สวนกระแสการบินซบ ATDI ขยายสาขาติวเตอร์แอร์-สจ๊วต

ขวัญเมษา ATDI
ขวัญเมษา กลางชนีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถาบัน ATDI

ธุรกิจการบินได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19 กระทั่งลามเป็นลูกโซ่จนถึงมหาวิทยาลัยที่เปิดการเรียนการสอนในสาขาวิชาดังกล่าว รวมถึงที่มีการเปิดหลักสูตรการบินที่จำนวนนักศึกษาลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มั่นใจว่าเมื่อเรียนจบแล้วจะทำงานได้หรือไม่ ที่สำคัญผลกระทบยังขยายไปถึงติวเตอร์ที่เปิดหลักสูตรการเตรียมความพร้อมก่อนสมัครเข้าทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่มีบางส่วนเริ่มปิดกิจการบ้างแล้วถึง 5 ราย

ขณะเดียวกัน ก็มีติวเตอร์บางคนที่ยืนหยัดอยู่ในธุรกิจ แม้จะมีวิกฤตไวรัสกระหน่ำซ้ำอีกครั้ง “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสสัมภาษณ์ “ขวัญเมษา กลางชนีย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถาบัน ATDI ถึงกลยุทธ์ในการทำธุรกิจเพื่อฝ่าวิกฤตโควิด-19 รวมถึงแนวโน้มของธุรกิจติวเตอร์ในปี 2564 เพื่อรักษาความเป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจนี้ต่อไปอย่างไร

สถาบัน ATDI เข้ามาเปิดตลาดในไทยเมื่อ 15 ปีก่อน โดยชู “ติวเตอร์หัวนอก” เป็น “จุดขาย” เพราะมีบริษัทแม่อยู่สหรัฐอเมริกา

“ขวัญเมษา” เล่าให้ฟังว่า สำหรับสถาบัน ATDI เป็นติวเตอร์แอร์โฮสเตส และสจ๊วตที่ครบวงจรและได้มาตรฐานที่ทั่วโลกให้การยอมรับ เพราะเป็นแบรนด์ระดับโลก มีหลักสูตรตั้งแต่หลักสูตรภาษาอังกฤษที่เข้มข้น มีเรียนด้วยรูปแบบออนไลน์ คอร์สภาษาและคอร์ส airline รวมถึงคอร์สสำหรับการพัฒนาบุคลิกภาพ

“แต่จากกรณีของโควิด-19 สถาบัน ATDI ได้รับผลกระทบบ้างเช่นกัน โดยจำนวนผู้สมัครเรียนลดลง 10-20% เท่านั้น อีกทั้งในกรณีที่จำนวนผู้เรียนในคลาสมีไม่ถึงค่ามาตรฐานที่ตั้งไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 20% ต่อคลาส อาจต้องปิดบางคลาสไปก่อน อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ปกติสถาบันจะมีผู้สนใจเข้าเรียนต่อคลาสอยู่ที่ 30-40 คน เพื่อให้ครูและผู้เชี่ยวชาญสามารถดูแลอย่างทั่วถึง”

“ขวัญเมษา” ระบุถึงความพิเศษของสถาบัน ATDI ที่ผู้สนใจควรเข้าคอร์สเรียน นอกจากความเป็นติวเตอร์ครบวงจรแล้ว ยังมีคลาสให้ผู้สนใจเลือกเรียนจำนวนมาก และเรียนในหลายระดับตามระดับจริงของผู้เรียน และค่าใช้จ่ายการเรียนที่คุ้มค่า มีการทดสอบภาษาอังกฤษ หรือการวัดระดับ TOEIC ของสายการบิน รวมถึงยังมีคอร์สที่แม้คนที่ไม่มีพื้นฐานก็สมัครเรียนได้

“ที่สำคัญบุคลากรผู้สอนล้วนมาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำกว่า 100 คน ทั้งยังเป็นสถาบันที่มีอาจารย์ผู้สอนจากทุกสายการบินทั่วโลก และทุกคอร์สที่เปิดสอนเป็นการเรียนแบบ unlimited ตลอดชีพ สมัครครั้งเดียวสามารถกลับมาเรียนได้ตลอด มีหนังสือเรียนเฉพาะของสถาบัน ผู้สนใจสามารถเลือกวัน-เวลาเรียนได้ตามความสะดวก มีระบบผ่อนชำระ มีคลาส intensive สำหรับทุกสายการบิน”

“ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมสิทธิพิเศษอื่น ๆ เช่น แพ็กเกจถ่ายรูปสมัครแอร์, สจ๊วต, มีคลินิกดูแลสุขภาพ-จัดฟัน, คลินิกความงามเพื่อดูแลผิวพรรณ, คลินิกเพิ่มความสูง, ส่วนลดแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำ และตลอดระยะเวลาที่เข้าเรียนกับสถาบัน ATDI ยังมีการบริการหลังการขาย รวมจำนวนพนักงานกว่า 30 คนที่พร้อมดูแลผู้เข้าเรียนแต่ละคน”

“ทุกปีจะมีทั้งลดค่าเรียน ซื้อ 1 คอร์ส แถม 1 คอร์ส และอื่น ๆ อีกมากมายตามที่ผู้เรียนสนใจ นอกจากหลักสูตรใหม่ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแล้ว ยังมีคอร์สพื้นฐาน 8 วิชาที่เราเน้นความเข้มข้นของหลักสูตรไว้อยู่แล้ว เช่น คอร์สภาษาอังกฤษ, คอร์สเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสัมภาษณ์แอร์โฮสเตส, สจ๊วต, คอร์ส TOEIC เป็นต้น”

“ซึ่งนักเรียนบางส่วนสามารถเลือกเรียนทั้งปี 8 คอร์ส ก็เหมือนกับการเตรียมความพร้อมไปเรื่อย ๆ จนกว่าสายการบินต่าง ๆ จะประกาศรับพนักงานเพิ่ม เรายังเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมการบินจะขยายตัวอย่างแน่นอนภายหลังจากการควบคุมโควิด-19ได้ผล”

“ขวัญเมษา” บอกอีกว่า สำหรับผู้ที่สนใจในอาชีพแอร์โฮสเตสและสจ๊วต แต่ไม่มั่นใจว่าจะทำได้หรือไม่นั้น ยังมี prescreen เพื่อประเมินคุณสมบัติรายบุคคลให้ฟรีจากผู้เชี่ยวชาญจากสายการบินโดยตรงในทุกด้าน ทั้งภาษา บุคลิกภาพ ไปจนถึงการประเมินน้ำหนักส่วนสูงตาม BMI

พร้อมทั้งแนะนำให้อีกว่าคุณสมบัติที่เหมาะสมควรจะสมัครเข้าทำงานกับสายการบินใด อีกทั้งยังทดลอง “สัมภาษณ์จริง” โดยเป็นการจำลองการสัมภาษณ์ 2 ภาษากับผู้เชี่ยวชาญโดยตรงจากสายการบิน เพื่อประเมินทักษะและนำมาปรับปรุงให้ตรงตามที่แต่ละสายการบินต้องการ

“สิ่งที่สถาบัน ATDI เตรียมดำเนินการในปี 2564 หลังจากที่เปิดสถาบัน ATDI มากว่า 15 ปีแล้วนั้น จนมีผู้สนใจเข้าเรียนจำนวนมาก อีกทั้งยังมีความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรกับหลากหลายสายการบินทั้งในเอเชียและทั่วโลก ล่าสุดบริษัทแม่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้อนุมัติให้สามารถขายแฟรนไชส์ในประเทศไทยได้ด้วย ตามแผนการดำเนินการจะขยายในรูปแบบแฟรนไชส์ประมาณ 4-5 สาขา เช่น สาขารังสิต, สาขาบางนา และในจังหวัดใหญ่ อย่างเช่น เชียงใหม่ เป็นต้น”

“สำหรับอัตราค่าแฟรนไชส์อยู่ที่ 5 ล้านบาท ซึ่งจะได้เรียนใน 2 หลักสูตรหลักของสถาบัน ATDI ประกอบด้วย หลักสูตรภาษาอังกฤษแบบครบวงจร และหลักสูตรพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินแบบครบวงจร โดยมีเงื่อนไขสำหรับแฟรนไชส์ คือ จะต้องเป็นการร่วมทุนระหว่างสถาบัน ATDI และผู้สนใจที่สัดส่วน 60 : 40″

“โดยสถาบัน ATDI ยังทำหน้าที่เป็น international consult หรือที่ปรึกษาในการดำเนินการแบบมืออาชีพ เพื่อกำกับดูแลพร้อมกับพัฒนาหลักสูตรใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างการระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ทำให้มองว่าพนักงานบริการบนเครื่องบินจะทำอย่างไร หากมีผู้โดยสารติดเชื้อโควิด-19 อยู่บนเครื่อง และมีอาการหนักจะต้องดูแลอย่างไร”

“ก่อนที่จะตัดสินใจขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ เราสำรวจความต้องการของตลาดโดยเฉพาะการสัมภาษณ์จากนักเรียนที่เรียนอยู่ในปัจจุบัน อย่างบางคนอยู่ต่างจังหวัดก็จะเข้ามาเรียนในช่วงวันหยุดเสาร์หรืออาทิตย์จึงมีแนวคิดที่จะขยายแฟรนไชส์ บางคนอาจจะมีเงินสมัครเข้าคอร์สแต่อาจจะไม่มีค่าเดินทาง โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากสถานการณ์โควิด-19 กลายเป็นว่าตลาดของ ATDI จะขยายตัวมากขึ้น”

อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่าอุตสาหกรรมการบินอาจต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวอยู่ที่ 2-3 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของโควิด-19 แต่ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ถ้าหยุดการระบาดได้เร็วเท่าไหร่ นั่นหมายถึงว่าจะฟื้นตัวได้เร็วขึ้นเท่านั้น

เพราะปัจจุบันการแพร่ระบาดของไวรัสได้กระจายในวงกว้างจนถึงระดับมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนด้านการบิน อย่างเช่น สถาบันการบินพลเรือนที่มีจำนวนนักเรียนลดลงกว่า 50% รวมไปจนถึงมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่ต้องงัดวิธีดึงดูดนักศึกษา เช่น เลือกเรียนวิชาหลักในช่วงขึ้นปี 2 เพื่อไม่ให้มีการย้ายสาขาเรียน และบางมหาวิทยาลัยก็ใช้วิธี “ลดค่าเรียน” ตามสภาวะของเศรษฐกิจ

ดังนั้น การเดินเกมขยายสาขาของสถาบัน ATDI ในปี 2564 จึงค่อนข้างท้าทายตลาดที่กำลังอยู่ในสถานะซบเซาอย่างหนัก