“LPC” ต่ออายุเกษียณ เสริมรายได้สตรีด้อยโอกาส

สุรัสวดี ซื่อวาจา
สุรัสวดี ซื่อวาจา

ต้องยอมรับความจริงว่า “สังคมผู้สูงอายุ” กำลังคืบคลานเข้าสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างส่งเสริมให้ “ข้าราชการเกษียณ” และ “พนักงานเกษียณ” ที่มีความรู้ ความสามารถ ที่มีศักยภาพ และมีความเชี่ยวชาญในเรื่องต่าง ๆต่ออายุเกษียณ

แต่สำหรับบริษัท แอล พี ซี วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (LPC) วิสาหกิจเพื่อสังคม (social enterprise- SE) ในเครือแอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ กรุ๊ปกลับช่วยเหลือพนักงานเกษียณในวิถีทางของตนเอง โดยเฉพาะพนักงานที่ยังมี “ไฟ” ในการทำงาน หรือพนักงานที่เป็นสตรีด้อยโอกาส การศึกษาน้อยผู้พิการ และพนักงานที่มีภาระที่ต้องดูแลครอบครัวเพียงลำพัง

สำหรับเรื่องนี้ “สุรัสวดี ซื่อวาจา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล พี ซี วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (LPC) เล่าให้ฟังว่า พนักงานส่วนใหญ่ของเราเป็นสตรีด้อยโอกาส, ผู้พิการ, การศึกษาน้อย, บางคนมีภาระเลี้ยงดูครอบครัวเพียงคนเดียว และบางคนเคยถูกเอารัดเอาเปรียบจากการจ้างงานทั้ง ๆ ที่เป็นผู้สูงวัยอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป

“บริษัทจึงมีนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพนักงานกลุ่มนี้ ทั้งในรูปแบบค่าตอบแทนและสวัสดิการต่าง ๆ ที่สูงกว่ามาตรฐานทั่วไป 10% ทั้งยังส่งเสริมการศึกษาพนักงาน และมอบทุนการศึกษาให้บุตร นอกจากนี้ยังฝึกทักษะวิชาชีพให้มีอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ในวันหยุด เช่น การนวดแผนไทย

ที่สำคัญคือเปิดโอกาสการทำงานต่อเมื่ออายุครบ 60 ปี สำหรับผู้สูงอายุ บริษัทไม่ใช่แค่ให้โอกาส เพราะแท้ที่จริงแล้ว ผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยยังมีศักยภาพในการทำงานไม่แพ้วัยทำงาน ทั้งยังมีทักษะความชำนาญ รวมถึงความรับผิดชอบงานสูง”

“ซึ่งการให้ผู้สูงอายุมีอาชีพและรายได้สำหรับดูแลครอบครัว นอกจากจะช่วยให้พวกเขามีความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในตัวเอง ยังเป็นบทพิสูจน์การทำงานของคนเราที่ไม่มีวันหมดอายุ ยกตัวอย่างป้าจัน-จันแก้ว มาโยงเราก็ให้โอกาสเขาสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง ด้วยการทำงานในบทบาทใหม่ ๆ เพราะเราเชื่อว่าแค่ขอเพียงมีใครสักคนหยิบยื่นโอกาสมาให้ เชื่อว่าหัวใจของคนที่กำลังท้อและหาทางออกไม่ได้นั้น จะกลายเป็นหัวใจที่พร้อมจะทำงานแบบไม่มีวันเกษียณกันเลยทีเดียว”

“ป้าจัน” หรือ “จันแก้ว มาโยง” พนักงานบริการชุมชนของบริษัท แอล พี ซี วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด(LPC) วิสาหกิจเพื่อสังคม (social enterprise -SE) ในเครือ “แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ กรุ๊ป” ที่ปัจจุบันอายุ63 ปีแล้ว แต่เมื่อ 3 ปีที่แล้วหลังจากที่เธอเกษียณอายุ เธอกลับเลือกที่จะอยู่ต่อ

จันแก้ว มาโยง
จันแก้ว มาโยง

ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องสุขภาพร่างกาย และจิตใจที่ยังคงแข็งแรงเท่านั้น แต่ด้วยภาระหนี้สินและความรับผิดชอบต่อครอบครัว เนื่องจากลูกชายวัย 18 ปีกำลังเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ผลตรงนี้ส่งต่อการตัดสินใจของ “ป้าจัน” ที่เลือกจะ “อยู่ต่อ” ทั้งนั้นเพื่ออยากส่งเสีย “ลูกชาย” ให้ถึงฝั่งฝัน

“ตอนนั้นป้ามีปัญหาหนี้นอกระบบ เหตุจากน้องชายป่วย จึงไปกู้ยืมเงินมารักษา และไม่สามารถจ่ายหนี้ตามเวลาที่กำหนด จนทำให้หนี้สินเพิ่มพูนมากขึ้น กอปรกับช่วงเวลานั้น LPC มีโครงการช่วยเหลือพนักงานปลดหนี้นอกระบบ ป้าจึงตัดสินใจเข้าร่วม และตอนนี้ทำให้เราปลอดหนี้ได้ในที่สุด จนทำให้ทุกวันนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่มีความกังวลเรื่องการหาเงินมาใช้หนี้ ทั้งยังส่งผลให้การทำงานในปัจจุบันมีประสิทธิภาพ สามารถส่งต่อรอยยิ้มและความสุขไปยังลูกค้าที่มารับบริการจากเรา”

“ในวันที่ป้าต้องเกษียณอายุ ป้ารู้ว่าบริษัทมีนโยบายให้โอกาสพนักงานที่ถึงวัยเกษียณสามารถทำงานต่อได้ ป้าจึงเข้าไปพูดคุยกับผู้บริหารเลยค่ะ ว่ายังมีไฟที่จะทำงานต่อ ซึ่งทาง LPC ก็ได้ให้โอกาส หยิบยื่นบทบาทหน้าที่ใหม่ ๆ มาให้ทำ เป็นหนึ่งความท้าทายจากเดิมมาก เพราะที่ผ่านมาป้ารับผิดชอบทำความสะอาดเป็นหลัก ซึ่งเรามีความสุขในงานที่ทำมาตลอด 7 ปี

พอมาเริ่มบทบาทใหม่ในฝ่ายบริหารคุณภาพบริการ ได้มาหยิบจับเอกสาร และทำงานตามที่ผู้ใหญ่ไว้วางใจ รู้สึกได้ถึงความรับผิดชอบของการทำงานที่มีมากขึ้น และทุกคนก็ให้การยอมรับ ทำให้ป้ามีความสุขกับการทำงานมากค่ะ ยิ่งอยู่ยิ่งมีความสุข และมีความอบอุ่นในการทำงานกับ LPC”

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ทำให้ “ป้าจัน” ยังคงอยู่ต่อได้ แม้จะอยู่ในวัยเกษียณแล้วก็ตามคือ “โอกาส” จากทาง LPC ที่มุ่งหวังในการมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาสังคม โดยการแบ่งปันโอกาสในการทำงานให้กับหญิงด้อยโอกาสทางสังคม เพื่อให้มีอาชีพการงานที่มั่นคง หารายได้เกื้อหนุนครอบครัว และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

“ป้าจัน” เล่าให้ฟังต่อว่า ต้องขอขอบคุณ LPC ที่ให้โอกาส และมอบสิ่งดี ๆ ในวันนั้นจนถึงวันนี้ นอกจากช่วยให้ป้ามีโอกาสทำงานต่อ แม้จะเกษียณอายุไปแล้วก็ตาม ยังช่วยปลดหนี้จากการติดหนี้นอกระบบอีกด้วย ผ่านมา 7 ปีแล้ว ตั้งแต่เข้ามาทำงานที่นี่ LPC ให้โอกาสป้าเข้าร่วมโครงการ”ปลดหนี้” ทำให้หลุดพ้นจากบ่วงหนี้สินที่สร้างไว้ โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยสักบาท ทำให้ครอบครัวมีชีวิตดีขึ้น มีเงินใช้จ่ายภายในครอบครัวไม่ลำบากเหมือนเมื่อก่อน

“ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นหนี้ใครแล้ว ชีวิตคล่องตัว และมีเงินเก็บมากขึ้น จากการที่เข้าร่วมโครงการรักการออม ที่บริษัทมุ่งหวังจะสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินให้กับพนักงานอย่างยั่งยืน โดยป้าได้แบ่งเงินมาออมเดือนละ 500 บาท ซึ่งฝากมาครบหนึ่งปี และได้รับเงินสมทบจากบริษัทแล้ว นอกจากนั้นบริษัทยังส่งเสริมให้ป้าได้เรียนหนังสือและส่งเสริมอาชีพให้ติดตัวไป อย่างเช่นการเรียนนวดแผนไทย ซึ่งไม่ใช่แค่ป้าคนเดียวนะคะ ยังรวมถึงพนักงาน LPC ทุกคนก็ได้รับโอกาสเช่นเดียวกัน และอนาคตจากนี้ไปจะขอทำงานอย่างสุดความสามารถ จะสู้เพื่อ LPCตลอดไปค่ะ”

นับว่าเป็นโครงการที่สร้าง “พลังใจ”ให้กับ “ป้าจัน” หัวใจไม่เกษียณอย่างแท้จริง