“ออราเคิล” เผยบุคลากรยุคใหม่ชอบปรึกษา หุ่นยนต์ มากกว่า หัวหน้า

ทวีศักดิ์ แสงทอง

เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญและสร้างผลกระทบต่อทุกแง่มุมของชีวิตคน ซึ่งปัจจุบันลายองค์กรเริ่มหันมาพึ่งเทคโนโลยีให้เป็นที่ปรึกษาด้านจิตใจของคนทำงาน

งานศึกษาชิ้นล่าสุดที่จัดทำโดย “ออราเคิล” บริษัทผู้ทำระบบคลาวด์และชุดแอปพลิเคชันครบวงจรแบบบูรณาการ ร่วมกับ “เวิร์กเพลส อินเทลลิเจนซ์” บริษัทผู้วิจัยและให้คำปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล ระบุว่าปี 2020 ถือเป็นปีที่สร้างแรงกดดันแก่แรงงานทั่วโลกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และผู้คนต้องการให้หุ่นยนต์เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้ โดยการศึกษาครั้งนี้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นจากพนักงาน ผู้จัดการ ผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคล และผู้บริหารระดับสูงรวมมากกว่า 12,000 คน ใน 11 ประเทศกลุ่มเอเชียแปซฟิก

“ทวีศักดิ์ แสงทอง” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คนทำงานทั่วโลกเกิดความเครียด ความวิตกกังวล และความเหนื่อยล้ามากขึ้น แต่พวกเขากลับเลือกพูดคุยหรือขอความช่วยเหลือจากหุ่นยนต์มากกว่ามนุษย์ด้วยกัน

“ปัจจุบันบุคลากรในองค์กรต้องการใช้งานเทคโนโลยีมากกว่าเป็นเพียงเครื่องมือทำงาน พวกเขาต้องการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยเรื่องจิตใจด้วย เห็นได้ว่าพนักงานรู้สึกดีกว่าที่ได้ปรึกษาปัญหาเรื่องทำงานหรือปัญหาส่วนตัวกับหุ่นยนต์หรือแชทบอท (chatbot)”

โดยผลการสำรวจระบุว่าพนักงาน 68% เลือกพูดคุยกับหุ่นยนต์มากกว่าการคุยกับหัวหน้างานเกี่ยวกับความเครียดและความกังวลเรื่องงาน และ 80% ยอมรับการนำหุ่นยนต์มาทำหน้าที่เป็นนักบำบัดหรือที่ปรึกษา มีพนักงานเพียง 18% ที่ชอบพูดคุยกับมนุษย์มากกว่าหุ่นยนต์

ผู้ตอบแบบสอบถาม 34% เชื่อว่าหุ่นยนต์สามารถพูดคุยได้โดยไม่ตัดสินพวกเขา, 30% ถือว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่ปราศจากอคติในการปรึกษาปัญหา, และ 29% รู้สึกว่าสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับสุขภาพได้รวดเร็วกว่ามนุษย์”

“ทวีศักดิ์” อธิบายว่า ออราเคิลมี cloud infrastructure ที่มีแอพลลิเคชั่นระบบเอชอาร์ (HR – human resource) เอง ทำให้สามารถสร้างระบบผู้ช่วยเอชอาร์ดิจิทัล (digital assistant) แบบครบวงจร เพื่อเป็นที่ปรึกของบุคลากรในองค์กรต่าง ๆ โดยเปิดให้บริการหลายองค์กรในไทยและต่างประเทศ

“การใช้ chatbot ในองค์กรมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของระบบจะอัพเดทข้อมูลเพื่อเป็นคำตอบตอบพนักงานที่เข้ามาปรึกษาอยู่เสมอ เพราะมี big data ที่ครอบคลุมเกือบทุกเรื่องและตรงประเด็น”

พนักงาน 75% กล่าวว่าปัญญาประดิษฐ์สามารถเยียวยาจิตใจในสถานที่ทำงานได้ ซึ่งประโยชน์หลัก ๆ ที่สังเกตเห็นได้คือ ผู้ตอบแบบสอบถาม 31% เชื่อว่าปัญญาประดิษฐ์ให้ข้อมูลจำเป็นในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น, 27% บอกว่าการทำงานแบบอัตโนมัติช่วยลดภาระงานจึงป้องกันความเหนื่อยล้า, และ 27% รู้สึกว่าช่วยลดความเครียดเพราะสามารถช่วยจัดลำดับงาน

นอกจากนั้น ผู้ตอบแบบสอบถาม 51% บอกว่าปัญญาประดิษฐ์สามารถช่วยให้สามารถลดจำนวนวันทำงานและมีวันหยุดพักร้อนยาวนานขึ้น ผู้ทำแบบสอบถามมากกว่าครึ่ง (63%) ระบุว่า ปัญญาประดิษฐ์สามารถเพิ่มประสิทธิผลการทำงาน, 54% บอกว่าช่วยเพิ่มระดับความพึงพอใจในงาน และ 52% ระบุว่าช่วยยกระดับความสุขโดยรวม

“ทวีศักดิ์” กล่าวถึงผลประกอบการของออราเคิลทั่วโลกว่า ช่วงมิถุนายน – สิงหาคม 2563 เติบโต 2% โดยธุรกิจคลาวด์เติบโต 33 % โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้าน แอพลลิเคชั่น Human Capital Management (HCM) การบริหารจัดการทุนมนุษย์ และ Enterprise Resource Planning (ERP) เครื่องมือหรือระบบที่ช่วยวางแผนและจัดการฐานข้อมูลองค์กร เพื่อให้มีการบริหารและใช้ทรัพยากรร่วมกันภายในองค์กรมีประสิทธิภาพสูงสุด

“ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว มีผลต่อการลงทุนทางเทคโนโลยีของหลายองค์กร เราจึงมีมาตรการการช่วยเหลือลูกค้าหลังจากได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 สำหรับบริษัทลูกค้าที่ใช้ระบบ Human Capital Management ของออราเคิล ให้ลูกค้าให้ใช้ระบบบางอย่างฟรี และขยายเวลาไปถึงสิงหาคมปี 2021 และมีโครงการฟรีคลาวด์ใช้ได้ตลอดชีพ”