเจลทำความสะอาดมือ ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อสนับสนุนความต้องการของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในฝรั่งเศส และยุโรป รวมถึงการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพ และเจ้าหน้าที่ร้านเวชภัณฑ์

“โดยลา โรช-โพเซย์ หนึ่งในแบรนด์ของลอรีอัล จะจัดหาเจลทำความสะอาดมือให้แก่พันธมิตรโรงพยาบาล ศูนย์ดูแลสุขภาพผู้ป่วย และร้านเวชภัณฑ์ และการช่วยเหลือกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง โดยมูลนิธิลอรีอัลบริจาคเงินจำนวน 1,000,000 ยูโร ให้กับองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน และที่ทำงานด้านการสนับสนุนสุขอนามัยเพื่อป้องกันสถานการณ์ครั้งนี้ นอกจากนี้ มูลนิธิลอรีอัลจะให้การสนับสนุนชุดรักษาสุขอนามัยที่ประกอบไปด้วย เจลอาบน้ำ, แชมพู และเจลทำความสะอาดมือ เพื่อแจกให้กับนักสังคมสงเคราะห์อาสาสมัคร และผู้ได้รับผลกระทบ”

เมเจอร์ฯส่งกำลังใจทีมแพทย์

จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสนับสนุนการทำงานของคณะแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้สามารถรับมือต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อให้มีกำลังใจในการทำงาน

“นรุตม์ เจียรสนอง” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ได้มอบหน้ากาก N95 จำนวน 1,000 ชิ้น เพื่อใช้ทางการแพทย์ พร้อมป๊อปคอร์น ทู โก (Popcorn To Go) สำหรับเสริมพลังให้แก่สถาบันบําราศนราดูร เพื่อไว้ใช้ป้องกันตัวระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วย

ขณะที่ “นพ.กฤษฎา หาญบรรเจิด” รองผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่า บุคลากรทางการแพทย์จะทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มกำลังให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และฝากประชาสัมพันธ์แอปพลิเคชั่น Bamras App ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้สามารถใช้ตรวจผลเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ด้วยตนเองผ่านทางแอปพลิเคชั่น โดยการสแกน QR code ที่ท่านได้รับจากการลงทะเบียนที่ตู้บีคิว (B-Queue) หรือแผนกเวชระเบียน โดยไม่ต้องเดินทางมาที่สถาบัน

เคทีซีมอบเครื่องฟอกไต

“ระเฑียร ศรีมงคล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมอบเงินจำนวน 2 ล้านบาท เข้ากองทุนพิเศษโครงการป้องกันและช่วยเหลือสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งตั้งขึ้นโดยคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และมูลนิธิรามาธิบดีฯ (คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี) เพื่อสนับสนุนการจัดซื้อเครื่องฟอกไตเทียมแบบพิเศษ CRRT เพื่อผู้ป่วยโควิด-19

“CRRT เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่สำคัญ และจำเป็นต้องใช้ เพื่อเตรียมรับกับสถานการณ์ที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากเครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจ ปอดและเครื่องช่วยหายใจ เคทีซียังเปิดให้สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีทั่วประเทศสามารถร่วมบริจาคสมทบทุนโครงการป้องกันและช่วยเหลือสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ให้กับคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล อีกด้วย”

“โดยคะแนน KTC FOREVER ทุก 1,000 คะแนน แทนเงินบริจาค 100 บาท ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ KTC Phone โทร.0-2123-5000 กดศูนย์, แอป KTC Mobile หรือเว็บไซต์ www.ktc.co.th/online ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป โดยทุกยอดการบริจาค 100 บาท เคทีซีจะร่วมสมทบทุนเพิ่มอีก 50 บาท ทั้งนี้ การบริจาคดังกล่าวยังสามารถนำไปใช้หักลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

สมาชิกเชลล์คลับรับเจลฟรี

บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ห่วงใยสุขภาพสมาชิกเชลล์ คลับสมาร์ท แจกฟรีเจลล้างมือแอลกอฮอล์ 72% จำนวน 10,000 ชิ้น เพื่อฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อไวรัส เพื่อช่วยดูแลสุขอนามัย โดยสมาชิกคลับสมาร์ทสามารถลงทะเบียนรับเจลล้างมือแอลกอฮอล์ได้ฟรี ผ่านช่องทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 หรือจนกว่าของจะหมด

“กมล คงสกุลวัฒนสุข” รองกรรมการบริหาร ธุรกิจการตลาดค้าปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า เชลล์ใส่ใจและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมาโดยตลอด และในช่วงสถานการณ์ปัจจุบันนี้ เราจึงขอส่งมอบความห่วงใยถึงลูกค้าด้วยการแจกฟรี เจลล้างมือแอลกอฮอล์กับสมาชิกเชลล์ คลับสมาร์ท เพื่อให้รู้สึกอุ่นใจในทุกการเดินทาง และเป็นการช่วยดูแลสุขอนามัยส่วนตัว ทั้งนี้ เชลล์ยังคงพร้อมดูแลลูกค้าทุกท่านด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพ รวมถึงบริการอันเป็นเลิศที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงของเรา”

“โดยสมาชิกเชลล์ คลับสมาร์ท สามารถลงทะเบียนรับฟรี เจลล้างมือแอลกอฮอล์ผ่านทางเว็บไซต์ www.shellsmart.com และ Shell Line Official Account ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป โดยผู้ที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ 1 ท่าน จะได้รับเจลล้างมือแอลกอฮอล์ขนาด 50 มิลลิลิตร 1 ชิ้น จำกัด 1 สมาชิก ต่อ 1 สิทธิ์เท่านั้น ตามที่อยู่ที่ได้ลงทะเบียนไว้ภายใน10 วันทำการ หลังได้รับการยืนยันสิทธิ์”

กัลฟ์มอบ 5 ล้านซื้อเครื่องมือ

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF มอบเงินสนับสนุนแก่มูลนิธิแพทยศาสตร์ตำรวจในพระสังฆราชูปถัมภ์ เป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อเครื่องช่วยหายใจชนิดควบคุมด้วยปริมาตรและความดันแบบเคลื่อนย้ายได้ พร้อมระบบผลิตอากาศภายในตัวเครื่อง จำนวน 8 เครื่อง ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างความพร้อมให้กับโรงพยาบาลตำรวจ ในการรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และจำนวนผู้ป่วยที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ

“สิตมน รัตนาวะดี” ในนามตัวแทน “สารัชถ์ รัตนาวะดี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ท่ามกลางการเผชิญกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ความพร้อมทางด้านสาธารณสุขและทางการแพทย์ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด และกลุ่มบริษัท กัลฟ์ เล็งเห็นถึงความสำคัญในส่วนนี้ จึงมีความยินดีที่ได้เข้ามาช่วยสนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอต่อการรับมือกับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

“จึงขอส่งกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขทุกภาคส่วน ผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเสียสละ เพื่อยับยั้งสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และหวังว่าความร่วมมือของทุกคนจะช่วยให้ผ่านวิกฤตโรคระบาดนี้ไปได้ในเร็ววัน”

“พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า เงินบริจาคที่ได้มาทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ต่อโรงพยาบาลตำรวจ และคนไข้อย่างแน่นอน เพราะทางมูลนิธิสามารถนำไปซื้อเครื่องมือแพทย์ที่จำเป็นในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ได้

“สำหรับภาพรวมการตั้งด่านคัดกรองรอบพื้นที่รอยต่อกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นไปด้วยดี ประชาชนให้ความร่วมมือ โดยได้สนับสนุนอุปกรณ์ที่จำเป็นให้กับตำรวจที่ออกปฏิบัติหน้าที่อย่างเพียงพอ เพราะตำรวจต้องทำงานสัมผัสและใกล้ชิดกับประชาชน นอกจากนี้ ขอประชาชนให้ความร่วมมือวัดอุณหภูมิให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับเจ้าหน้าที่ และฟังข้อมูลข่าวสารที่น่าเชื่อถืออยู่เสมอ”

เดอะมอลล์รับบริจาคโลหิต

บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เชิญชวนคนไทยบริจาคโลหิต สู้วิกฤตโควิด-19 หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ปริมาณโลหิตในคลังลดลง พร้อมสร้างความมั่นใจว่าห้องรับบริจาคโลหิตถาวร (fixed station) ในกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ทุกแห่งเป็นสถานที่ปลอดภัย ด้วยมาตรการป้องกันความปลอดภัยขั้นสูงสุด “เพราะเรา ห่วงใย ใส่ใจ ทั้งผู้ให้และผู้รับ”

เนื่องจากข้อมูลของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบให้ปริมาณโลหิตในคลังลดลง เนื่องจากมีผู้บริจาคโลหิตลดลงเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันยังมีผู้ป่วยที่ต้องการโลหิตอยู่เป็นประจำ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด มีความห่วงใยและเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเป็นสื่อกลางในการจัดหาโลหิตเพื่อนำไปช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ที่เจ็บป่วยให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ จึงร่วมกับศูนย์บริการโลหิต สภากาชาดไทย เปิดบริการห้องรับบริจาคโลหิตถาวร (fixed station) เพื่ออำนวยความสะดวก และเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนสามารถเดินทางมาบริจาคโลหิตได้ง่ายขึ้น ผ่านห้องรับบริจาคโลหิตถาวรในกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ทั้ง 5 สาขา ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน (ชั้น 5), เดอะมอลล์ บางแค (ชั้น P ล็อบบี้), เดอะมอลล์ บางกะปิ (ชั้น 3A) และเดอะมอลล์ นครราชสีมา (ชั้น 2) โดยเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-18.00 น.

โดยหลังจากเดอะมอลล์ กรุ๊ป กลับมาเปิดให้บริการ “ห้องรับบริจาคโลหิต” ทั้ง 5 สาขา วันแรก (25 มีนาคม 2563) มีผู้สนใจร่วมบริจาคโลหิตแล้วกว่า 200 ราย ซึ่งได้โลหิตสนับสนุนศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ รวมกว่า 77,600 ซีซี หากแต่ยังคงไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงขอเชิญชวนคนไทย องค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐ, ภาคเอกชน, นักเรียน, นักศึกษา รวมถึงประชาชนทั่วไปที่มีสุขภาพแข็งแรง ร่วมสร้างกุศลทำความดีช่วยต่อชีวิตให้กับเพื่อนมนุษย์ ร่วมบริจาคโลหิตทุก ๆ 3 เดือน ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ป่วยมีปริมาณโลหิตที่เพียงพอ และช่วยลดปัญหาการจัดหาโลหิตที่ไม่สม่ำเสมอได้

จึงนับเป็นความร่วมมือของภาคธุรกิจในช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก เพื่อให้ทุกคนก้าวข้ามผ่านวิกฤตไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ไปให้ได้