กลุ่มเซ็นทรัล แก้ภัยแล้ง จ.สุรินทร์ ผลักดันเกษตรกรสู่โมเดิร์นเทรด

กลุ่มเซ็นทรัล ร่วมกับผู้ว่าราชการ จ.สุรินทร์ แก้ภัยแล้ง ส่งเสริมเกษตรกรทำเกษตรทฤษฎีใหม่ พร้อมผลักดันสู่โมเดิร์นเทรด ฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19

เขตพื้นที่อีสานตอนล่างเป็นภูมิภาคที่ชาวบ้านทำอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก แต่กลับประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร ทำให้ขาดรายได้ กลุ่มเซ็นทรัล ในฐานะภาคธุรกิจที่มีความเข้มแข็งเรื่องช่องทางจำหน่ายสินค้า ที่รวมถึงผลผลิตทางการเกษตร จึงต้องการส่งเสริมเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยเล็งเห็นว่าต้องแก้ปัญหาเรื่องขาดแคลนน้ำเป็นก่อน

โดยร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ดำเนินโครงการ ‘สระน้ำไร่นาประชารัฐสามัคคี เกษตรอินทรีย์  วิถีสุรินทร์ 4.0’ หรือ โคก หนอง นา โมเดล ภายใต้โครงการ ‘เซ็นทรัล ทำ’ ที่นอกจากจะช่วยบรรเทาภัยแล้ง ยังเป็นภารกิจที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ภายใต้การขับเคลื่อนของกระทรวงมหาดไทย

“ไกรสร กองฉลาด” ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ความท้าทายของประเทศไทยคือการขาดความสมดุล เนื่องจากเกษตรกรสร้างผลผลิตได้ปีละครั้ง แต่คนในประเทศต้องรับประทานอาหารทุกวัน นอกจากนั้น เขตพื้นที่อีสานตอนล่างประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก ทำให้เกษตรกรไม่สามารถผลิตผลผลิตได้เพียงพอต่อกับความต้องการ

ไกรสร กองฉลาด

การร่วมมือกับกลุ่มเซ็นทรัลครั้งนี้มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกรในจังหวัดสุรินทร์ ให้มีน้ำเพียงพอกับการใช้ในการเกษตร และกลุ่มเซ็นทรัลยังส่งเสริมความรู้ด้านโมเดิร์นเทรดให้กับพวกเขา จะได้ไม่ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลาง ซึ่งผมหวังว่าหากขยายโครงการนี้ได้หลายพื้นที่ในจังหวัดสุรินทร์ จะช่วยขยับ GDP ของจังหวัด จากที่ทรงตัวอยู่ที่ 70% ให้สูงขึ้นได้

“การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นตัวเพิ่มวิกฤตทางเศรษฐกิจในประเทศให้หนักขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้เรียนรู้จากวิกฤตครั้งนี้คือ อาชีพเกษตรกรรมจะไม่สูญหายไปไหน ในขณะที่หลายคนที่ประกอบอาชีพอื่น ๆ ตกงานในช่วงนี้ เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมลดจำนวนต้นทุนด้านแรงงานเพื่อพยุงให้บริษัทอยู่ได้”

โครงการสระน้ำไร่นาประชารัฐสามัคคี เกษตรอินทรีย์ วิถีสุรินทร์ 4.0 เป็นการบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ในที่ดินของเกษตรกรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ภายใต้แนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีการแบ่งพื้นที่สัดส่วน 30.30.30.10 ได้แก่ พื้นที่สำหรับแหล่งน้ำ 30% พื้นที่ดินเพื่อเป็นที่นาปลูกข้าว 30% พื้นที่ดินสำหรับปลูกพืชผัก สมุนไพร ไม้ผล ไม้เศรษฐกิจ ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง 30% และพื้นที่ดินสำหรับสร้างที่อยู่อาศัยและเลี้ยงสัตว์ 10% เป็นการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในลักษณะประชารัฐสามัคคี โดยได้รับการสนับสนุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากกลุ่มเซ็นทรัล ภาคเอกชน และภาคประชาชน ผ่านการจัดกิจกรรมผ้าป่าสามัคคี น้ำใจน้ำมันปันสุข

ทั้งนี้ เมื่อเกษตรกรที่ได้รับสระน้ำจากโครงการดังกล่าวแล้ว จะต้องพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์เรียนรู้หรือแปลงตัวอย่างด้านการทำเกษตรแบบผสมผสาน เพื่อแบบอย่างแก่เกษตรกรรายอื่น หรือประชาชนทั่วไปที่สนใจเป็นระยะเวลา 5 ปี

“พิชัย จิราธิวัฒน์” กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลได้สนับสนุนงบประมาณแก่ทางจังหวัดสุรินทร์ ในการขุดสระน้ำเพื่อการเพาะปลูกในพื้นที่เป้าหมายเบื้องต้นจำนวน 15 สระ ให้แก่เกษตรกรในตำบลหนองสนิท อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งในขณะนี้ขุดเสร็จเรียบร้อยแล้วจำนวน 4 สระ

พิชัย จิราธิวัฒน์

นอกจากนั้น ได้ช่วยวางแผนการผลิตร่วมกันกับกลุ่มเกษตรกรของสหกรณ์การเกษตรพืชผักอินทรีย์หนองสนิท จำกัด ในจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีสมาชิก 96 ครัวเรือน แบ่งเป็น 6 กลุ่ม พื้นที่ในการปลูก 60 ไร่ และได้รับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ไทย (Organic Thailand) โดยทางกลุ่มมีการวางแผนการผลิตพืชผักร่วมกับทีมท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อให้ผลผลิตตรงกับความต้องการของตลาด มีปริมาณหมุนเวียนตลอดทั้งปี

ทั้งยังสนับสนุนเกษตรกรนำผลผลิตไปจำหน่ายผ่านรูปแบบโมเดิร์นเทรด ที่ตลาดจริงใจ Farmers’ Market สาขาสุรินทร์ ในท็อปส์ มาร์เก็ต และเมื่อกลุ่มเกษตรกร มีความพร้อมมากขึ้นและมีผลผลิตเพียงพอต่อความต้องการของตลาด กลุ่มเซ็นทรัลจะนำผลผลิตเข้าไปจำหน่ายใน ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาอื่น ๆ และธุรกิจในเครือของกลุ่มเซ็นทรัล

ในอนาคตจะขยายผลโครงการนี้ไปยังพื้นที่ในจังหวัดอื่น ๆ อีกด้วย