ส่องอาชีพช่วงไวรัสโควิดระบาด “ฟรีแลนซ์-แพทย์-สาธารณสุข” เนื้อหอม

แสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์

จ๊อบไทย (JobThai) ผู้ให้บริการหางาน สมัครงาน ออนไลน์อันดับ 1 ของประเทศไทยเปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลความต้องการแรงงานขององค์กรในจ๊อบไทยแพลตฟอร์มพบว่า องค์กรมีความต้องการแรงงานในช่วงครึ่งปีแรกรวมกันอยู่ที่ 303,776 อัตรา (เป็นการนับจำนวนอัตราแบบไม่ซ้ำกัน) ซึ่งมีการเปิดรับสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 124,629 อัตรา แต่ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน การจ้างงานลดลง 16.5%เทียบกับเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2563

ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่การระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นและกระจายวงกว้างมากขึ้น จนทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนด้านผู้ใช้งาน หางาน สมัครงานมีการใช้งานมากกว่า 11 ล้านคน เติบโตขึ้น7.5% ซึ่งมีการสมัครงาน 8,876,727 ครั้งเติบโตขึ้น 31.0% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

“แสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์” ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการจ๊อบไทย (JobThai) กล่าวว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงกับภาพรวมตลาดแรงงาน จากการรวบรวมและวิเคราะห์ฐานข้อมูลงานในจ๊อบไทยแพลตฟอร์ม เพื่อรายงานสถานการณ์ความต้องการแรงงาน และพฤติกรรมความต้องการของผู้สมัครงานทั่วประเทศ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 ปรากฏว่ามี 5 ประเภทธุรกิจมีความต้องการแรงงานมากที่สุด

1.อาหาร-เครื่องดื่ม 58,724 อัตรา แม้การผลิตในอุตสาหกรรมอาหารไตรมาสที่ 1 ปี 2563 จะปรับตัวลดลง (ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม) แต่ผู้บริโภคยังคงมีการใช้จ่ายในหมวดสินค้า และบริการที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน จึงทำให้ประเภทธุรกิจนี้ยังคงมีความต้องการแรงงานมาเป็นอันดับแรก ซึ่งลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 22.9%

2.บริการ 44,750 อัตรา ความต้องการแรงงานในธุรกิจประเภทนี้จะเป็นธุรกิจบริการที่นอกเหนือจากธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาคท่องเที่ยว เช่น ธุรกิจบริการทำความสะอาด, ธุรกิจบริการด้านระบบ, ธุรกิจบริการฝึกอบรม

3.ก่อสร้าง 41,353 อัตรา SCB EICประเมินว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ผู้ประกอบการยังคงสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างจะมีแนวโน้มหดตัวตามเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงมาก ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์บางส่วนเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไป แต่การก่อสร้างโครงการภาครัฐยังคงมีแรงขับเคลื่อนจากโครงการเมกะโปรเจ็กต์คมนาคม

เช่น โครงการรถไฟฟ้า, โครงการรถไฟความเร็วสูง, โครงการสนามบิน, โครงการท่าเรือ, โครงการมอเตอร์เวย์ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของสํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

4.ยานพาหนะ/ชิ้นส่วนยานยนต์ 39,883 อัตรา ผลจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อยอดการจำหน่ายและการผลิตรถยนต์ในประเทศและการส่งออกให้ชะลอตัวลง ทั้งยังกระทบต่อเนื่องไปยังผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ผู้ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถยนต์ รวมถึงตัวแทนจำหน่าย (ที่มา : สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย) แม้ธุรกิจนี้จะอยู่ใน 5 อันดับแรกที่ต้องการแรงงานมาก แต่เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนพบว่า ความต้องการแรงงานลดลงถึง 31.8%

5.ค้าปลีก 37,482 อัตรา ธุรกิจค้าปลีกโดยรวมมีผลกระทบค่อนข้างมาก ยกเว้นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต้องใช้ในการดำรงชีวิต เช่น อาหารและของใช้ส่วนตัว ทำให้ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ยังคงมีความต้องการแรงงาน

ขณะที่ 5 สายงานที่องค์กรเปิดรับมากที่สุด อันดับ 1 ขาย คิดเป็น 19.9% อันดับ 2 ช่างเทคนิค คิดเป็น 10.3% อันดับ 3 ผลิต/ควบคุมคุณภาพ คิดเป็น 7.9% อันดับ 4 วิศวกร คิดเป็น 5.8% อันดับ 5 ธุรการ/จัดซื้อ คิดเป็น 5.7%

ส่วน 5 สายงานที่คนสมัครมากที่สุด อันดับ 1 ธุรการ/จัดซื้อ คิดเป็น 12.7% อันดับ 2 ขาย คิดเป็น 9.5% อันดับ 3 ผลิต/ควบคุมคุณภาพ คิดเป็น 9.1% อันดับ 4 งานบุคคล/ฝึกอบรม คิดเป็น 6.2% อันดับ 5 ขนส่ง-คลังสินค้าคิดเป็น 6.1%

สำหรับ 5 นิคมอุตสาหกรรมที่ต้องการแรงงานมากที่สุด อันดับ 1 นิคมอมตะซิตี้จังหวัดระยอง 3,374 อัตรา อันดับ 2 นิคมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี 3,140 อัตรา อันดับ 3 นิคมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี 2,789 อัตรา อันดับ 4 สวนอุตสาหกรรมโรจนะ พระนครศรีอยุธยา 2,339 อัตรา อันดับ 5 เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร ปทุมธานี 2,264 อัตรา

“แสงเดือน” กล่าวต่อว่า ส่วนนักศึกษาจบใหม่ในปีนี้ต้องเผชิญกับภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น ต้องมีการปรับตัวอยู่เสมอเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและพร้อมรับมือกับอนาคต

สำหรับสายงานที่เปิดรับนักศึกษาจบใหม่โดยมี 5 สายงานที่องค์กรเปิดรับนักศึกษาจบใหม่ปริญญาตรีมากที่สุด อันดับ 1 ขาย คิดเป็น 23.3% อันดับ 2 บริการ คิดเป็น 11.8% อันดับ 3 ธุรการ/จัดซื้อ คิดเป็น 9.0% อันดับ 4 วิศวกร คิดเป็น 7.2% อันดับ 5 ช่างเทคนิค คิดเป็น 7.1%

“ขณะที่ 5 สายงานที่นักศึกษาจบใหม่ปริญญาตรีสมัครมากที่สุด อันดับ 1 ธุรการ/จัดซื้อ คิดเป็น 15.8% อันดับ 2 วิศวกร คิดเป็น 10.3% อันดับ 3 ขาย คิดเป็น 9.5% อันดับ 4 ผลิต/ควบคุมคุณภาพ คิดเป็น 8.0% อันดับ 5 บริการ คิดเป็น 7.1%”

“ดังนั้น หากแบ่งข้อมูลออกเป็น3 ช่วง คือ ช่วงก่อนระบาดหนัก (มกราคม-กุมภาพันธ์) ช่วงระบาดหนักและล็อกดาวน์ (มีนาคม-เมษายน) และช่วงคลายล็อกดาวน์ (พฤษภาคม-มิถุนายน) พบว่า ช่วงระบาดหนักและล็อกดาวน์ มีสายงานเดียวที่เปิดรับคนเพิ่มขึ้น คือแพทย์/เภสัชกร/สาธารณสุข เพิ่มขึ้น 0.5% ส่วนช่วงคลายล็อกดาวน์ มีการเปิดรับ freelance เพิ่มขึ้น 36.4%”

“แสงเดือน” กล่าวต่อว่า ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา สถานการณ์ด้านตลาดแรงงานมีความผันผวนจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 องค์กรต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้ทันต่อสถานการณ์อยู่เสมอคนทำงานเองต้องพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนการทำงานของตัวเองอยู่ตลอดเวลา การพัฒนาทักษะอยู่ตลอดเวลาเป็นเรื่องสำคัญมากในการทำงานยุคนี้

“สำหรับทิศทางของตลาดแรงงานจากนี้ไป คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อเราดูสถิติช่วงต้นเดือนกรกฎาคมพบว่า สายอาชีพที่มีแนวโน้มเปิดรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ freelance, อาจารย์/ครู, แพทย์/เภสัชกร/สาธารณสุขสำหรับการหางาน สมัครงานในจ๊อบไทยมีการเติบโตขึ้นมาก ซึ่งจ๊อบไทยได้ออกฟีเจอร์การค้นหางานที่ให้ทำงานที่บ้านได้(work from home) และค้นหางานที่เปิดรับสัมภาษณ์ออนไลน์ เพื่อสร้างความสะดวก ทั้งยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ และคนหางานด้วย”