เร่งแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

คอลัมน์ CSR Talk

ยูพีเอส เปิดเผยรายงานความยั่งยืนประจำปีในฉบับที่ 18 หัวข้อ “เดินหน้าเร่งแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน (Accelerating Sustainable Solutions)” โดยมาในรูปแบบของรายงานดิจิทัลที่ผสานความอินเทอร์แอ็กทีฟอย่างเต็มรูปแบบพร้อมระบุรายละเอียดการดำเนินงานที่เกิดขึ้นตลอดปี 2562 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพิชิตเป้าหมายด้านความยั่งยืนประจำปี 2563 และ 2568 โดยสอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กร

ความสำเร็จที่น่าจับตามองที่สุดในรายงานดังกล่าวคือ การที่ยูพีเอสสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4 ประการ ได้ล่วงหน้าก่อนกำหนดหนึ่งปี ได้แก่

หนึ่ง การบริจาคเพื่อการกุศล 123.8 ล้านเหรียญสหรัฐ

สอง ร่วมทำงานอาสาสมัครเพื่อสังคมเป็นเวลารวม 21.7 ล้านชั่วโมง

สาม ปลูกต้นไม้ 15.4 ล้านต้น

สี่ มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ลดลง 3.1%

“รัสเซล รี้ด” กรรมการผู้จัดการ ยูพีเอส ประเทศไทย และเวียดนาม กล่าวว่า ยูพีเอสกำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืน โดยมุ่งหวังที่จะแก้ไขผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม พัฒนาโครงการด้านความยั่งยืนระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชนที่เราอาศัยและปฏิบัติงาน เพราะเป้าหมายดังกล่าวถูกนำมาบูรณาการเข้ากับการทำงานในทุกภาคส่วนของยูพีเอส ประเทศไทย นับตั้งแต่การแสวงหาวิธีเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ไปจนถึงส่งเสริมให้ลูกค้าและพนักงานร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนไปด้วยกัน

“เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่โครงการชดเชยคาร์บอนของยูพีเอสได้เข้าไปมีบทบาทช่วยเหลือระบบบำบัดน้ำเสียของโรงงานชลเจริญในจังหวัดชลบุรี การที่ธุรกิจต่าง ๆ เข้าร่วมโครงการชดเชยคาร์บอนไปกับยูพีเอส ทำให้พวกเขาไม่เพียงแต่สร้างกระบวนการขนส่งที่ยั่งยืนได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนไปด้วยกันอีกด้วย”

โครงการชดเชยคาร์บอนของยูพีเอส(UPS carbon neutral) จัดทำขึ้นเพื่อถ่วงดุลผลกระทบของคาร์บอนอันมีสาเหตุมาจากการขนส่ง โดยใช้วิธีการจัดซื้อการชดเชยคาร์บอน (carbon offset) ที่ได้รับการรับรองมาทดแทน กล่าวคือผู้ส่งจะชำระค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยจำนวนหนึ่งเพื่อชดเชยผลกระทบของคาร์บอนที่เกิดจากการจัดส่งพัสดุ นอกจากนั้น ยูพีเอสยังมีส่วนเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านโครงการระบบบำบัดน้ำเสียของโรงงานชลเจริญ โดยเปลี่ยนก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยมาจากกระบวนการผลิตแป้งมันสำปะหลังให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และพลังงานความร้อนเพื่อใช้ในโรงงาน ทั้งยังส่งให้กับเครือข่ายไฟฟ้าแห่งชาติ โดยโครงการดังกล่าวสามารถลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนได้กว่า 37,000 เมตริกตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการลดจำนวนรถยนต์บนท้องถนนลงถึง 7,000 คัน

ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ยูพีเอสลงทุนกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อส่งเสริมพลังงานทางเลือก เทคโนโลยียานยนต์ที่ทันสมัย และโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุน ปัจจุบันยูพีเอสเป็นผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติหมุนเวียนรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมการขนส่ง และมียานพาหนะสำหรับการขนส่งที่ใช้พลังงานทางเลือกและเทคโนโลยีที่ทันสมัยรวมกว่า 10,300 คัน ยูพีเอสวางแผนที่จะจัดซื้อรถบรรทุกที่ใช้ก๊าซธรรมชาติกว่า 6,000 คันเพิ่มเติมเพื่อนำมาใช้ในการให้บริการทั่วโลกภายในปี 2022

สำหรับในประเทศไทยประมาณ 25%ของยานพาหนะทั้งหมดที่ยูพีเอสใช้ในการให้บริการนั้นขับเคลื่อนโดยพลังงานจากก๊าซธรรมชาติ และยานยนต์จำนวนเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วยยานยนต์รุ่นใหม่ที่ปล่อยมลพิษน้อยกว่าภายในสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ ยูพีเอสยังเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุน ด้วยการจัดทำรายงานคณะกรรมการว่าด้วยมาตรฐานทางบัญชีความยั่งยืน (Sustainability AccountingStandards Board : SASB)ฉบับแรกขึ้นมาเพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเปรียบเทียบข้อมูลของบรรดาบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ตลอดจนตอกย้ำความมุ่งมั่นของยูพีเอสที่จะกำหนดแนวทางธุรกิจที่สำคัญให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน ซึ่งครอบคลุมไปถึงโครงการเกี่ยวกับพลังงานทางเลือกที่บริษัทดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน

ความสำเร็จในการพิชิตเป้าหมายของมูลนิธิยูพีเอส ตอนนี้ดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม และสังคมมาโดยตลอด ด้วยการปฏิบัติงานร่วมกับโครงการความยั่งยืนต่าง ๆ ของบริษัท และวันนี้มูลนิธิยูพีเอสลุกขึ้นมาประกาศความสำเร็จด้านการปลูกป่า และการทำงานของอาสาสมัครที่เป็นไปตามเป้าหมายคือนับตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา มูลนิธิสามารถดำเนินการปลูกต้นไม้ไปได้แล้วกว่า 15.4 ล้านต้นใน 58 ประเทศ เพื่อเป็นแหล่งทรัพยากรอาหาร งาน ตลอดจนเพื่อเป็นการป้องกันภัยจากสภาพอากาศ ความแปรปรวนของภูมิอากาศ การกัดเซาะ และสร้างอากาศที่บริสุทธิ์ให้แก่คนรุ่นหลัง

ขณะเดียวกัน ยูพีเอสยังได้บรรลุเป้าหมายในเรื่องการทำงานอาสาสมัครของพนักงาน ด้วยชั่วโมงการทำงานอาสาสมัครที่เพิ่มขึ้นถึง 60% ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ซึ่งชั่วโมงอาสาสมัครดังกล่าวมีมูลค่าเทียบเท่ากับเงินสนับสนุนรวมกว่า 533 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรกว่าหลายพันแห่งทั่วโลก

สำหรับในประเทศไทย ยูพีเอสดำเนินการปฏิบัติงานอาสาสมัครทั้งหมด 3,000 ชั่วโมงในปี 2562 โดยใช้เวลาส่วนใหญ่ทุ่มให้กับโครงการปลูกป่าของมูลนิธิกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทยใน จ.จันทบุรี

ในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมยูพีเอสดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเชื้อชาติผ่านการระดมกำลังของบุคลากร และการร่วมมือกับเครือข่ายขององค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีให้กับสังคม โดยกิจกรรมที่ยูพีเอสดำเนินการ ได้แก่ เข้าร่วมสนับสนุนการออกกฎหมายต่อต้านอาชญากรรมจากความเกลียดชัง การมอบเงินทุนสนับสนุนโครงการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการจ้างงาน การศึกษา ธุรกิจรายย่อย การพิทักษ์สิทธิ์ และการปฏิรูป พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะอุทิศชั่วโมงอาสาสมัครของพนักงานยูพีเอส 1 ล้านชั่วโมงเพื่อสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับการให้คำปรึกษาและให้ความรู้ภายในชุมชนคนผิวสีที่ด้อยโอกาส