“กลุ่มพลังงาน” ช่วยรบโควิด ระดมงบฯหนุนแพทย์หยุดโรคระบาด

โควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีถึงกับประกาศเป็น “วาระแห่งชาติ” ที่ทุกคนจะต้องร่วมกันฝ่าวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้ไปให้ได้ ภาคเอกชนหลาย ๆ แห่งต่างยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในเบื้องต้นอย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะบริษัทในกลุ่มพลังงานที่มีความพร้อมในการช่วยเหลือทั้งในแง่งบประมาณและความเชี่ยวชาญในการผลิตเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อช่วย “ลดการติดเชื้อ”

แจกเจล-ให้งบฯซื้อเครื่องมือแพทย์

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยการนำของ “ชาญศิลป์ ตรีนุชกร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือ CEO ปตท.ได้ใช้จุดแข็งที่มี อย่างเช่นการใช้เครื่องมือทางธุรกิจที่มีอยู่ในระบบนำมาช่วยเหลือสังคม อย่างเช่น บัตรสมาชิก Blue Card ทุกครั้งที่เติมน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมัน ลูกค้าสามารถเปลี่ยนจากคะแนนสะสมให้กลายเป็น “เงินบริจาค” ให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อจัดหาเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 โดยในทุก 100 คะแนน ถูกเปลี่ยนเป็นเงินบริจาค 20 บาท นอกจากนี้ ปตท.ยังช่วยจำหน่ายแอลกอฮอล์เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคได้ 99.99% ขนาด 1,000 มล. ราคาเพียง 110 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึง 3 พ.ค. ในสถานีบริการน้ำมันของ ปตท.

และเพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการสถานีบริการน้ำมัน ด้วยการใช้เทคโนโลยีอย่างแอปพลิเคชั่น “BLUE CONNECT” เพื่อหยุดการกระจายไวรัสโควิด-19 ในขณะที่บริษัทในกลุ่ม ปตท.อย่างบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR มอบเงินรวม 3 ล้านบาท ให้โรงพยาบาลราชวิถี เพื่อจัดหาเครื่องมือทางการแพทย์ เช่น เครื่องช่วยหายใจชนิดอัตราการไหลสูง เครื่องช่วยหายใจชนิดเคลื่อนย้าย และเครื่องช่วยหายใจสำหรับผู้ป่วยหนัก

ในขณะที่บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีทิศทางดำเนินการเช่นเดียวกับ ปตท. ด้วยการแจกและจำหน่ายแอลกอฮอล์ 70% ขนาด 500 มล. ในราคาที่ประชาชนสามารถซื้อได้เพียง 50 บาท ผ่านสถานีบริการน้ำมันของบางจากทั่วประเทศที่ร่วมรายการ พร้อมทั้งยังให้ความรู้กับลูกค้าในประเด็นว่าเพราะอะไร แอลกอฮอล์ที่ใช้ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ขาดตลาดส่งผลให้ราคาจำหน่ายสูงกว่าที่ควรจะเป็น 2-3 เท่า บางจากจึงให้บริษัทในเครืออย่างบริษัท Union Costech Group จัดซื้อเอทานอลจากบริษัท BBGI ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบางจาก เพื่อนำไปผลิตแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% เพื่อใช้สำหรับฆ่าเชื้อ ส่วนของการให้บริการภายในร้านคอนวีเนี่ยนสโตร์ สพาร์ (SPAR) ได้ยกเลิกที่นั่ง-ยืน เพื่อป้องกันเชื้อและลดความเสี่ยงของลูกค้าจากโควิด-19 และให้ซื้อสินค้านำกลับบ้านเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมี บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอ็กซอนโมบิลในประเทศไทย ที่พนักงานร่วมมือกันทำหน้ากาก face shields รวม 2,000 ชิ้น เพื่อมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ได้นำไปใช้สวมใส่ ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วย และเพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) โดยมอบให้กับโรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ โรงพยาบาลสมุทรปราการ และโรงพยาบาลบางบ่อ

พ่นฆ่าเชื้อรถลูกค้าฟรี

ขณะที่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG จัดบริการให้ลูกค้าพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสถานีบริการน้ำมัน เขตกรุงเทพฯและปริมณฑล รวม 108 สาขา ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 8 พ.ค. 63 นี้

“รังสรรค์ พวงปราง” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG ระบุว่า จากในปัจจุบันสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก และหลายจังหวัดในประเทศไทย จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของลูกค้า ทำให้บริษัทเริ่มโครงการนำร่องให้บริการพ่นโควิด-19 กับสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ของ PTG ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมทั้งสิ้น 37 สถานี สำหรับรถแท็กซี่และรถยนต์ของประชาชนทั่วไป โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และรถแท็กซี่ทุกคันที่ผ่านการฉีดพ่นฆ่าเชื้อจากโครงการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 จะได้รับสติ๊กเกอร์ติดรถไปด้วย เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ

“จากการตอบรับลูกค้าจำนวนมากที่ไปใช้บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโควิด-19 ในสถานี LPG ในช่วงที่ผ่านมา ได้เล็งเห็นถึงความต้องการโดยพร้อมตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าของ PTG เพิ่มเติม จึงมีนโยบายที่จะขยายการให้บริการฉีดพ่นฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติมผ่านสถานีบริการน้ำมัน PTG ซึ่งจะเป็นการบริการให้กับลูกค้าและประชาชนทั่วไปได้เข้ามาใช้บริการเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และลูกค้าสามารถเข้ารับบริการดังกล่าวได้ที่สถานีบริการน้ำมัน PTG ซึ่งจะเริ่มให้บริการในวันที่ 15 เม.ย. 63-8 พ.ค. 63 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 05.00 น.-21.00 น. โดยสถานีที่ให้บริการครอบคลุมในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 108 สาขา” นายรังสรรค์กล่าว

“รังสรรค์” กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับการให้บริการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ เพื่อลดการระบาดไวรัสโควิด-19 ถือว่าเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ ที่ต้องการลดการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าในทุกครั้งที่ใช้บริการสถานีบริการน้ำมัน PTG และจะเป็นการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสเพิ่มความปลอดภัยให้ลูกค้าไปอีกทางด้วย

หนุน รพ.ศูนย์กลาง

ตามมาด้วยบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ได้สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ ที่จะต้องดูแลผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเต็มที่ ด้วยการมอบเงิน 10.5 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อสนับสนุนการสร้างและปรับปรุงห้องความดันลบ อีกทั้งจัดหาเครื่องช่วยหายใจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ รพ. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเป็น รพ.ศูนย์กลางที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเต็มความสามารถ

ด้านบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (Gulf) ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) มอบเงินรวม 9 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลราชวิถี สถาบันบำราศนราดูร และสถาบันโรคทรวงอก เพื่อนำไปจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ โดยเฉพาะเครื่องมือที่กำลังขาดแคลน ในขณะที่ผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO จัดงบประมาณ 15 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลศูนย์หลัก ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 24 แห่งทั่วประเทศ นำร่องไปแล้วคือ รพ.รามาธิบดี นอกจากนี้ยังสนับสนุนการทำ “ประกันภัย”โรคโควิด-19 แบบกลุ่ม สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการดูแลผู้ป่วยโควิด-19

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของโรคระบาดโควิด-19 มีการคาดการณ์ว่าน่าจะคลี่คลายในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มน้อยลง แต่หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ภาคเอกชนหลายรายอาจจะต้องปรับการดำเนินการเพื่อดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมใหม่ ด้วยการเพิ่มการดูแลด้านสุขภาวะอนามัยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการวิจัยและพัฒนาทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับโรคติดต่อเพื่อป้องกันการเกิดโรคอุบัติใหม่ในอนาคตด้วย