“ศุภชัย” ซีพีสั่งลุย ผนึกกำลังบริษัทในเครือจ้างงานเพิ่ม 28,000 ตำแหน่ง ฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ซีพีสั่งลุย ผนึกกำลังบริษัทในเครือ จ้างงานนักศึกษาจบใหม่ จำนวน 28,000 อัตรา เพื่อร่วมขับเคลื่อนแก้ปัญหาการว่างงานของนักศึกษาจบใหม่ สร้างโอกาส สร้างความมั่นคงทางอาชีพ 

วันที่ 14 กันยายน 2563 รายงานข่าวจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) เปิดเผยว่า เครือซีพี โดยนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด นำทีมคณะผู้บริหารบริษัทในเครือ ทั้งซีพีเอฟ ซีพีออลล์ สยามแมคโคร และกลุ่มทรูเร่งเดินหน้าจ้างงานนักศึกษาจบใหม่อายุไม่เกิน 25 ปี จำนวน 28,000 อัตรา เพื่อร่วมขับเคลื่อนแก้ปัญหาการว่างงานของนักศึกษาจบใหม่ สร้างโอกาส สร้างความมั่นคงทางอาชีพ สร้างประโยชน์ให้ประเทศช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตโควิด-19

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ ภายใต้นโยบายประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ มีแนวทางรักษาความมั่นคงทางอาชีพมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 มีนโยบายให้คำมั่นที่จะไม่มีการปลดพนักงาน เพราะถือเป็นทรัพยากรสำคัญที่สุด และได้ให้ความสำคัญในการช่วยฟื้นฟูประเทศ โดยในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบในทุกอุตสาหกรรม ทำให้มีอัตราคนว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

โดยมีกลุ่มบัณฑิตจบใหม่ที่จะเข้ามาในตลาดแรงงานในปีนี้อีก 4-5 แสนคน ทำให้เกิดปัญหาการว่างงาน ทั้งนี้เครือฯ และบริษัทในเครือฯ มีความตั้งใจช่วยเหลือกลุ่มเยาวชน จากความตั้งใจดังกล่าวจึงผนึกกำลังบริษัทในเครือ พร้อมมีส่วนร่วมสร้างความมั่นคงทางอาชีพให้นักศึกษาจบใหม่ โดยได้หารือกับผู้บริหารของกลุ่มธุรกิจในเครือฯ ในการรับนักศึกษาจบใหม่อายุไม่เกิน 25 ปี ทั้งในส่วนของกลุ่มอาชีวะ และมหาวิทยาลัย จำนวน 28,000 อัตรา คิดเป็น 10% ของจำนวนพนักงานในปัจจุบันประกอบด้วย

  • บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เตรียมรับเพิ่ม 8,000 อัตรา
  • อัตรา บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) เตรียมรับเพิ่ม 12,000 อัตรา
  • กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโคร เตรียมรับเพิ่ม 5,000 อัตรา
  • บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (True) เตรียมรับเพิ่ม 3,000 อัตรา

ทั้งนี้เครือฯได้ให้ความสำคัญในการ “สร้างคน” จะมีการพัฒนาศักยภาพด้วยการสร้างทักษะ upskill และ reskill โดยได้จัดโปรแกรมต่างๆ เน้นในด้านดิจิทัลให้กับพนักงานที่เข้ามาใหม่เพื่อให้สามารถทำงานในยุค 4.0 ได้อย่างเต็มศักยภาพ

“เครือซีพีเชื่อว่า คนรุ่นใหม่เหมือนผ้าขาว จะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลง และสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติ นอกจากนี้ยังมีระบบนิเวศน์ในหลายอุตสาหกรรม เปรียบเสมือนมหาวิทยาลัยชีวิตที่ดี ที่จะได้เรียนรู้ การทำงานเพิ่มทักษะ และสามารถนำไปต่อยอดในหน้าที่การงาน หรือแม้แต่ต่อยอดในธุรกิจของตนเองในอนาคตอีกด้วย”

ด้าน นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร เปิดเผยว่า ซีพีเอฟพร้อมรับนโยบายของเครือฯ โดยรับนักศึกษาจบใหม่เพิ่ม 8,000 อัตรา โดยแบ่งเป็น กรุงเทพฯและปริมณฑล 4,000 อัตรา และต่างจังหวัดในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ 4,000 อัตรา โดยมีตำแหน่งรับสมัครครอบคลุมฐานการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะในด้านของความเชี่ยวชาญในด้านไอที เพื่อสนับสนุนขยายธุรกิจด้าน Smart Farming รวมไปถึงการทำธุรกิจในด้านการจัดส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ที่ต้องการรับพนักงานจำนวนมากเพื่อขยายตลาดในกลุ่มดังกล่าว

นายธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวว่า ซีพี ออลล์เร่งเดินหน้าการลงทุนในกลุ่มธุรกิจออนไลน์รับการเปลี่ยนแปลงในยุค 4.0 โดยเตรียมรับพนักงานเพิ่ม 12,000 ตำแหน่ง เน้นกลุ่ม NEW S-CURVE รวมถึงจะส่งเสริมธุรกิจSMEs รุ่นใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเกิดการจ้างงานเพิ่มอีก 5,000 อัตรา ทั้งนี้เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้งในระดับชุมชนและระดับประเทศในช่วงวิกฤตโควิด-19

นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโคร เผยว่า ธุรกิจของสยามแม็คโคร มี 130 กว่าสาขาทั่วประเทศ แม็คโครต้องการคนจำนวนมากเพื่อรองรับการขยายสาขา และมีนโยบายสร้างคน จึงพร้อมที่จะรับพนักงานที่เพิ่งจบการศึกษา สอดคล้องนโยบายของเครือฯ ที่ต้องการสร้างคนให้เติบโตไปพร้อมกับองค์กร ในการนี้แม็คโครจะประกาศรับพนักงานที่จบการศึกษาใหม่เพิ่ม 5,000 อัตรา ตั้งแต่วุฒิการศึกษาระดับปวช.-ปวส. ขึ้นไป เน้นกลุ่มทักษะในด้านไอทีและดิจิทัล ตอบโจทย์การทำงานปรับตัวรับ New Normal

นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ในช่วงโควิด-19 กลุ่มทรูฯได้รับพนักงานเพิ่มไปแล้ว 6,500 อัตรา และจะรับเพิ่มในช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2563 อีก 3,000 อัตรา เพื่อเข้ามาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับองค์กร โดยจะเน้นอัตราการรับพนักงานด้านไอทีการบริการและการขาย และจะมีการพัฒนาทักษะ upskill และ reskill ให้กับพนักงานกลุ่มใหม่ที่เข้ามาทำงาน โดบเฉพาะความรู้ทักษะด้านดิจิทัล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างคนตอบโจทย์การพัฒนาประเทศในยุค 4.0