อัพเกรดสตรีทฟู้ดไทยด้วยนวัตกรรมรถเข็นรักษ์โลก สวทช.ออกแบบครัวเคลื่อนที่สะอาด อาหารมีคุณภาพ พร้อมนำร่องแจก 100 คัน เริ่มที่ถนนเส้นเยาวราช -ถนนข้าวหลาม ภายในปลายปีนี้ รับเปิดประเทศ ดึงนักท่องเที่ยว มูลค่าตลาดกว่า 270,000 ล้านบาทต่อปี
วันที่ 23 มีนาคม 2564 ผศ.ดร.ดวงฤทธ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการ และโฆษกกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตามที่สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้หาแนวทางยกระดับสตรีทฟู้ดไทย
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- BITE SIZE : ขึ้นค่าแรง 10 จังหวัด-ปรับเงินเดือนข้าราชการ เพิ่มขึ้นเท่าไร
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
โดยนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เข้ามาใช้ เพื่อให้สอดคล้องนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ให้เข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล พร้อมกับความร่วมมือจากกทม.และธนาคารออมสิน ภายในปลายปี 2564 นี้ จะมีการผลักดันโครงการพัฒนานวัตกรรมรถเข็นรักษ์โลกเพื่อสตรีทฟู้ด ซึ่งรถเข็นดังกล่าวจะมีความพิเศษคือ
1. รูปแบบสวยงาม
2. ถูกสุขอนามัย
3. เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม มีถังดักไขมันและบำบัดน้ำเสียใส่ไว้ในตัวรถเข็น เพื่อบำบัดก่อนทิ้งลงท่อระบายน้ำได้อีกด้วย สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มนำร่องในบริเวณถนนเยาวราชและถนนข้าวหลาม กทม.จะจัดระเบียบรถเข็นขายอาหารใหม่ ในส่วนนี้ สวทช. ออกค่าใช้จ่ายให้ 60% เป็นเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ส่วนผู้ค้าออกค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ 40% แต่ล่าสุดจากการเจรจากับธนาคารออมสินรับจะช่วยสนับสนุนออกค่าใช้จ่ายในส่วนผู้ค้าให้อีกด้วย
โดย สวทช.จะทำรถเข็นรูปแบบใหม่ 3 แบบ มอบให้เขตสัมพันธวงศ์ รวม 100 คัน นำไปจัดแบ่งให้ ผู้ค้าตามประเภทของอาหารที่ขาย ซึ่งในอนาคต รถเข็นรูปแบบใหม่ในเยาวราชจะกลายเป็นต้นแบบผู้ค้าอาหารที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับพื้นที่อื่นด้วย
“เรื่องกิน เป็นเรื่องสำคัญ ถ้ากินไม่ดีก็มีโอกาสเจ็บป่วย แต่ถ้ากินดี ซึ่งดีก็ไม่ได้หมายความถึงว่าราคาแพง การกินที่ถูกสุขลักษณะ จะช่วยลดทอนการใช้งบประมาณของภาครัฐ ซัพพอร์ยา การรักษาโรคต่างๆ ให้ลดลงได้อีก เพราะฉะนั้นจึงมองว่า เรื่องนี้น่าทำ” ผศ.ดร.ดวงฤทธ์ กล่าว
ผศ.ดร.ดวงฤทธ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สตรีทฟู้ดในประเทศ เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย และยังถือว่าเป็น Highlight ด้านวัฒนธรรม ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวได้อีกด้วย นอกจากนี้สตรีทฟู้ดยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญของผู้จำหน่ายอาหารในทุกระดับ ตั้งแต่หาบเร่ รถเข็น จนถึงที่เติบโตมีหน้าร้าน โดยในปัจจุบันมีสตรีทฟู้ดอยู่มากกว่า 103,000 ร้านทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่าตลาดสูงกว่า 270,000 ล้านบาทต่อปี และยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้นทุกปี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลายแล้ว คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยมากขึ้นด้วย
“คราวนี้สตรีทฟูดส์ก็จะปลอดภัย สะอาด ได้มาตรฐาน บนรถเข็นจะไม่ปล่อยของเสียลงบนท้องถนน เมื่อเป็นไปตามเป้าหมาย มันก็จะพากันไปทั้งระบบ และตามแผนจะทำทั้งเส้นถนนที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว หากทำแล้วได้รับการตอบรับที่ดี จะช่วยสร้างมูลค่าของการท่องเที่ยว รวมถึงการเพิ่มรายได้ให้ประชาชนกลุ่มนี้ แม้ว่าภาครัฐจะช่วยประชาชนในภาวะปัจจุบันไปหลายอย่าง ที่สำคัญเป็นการช่วยเหลือแบบยั่งยืน เพราะพ่อค้าแม่ค้า หาบเร่แผงลอย จะสามารถเดินหน้าต่อได้ทันที” ผศ.ดร.ดวงฤทธ์ กล่าวทิ้งท้าย