รมว. แรงงาน แจง พานาโซนิค ย้ายฐานผลิต-เลิกจ้างจ่ายเงินตามกฎหมาย

พานาโซนิค.
KAZUHIRO NOGI / AFP

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เกาะติดสถานการณ์การจ้างงานทุกมิติ กรณีบริษัท พานาโซนิค ประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานในไทยเพื่อรวมกิจการในเวียดนามนั้น ยันปิดเฉพาะประเภทกิจการเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยกิจการเดียวเท่านั้น ยังมีฐานการผลิตประเภทกิจการอื่นๆ ส่วนที่เลิกจ้างนั้นบริษัทฯ ก็ได้จ่ายเงินให้พนักงานตามสิทธิที่พนักงานจะได้รับตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ติดตามสถานการณ์การจ้างแรงงานอย่างใกล้ชิด โดยมีความเป็นห่วงลูกจ้างของบริษัทพานาโซนิค ที่เป็นข่าวว่าบริษัทประกาศปิดกิจการในประเทศไทยและย้ายฐานการผลิตไปเวียดนาม จึงกำชับให้กระทรวงแรงงานเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง

ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า บริษัท พานาโซนิค ประกาศปิดโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทย และรวมการผลิตเข้ากับโรงงานที่ใหญ่ขึ้น ในประเทศเวียดนามเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นนั้น โดยปิดเฉพาะประเภทกิจการเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยกิจการเดียวเท่านั้น ยังมีโรงงานประเภทกิจการอื่นๆ ดำเนินกิจการในประเทศไทยต่อ ส่วนที่เลิกจ้างนั้นบริษัทฯ ก็ได้จ่ายเงินให้พนักงานตามสิทธิที่พนักงานจะได้รับตามกฎหมาย

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น พบว่า บริษัทฯ นี้ ได้ประกาศปิดโรงงานให้พนักงานทราบตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2563 โดยจะทะยอยเลิกจ้างเดือนกันยายน และตุลาคม 2563 ซึ่งการปิดโรงงานดังกล่าว เป็นโรงงานผลิตสินค้ากลุ่มตู้เย็นและเครื่องซักผ้า และในเดือนมีนาคม 2564 จะปิดโรงงานทั้งหมดรวมทั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในนิคมเวลโกรว์ โดยบริษัทฯ ได้เลิกจ้างลูกจ้าง และลูกจ้างรับเหมาค่าแรง รวมทั้งสิ้นเกือบ 800 คน และจะจ่ายเงินให้กับลูกจ้าง รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 200 ล้านบาท

“ผมได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคทำงานเชิงรุก
โดยเร่งติดตามสถานการณ์การจ้างแรงงานอย่างใกล้ชิด ซึ่งในเรื่องนี้ ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความห่วงใยและให้กระทรวงแรงงานบูรณาการการทำงานเชิงรุกในทุกมิติ เพื่อเสริมสร้างระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง” นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด