ครบรอบ 40 ปี เต็ดตร้า แพ้ค ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ผุดแคมเปญ “Go Nature. Go Carton.” มุ่งพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมยั่งยืน
เต็ดตรา แพ้ค ผู้นำเสนอโซลูชั่นการแปรรูปอาหารและบรรจุภัณฑ์อาหารชั้นนำ ฉลองครบรอบ 40 ปี การดำเนินธุรกิจในประเทศไทย นับตั้งแต่เริ่มดำเนินงานในฐานะบริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อปี พ.ศ. 2524 ซึ่งได้ร่วมส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมนมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังขยายขอบเขตงานให้ครอบคลุมถึงธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มอื่น ๆ ทำให้ในปัจจุบันมีลูกค้าที่ใช้โซลูชั่นการผลิต การแปรรูป และบรรจุภัณฑ์ของบริษัทนับร้อยราย
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
นายเบิร์ท ยาน โพสท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เต็ดตราแพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การครบรอบ 40 ปีครั้งนี้ เต็ดตรา แพ้ค ได้วางแผนการดำเนินงานครั้งสำคัญในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์อาหารที่มีความยั่งยืน ผ่านแนวทางการใช้ประโยชน์จากกระดาษให้คุ้มค่ามากที่สุด ร่วมกับลดปริมาณการใช้อลูมิเนียมและพลาสติก จึงได้ริเริ่มแคมเปญ “Go Nature. Go Carton.” ที่สื่อสารถึงจุดมุ่งหมายของบริษัท ในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากทรัพยากรทดแทนได้ที่มีการจัดการอย่างรับผิดชอบทั้งหมดหรือใช้วัสดุรีไซเคิล ซึ่งสามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ทุกส่วน ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิสู่ชั้นบรรยากาศ และตอบโจทย์การขนส่งจัดจำหน่ายแบบไม่ต้องแช่เย็น โดยเป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยทางอาหาร
“แผนการดำเนินงานระดับโลกนี้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นระยะยาวของบริษัทฯ ในการจัดทำโครงการด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย โดยเฉพาะกล่องเครื่องดื่มของเต็ดตรา แพ้ค ผลิตจากกระดาษประมาณ 70% ซึ่งเป็นวัสดุทดแทนที่ได้มาจากพืช โดยช่วงต้นปี พ.ศ. 2553 เต็ดตรา แพ้ค ได้เปิดตัวกล่องเครื่องดื่มที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน FSC™ (Forest Stewardship Council™) เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยฉลากเอฟเอสซีแสดงถึงการรับรองว่ากระดาษที่นำมาใช้ ได้มาจากป่าปลูกทดแทนที่มีการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน”
ปัจจุบัน เต็ดตร้า แพ้ค ประเทศไทย ได้ส่งมอบกล่องเครื่องดื่มที่ติดฉลากเอฟเอสซีไปแล้วมากกว่า 26,000 ล้านกล่อง โดยในปีนี้คาดหวังที่จะส่งมอบกล่องเครื่องดื่มได้มากกว่า 6 พันล้านกล่อง ซึ่งทั้ง 100% จะต้องใช้กระดาษที่มาจากป่าที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน FSC และจากแหล่งป่าปลูกอื่น ๆ ที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตามบริษัทได้เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการจัดการอย่างยั่งยืน ผ่านการส่งเสริมความร่วมมือกับสาธารณชนและองค์กรภาคเอกชนในการร่วมสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ประกาศครบรอบ 10 ปี โครงการหลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ซึ่งเป็นการรวบรวมและรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วนำไปผลิตเป็นแผ่นหลังคา
สำหรับก่อสร้างบ้านและที่พักพิงให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติและชุมชนที่ประสบความเดือดร้อนทั่วประเทศไทย อีกทั้ง เต็ดตรา แพ้ค ยังทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐในท้องถิ่น และองค์กรต่าง ๆ มาเป็นเวลาเกือบ 5 ปี ในโครงการกล่องยูเอชที รีไซเคิลได้ เพื่อรวบรวมกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วนำไปผลิตเป็นแผ่นกระดาษสำหรับพิมพ์ตัวอักษรเบรลล์มอบให้แก่โรงเรียนสอนคนตาบอด 13 แห่งในประเทศไทย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังร่วมมือกับพันธมิตรและสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร ตลอดจนโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการอีกมากกว่า 400 แห่ง ดำเนินโครงการรีไซเคิลกล่องนมโรงเรียน เพื่อรณรงค์คัดแยกและรวบรวมกล่องนมใช้แล้วจากโครงการนมโรงเรียนเพื่อนำไปรีไซเคิลต่อไป
“เราตระหนักดีว่าเป้าหมายที่ท้าทายของเราในการสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์อาหารที่ยั่งยืนที่สุดในโลกนั้น จะเกิดขึ้นได้ ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างจริงจังจากผู้ผลิตอาหาร ผู้บริโภค และทุกคนที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน เพราะมีเพียงการร่วมแรงร่วมใจเท่านั้น ที่จะทำให้เราสามารถสร้างอนาคตที่ยั่งยืนแก่ผู้คนและโลกใบนี้ได้ เราทราบดีว่านี่คือการเดินทางอันยาวไกล แต่เรายังมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในนวัตกรรมและพลังแห่งความร่วมมือร่วมใจของทุกๆ คน”