TK Park ชู 3 ภารกิจหลักปี 64 สร้างนวัตกรรม-เปิดเครือข่ายเพิ่ม 4 แห่ง

สถาบันอุทยานการเรียนรู้ TK Park หน่วยงานภายใต้สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหน่วยงานต้นแบบของแหล่งการเรียนรู้ เปิดแผนดำเนินงาน ชู 3 ภารกิจหลัก มุ่งพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ และการบริการแหล่งเรียนรู้วิถีใหม่ พร้อมทั้งเตรียมเปิดให้บริการอุทยานการเรียนรู้เครือข่ายเพิ่มอีก 4 แห่ง ภายในปี 2564 เพื่อขยายโอกาส และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงองค์ความรู้

นายกิตติรัตน์ ปิติพานิช ผู้อำนวยการสถาบันอุทยานการเรียนรู้ กล่าวว่า ภารกิจหลักในปี พ.ศ.2564 ของ TK Park คือการมุ่งขยายโอกาสให้ประชาชนในทุกระดับสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ ผ่านการสร้างสรรค์พื้นที่แห่งความรู้ในทุกช่องทาง ครอบคลุมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ จึงเป็นที่มาของแผนงานในปีหน้ากับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญา เพื่อให้เกิดเป็นระบบนิเวศน์ที่เชื่อมโยงให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับเด็ก เยาวชน และประชาชน ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ให้สามารถเข้าถึงแหล่งความรู้อย่างสะดวกง่ายดาย และเรียนรู้ได้อย่างเพลิดเพลิน ผ่าน 3 ภารกิจหลัก ประกอบด้วย

  1. การพัฒนาพื้นที่การเรียนรู้ต้นแบบ
  2. การสร้างสรรค์นวัตกรรมส่งเสริมการอ่านการเรียนรู้
  3. การบริหารจัดการและพัฒนาองค์ความรู้

สำหรับการพัฒนาพื้นที่เรียนรู้ต้นแบบของสถาบันอุทยานการเรียนรู้ มีจุดเริ่มต้นมาจากอุทยานการเรียนรู้ต้นแบบที่ TK Park ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากประชาชน จนนำมาสู่การร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ และขยายผลการก่อตั้งอุทยานการเรียนรู้ครอบคลุมสู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย ประกอบด้วยเครือข่ายอุทยานการเรียนรู้ระดับจังหวัดเปิดบริการแล้วจำนวน 28 แห่งในพื้นที่ 21 จังหวัด ห้องสมุดมีชีวิตประจำโรงเรียนโดยร่วมมือกับกรมโยธาธิการและผังเมืองจัดสร้างให้จังหวัดละ 1 แห่งรวม 76 แห่ง และศูนย์การเรียนรู้ระดับตำบล ที่เป็นลักษณะของแหล่งการเรียนรู้ใกล้บ้านอีกกว่า 200 แห่ง โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาคีต่าง ๆ 6 หน่วยงาน ซึ่งทุกเครือข่ายต่างเป็นกำลังสำคัญ ในการพัฒนาสังคมแห่งการเรียนรู้ มุ่งเน้นการเปิดพื้นที่สาธารณะเพื่อการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและไว้ใจได้ เปิดกว้างให้ทุกคนสามารถมาใช้ประโยชน์เพื่อการเรียนรู้ สร้างสรรค์ พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทำงานร่วมกันเป็นทีม

คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ สถาบันอุทยานการเรียนรู้จะพร้อมเปิดให้บริการอุทยานการเรียนรู้เครือข่ายเพิ่มอีก 2 แห่ง ได้แก่ อุทยานการเรียนรู้พิพิธภัณฑ์เมืองลำปาง และ อุทยานการเรียนรู้บุรีรัมย์ และสำหรับปี 2564 มีแผนจะเปิดให้บริการอีก 2 แห่ง ได้แก่ อุทยานการเรียนรู้พะเยา และอุทยานการเรียนรู้สุราษฎร์ธานี

สำหรับอุทยานการเรียนรู้ TK Park กรุงเทพฯ ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ อยู่ในระหว่างปิดบริการเพื่อปรับปรุงพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดให้บริการได้ในต้นปี 2564 โดยในขณะนี้เปิด TK Alive ชั้น 6 เพื่อให้บริการสมาชิกที่ต้องยืมคืนหนังสือ รวมถึงบริการ TK Book Delivery Service จัดส่งหนังสือให้กับสมาชิกถึงบ้าน

ในด้านของการสร้างสรรค์นวัตกรรมส่งเสริมการอ่านการเรียนรู้ สถาบันอุทยานการเรียนรู้ ได้ดำเนินการพัฒนาบริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักอ่านยุคใหม่ที่โดดเด่นคือ บริการ TK Public Online Library แพลตฟอร์มห้องสมุดออนไลน์ที่อ่านได้ทุกที่ ทุกเวลา มีหนังสือและคอร์สออนไลน์ให้บริการกว่า 26,000 รายการ โดยเฉพาะในสถานการณ์การระบาดรุนแรงของโควิด 19 ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มียอดการยืมหนังสือและสื่อออนไลน์สูงกว่า 260,000 ครั้ง นอกจากนั้นยังมีโครงการพัฒนาอุทยานการเรียนรู้เสมือน หรือ Virtual TK อันเป็นแพลตฟอร์มที่มุ่งให้บริการแก่องค์กรที่ต้องการเข้าถึงต้นแบบแหล่งเรียนรู้ เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดในรูปแบบของตนเองต่อไป ในส่วนของการสนับสนุนส่งเสริมการอ่าน สถาบันอุทยานการเรียนรู้มีโครงการพัฒนาต้นแบบตู้บริการหนังสืออัตโนมัติในที่สาธารณะ เพื่อกระจายการเข้าถึงหนังสือสู่ประชาชนมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาแอปพลิเคชัน MyTK เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิก TK Park ให้สามารถเข้าถึงรายการหนังสือในห้องสมุดได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

สำหรับการส่งเสริมนวัตกรรมการเรียนรู้ ปีนี้สถาบันอุทยานการเรียนรู้ได้จัดโครงการอบรมและประกวดออกแบบบอร์ดเกม Print and Play ที่เปิดรับไอเดียใหม่ๆ สำหรับสื่อการเรียนรู้ที่สามารถส่งต่อให้เด็ก เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้ง่ายดาย เพียงแค่พิมพ์ออกมาก็นำมาเล่นเพื่อเสริมการเรียนรู้ได้ทันที ซึ่งเป็นแนวทางการเรียนรู้ผ่านเกมในรูปแบบใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก

เพื่อรับมือต่อความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคม สถาบันอุทยานการเรียนรู้ ยังได้มุ่งเน้น การบริหารจัดการและพัฒนาองค์ความรู้ ในหลากหลายโครงการ ล่าสุดได้จัดทำโครงการ “อ่านทั้งเมืองเรื่องเดียวกัน” ในจังหวัดเชียงราย โดยร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เพื่อร่วมกันระดมความคิด เกี่ยวกับการจัดทำสื่อนิทานสำหรับเด็กปฐมวัย ให้เป็นหนังสือของเด็กเชียงราย ที่มีเนื้อหาสาระบนพื้นฐาน “ปัญญาล้านนา” และบริบททางวัฒนธรรมของเชียงรายอย่างแท้จริง รวมถึงการจัด Solution Lab Hackathon ที่เป็นเวิร์คช็อปเพื่อการระดมสมองออกแบบนโยบายสาธารณะระดับประเทศ เกี่ยวกับการสร้างแนวทางการเรียนรู้ตลอดชีวิต ผ่านกระบวนการออกแบบแนวคิดที่ยึดถือความต้องการของประชาชนเป็นจุดศูนย์กลาง (Citizen-centered Design) และส่งต่อข้อเสนอในเชิงนโยบายเหล่านี้สู่ภาครัฐต่อไป


สถาบันอุทยานการเรียนรู้ มุ่งที่จะเป็นพลังสำคัญในการช่วยให้ประชาชนในทุกระดับ สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ และพัฒนาปัญญา เพื่อให้ประชาชนพร้อมรับมือ และปรับตัวเข้าสู่วิถีชีวิตใหม่หลังจากนี้