แสนสิริ แสดงจุดยืนองค์กรเพื่อเด็ก ไม่หวั่นพิษโควิด ทุ่ม 32 ล้านแก่ยูนิเซฟ

แสนสิริ แสดงจุดยืนเป็นองค์กรเพื่อเด็ก ไม่หวั่นพิษโควิด บริจาคกว่า 32 ล้านบาทแก่กองทุนฉุกเฉิน ยูนิเซฟ นำไปช่วยเหลือเด็กทั่วโลก ย้ำปัญหาเด็กไม่มีทางจบง่ายต้องช่วยต่อเนื่อง

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากแสนสิริ ในฐานะ UNICEF’s selected Partner ได้ร่วมกับยูนิเซฟช่วยเหลือเด็กทั่วโลกด้วยการมอบเงินสนับสนุนปีละ 1 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 30 ล้านบาท ผ่านกองทุน emergency fund หรือกองทุนฉุกเฉินสำหรับเด็กแห่งสหประชาชาติ นำไปช่วยเหลือเด็กในสถานการณ์ต่าง ๆ มาเป็นเวลา 10 ปี ปัจจุบันเป็นเงินรวมกว่า 325 ล้านบาท สามารถช่วยเหลือเด็กให้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัดไปแล้ว 18 ล้านชีวิต และช่วยเด็กกว่า 32 ล้านชีวิตได้รับน้ำสะอาดเพื่อการดำรงชีวิต

ขณะที่การช่วยเหลือเด็กไทย แสนสิริได้ดำเนินผ่าน 17 โครงการ ครอบคลุมทั้งด้านการศึกษา สุขภาพ และกีฬา โดยโครงการที่ร่วมกับยูนิเซฟที่เห็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรม คือ โครงการ Iodine Please ที่สร้างความตระหนักให้สังคมไทยเกี่ยวกับโรคขาดสารไอโอดีนในเด็ก เพราะไม่ใช่ป้องกันโรคคอพอก แต่ส่งผลกระทบด้านสมองของเด็กด้วย แสนสิริและยูนิเซฟจึงช่วยเป็นกระบอกเสียงส่งต่อภาครัฐ นำมาซึ่งผลักดันให้เกิดกฏหมายที่กำหนดให้มีการเติมสารไอโอดีนในเกลือบริโภค ประกาศใช้มาตั้งแต่ 1 มกราคม 2554

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ก็มีโครงการ Zero Child Labour ป้องกันปัญหาการใช้แรงงานเด็กในสถานก่อสร้าง กำหนดให้คู่ค้าธุรกิจ ให้ความร่วมมือในการทำสัญญา ข้อตกลงเรื่อง “ข้อสัญญาคุ้มครองแรงงานเด็ก” มาตั้งแต่ปี 2561 เพื่อป้องกันการใช้แรงงานเด็กอย่างไม่ถูกต้องในกระบวนการธุรกิจ และกำหนดสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก (The Good Space) ให้เด็กในสถานที่ก่อสร้างใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย และเข้าถึงระบบสาธารณสุขอย่างเท่าเทียม ซึ่งแสนสิริสร้าง Good sapce ไปแล้ว 57 แห่ง ใน 13 จังหวัด ช่วยเด็กกว่า 6,000 คนที่พักอาศัยในแคมป์คนงานก่อสร้างได้มีพื้นที่ปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า จากผลดำเนินการที่ผ่านมา แสนสิริก็ยังคงดำเนินการช่วยเหลือเด็กต่อเนื่อง แม้ว่าปีนี้ทั่วโลกจะประสบวิกฤตเศรษฐกิจที่เป็นผลพวงมาจากโควิด-19 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เองก็ได้รับผลกระทบ แต่สำหรับแสนสิริก็ยังพอไหวที่จะช่วยสังคม ดังนั้นจึงไม่มีแผนลดงบประมาณการลงทุนเพื่อสังคมขององค์กร ซึ่งโครงการช่วยเหลือเด็กถือเป็น 50% ของงบโครงการเพื่อสังคมของแสนสิริ

และปีนี้นอกจากจะมอบ 1 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 30 กว่าล้านบาทเหมือนทุกปี ยังเพิ่มอีก 2 ล้านบาท เนื่องจากเป็นปีที่ประสบวิกฤตหนัก เพราะเชื่อว่าเด็กทั่วโลกต้องการความช่วยเหลือ เชื่อว่าปัญหาของเด็กไม่จบง่าย ต่อให้บริจาคมากแค่ไหนก็กระจายความช่วยเหลือไม่พอ