ทรัพยากรมนุษย์เป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงแก่สังคม และประเทศชาติ แต่การที่ทรัพยากรมนุษย์จะมีคุณภาพได้ ต้องใช้การศึกษาเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนา ด้วยเหตุนี้ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จึงได้ริเริ่มโครงการเพื่อสังคมในชื่อ “Day of Caring – สร้างโอกาสแห่งการให้” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาของเด็ก และเยาวชนที่ด้อยโอกาสในประเทศไทย ผ่านกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ
“นภาพร นามไทเสรี” กรรมการบริหารฝ่ายสินเชื่อและบริหารสินเชื่อ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมากว่า 10 ปี เราสร้างโอกาสแห่งการให้ผ่านกิจกรรมหลายรูปแบบ อาทิ การมอบสิ่งของเครื่องใช้ อุปกรณ์เพื่อการศึกษา การปลูกป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียว เป็นต้น
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
“แนวทางสำคัญของเราคือการไปเยี่ยมโรงเรียนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อดูว่าพวกเขาขาดแคลนอะไร แต่เราจะมุ่งเน้นไปที่โรงเรียนที่ไม่ได้รับโอกาสจากการให้บ่อย ๆ โดยล่าสุดเราไปที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนนเรศวรป่าละอู อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อส่งมอบหนังสือบันทึกตามรอย 99 คำพ่อสอน ที่ประกอบด้วยพระบรมสาทิสลักษณ์ และพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 30 เล่ม พร้อมผ้าห่มจำนวน 300 ผืน และคอมพิวเตอร์จำนวน 30 เครื่องให้แก่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่กองกำกับ 14 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวนทั้งสิ้น 11 โรงเรียน”
“นภาพร” อธิบายว่า คำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นเรื่องที่เด็ก และเยาวชนควรน้อมนำมาปรับใช้ในชีวิต เพื่อมีชีวิตที่ดี และมีความสุข โดยคุณครูสามารถใช้หนังสือบันทึกตามรอย 99 คำพ่อสอนที่เรามอบให้ถ่ายทอดให้เด็ก ๆ ในโรงเรียนได้ตลอดไป เพราะคำสอนของพระองค์เป็นจริงเสมอ และสามารถใช้ได้อย่างยั่งยืน
“เรายังน้อมนำหลักคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ใช้ในกิจกรรมเชิงเอดูเทนเมนต์ ประกอบด้วย กิจกรรมวาดภาพในหัวข้อหลักคำสอนของพ่อหลวง โดยมีอาจารย์ชลิต นาคพะวัน ศิลปินชื่อดัง ผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนศิลปะเด็กให้เกียรติมาเป็นครูผู้สอน และจัดเกมให้เด็กนักเรียนได้ร่วมสนุกอีก 3 เกม คือ เกมปราบอธรรม ที่สอนให้รู้จักการใช้ธรรมชาติแก้ไขปัญหาทางธรรมชาติ, เกมชักเย่อ ที่สอนให้รู้รักสามัคคีกันในหมู่คณะมีความร่วมแรงร่วมใจกัน และรู้จักการวางกลยุทธ์ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และสุดท้ายคือเกมรวมเหรียญ ที่สอนเรื่องการกินอยู่อย่างพอเพียง ความซื่อสัตย์สุจริต และความพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่”
“พ.ต.ต.คำนึง สงสม” ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนนเรศวรป่าละอูกล่าวว่า โรงเรียนแห่งนี้เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นปฐมวัย ถึง ป.6 เป็นโรงเรียนที่จัดตั้งเพื่อสอนภาษา และวัฒนธรรมไทยให้แก่เด็กชาวเขา เพราะส่วนใหญ่เด็กในพื้นที่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง และกะหร่าง ซึ่งมีฐานะยากจน เรามีเด็กนักเรียนจำนวน 200 คน มีครูตำรวจตระเวนชายแดนจำนวน 7 คน ผู้ดูแลเด็ก 2 คน และครูสอนคอมพิวเตอร์ 1 คนที่ทำหน้าที่ดูแลเด็กทั้งหมด
“นอกเหนือจากการเรียนหนังสือ นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรมเรียนรู้ทักษะชีวิต เช่น การปลูกพืชผัก, การปลูกต้นไม้, การเลี้ยงปลา, เป็ดเทศ, ไก่พื้นเมือง, ไก่พันธุ์ไข่ และหมู รวมถึงการเพาะเห็ดนางฟ้า และการเพาะถั่วงอก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการในพระราชดำริ ทั้งนี้ในแต่ละวันจะมีผู้ปกครองผลัดเปลี่ยนกันมาช่วยเหลือคุณครูประกอบอาหารกลางวันให้นักเรียนรับประทาน โดยใช้วัตถุดิบจากโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันที่มีอยู่ในขณะนั้น”
“ซึ่งสิ่งที่ทางโรงเรียนยังขาดแคลนอยู่คือ ไข่ไก่ และวัตถุดิบในการประกอบอาหาร รวมถึงอินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา แม้ตอนนี้สัญญาณจะเข้ามาถึงบ้างแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงเป็นเรื่องที่ดีที่ภาคเอกชนเข้ามาช่วยเหลือเด็ก ๆ ในโรงเรียนของเรา”
นับเป็นโอกาสแห่งการให้ ที่น้อมนำคำสอนของในหลวง ร.9 มาพัฒนาการศึกษาให้เด็กอย่างน่าประทับใจ
