สินค้า “ร้านวันสุข” ฝีมือผู้ต้องขังบน “ลาซาด้า”

ร้านวันสุข

“ลาซาด้า” ร่วมกับ “กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม” เปิดร้าน “วันสุข” (WANSOOK) ด้วยการรวมสินค้าแฮนด์เมดที่ผลิตและสร้างสรรค์โดยผู้ต้องขังในเรือนจำ เพื่อมาขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของลาซาด้า ซึ่งนับเป็นการต่อยอดกิจกรรมส่งเสริมทักษะด้านอาชีพของกรมราชทัณฑ์ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น

“วีระพงศ์ โก” รองประธานอาวุโสฝ่ายอีคอมเมิร์ซ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า ลาซาด้า ประเทศไทยร่วมกับกรมราชทัณฑ์มอบโอกาสทางธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ โดยนำผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดที่ผู้ต้องขังผลิตขึ้นมาจำหน่ายบนแพลตฟอร์มของลาซาด้าในร้าน “วันสุข”

วีระพงศ์ โก
วีระพงศ์ โก รองประธานอาวุโสฝ่ายอีคอมเมิร์ซ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย)

ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสการขาย ทำให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงมากขึ้นและง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างกำลังใจและแรงบันดาลใจในการประกอบอาชีพ เมื่อพวกเขาพ้นโทษออกมาใช้ชีวิตในสังคม

“นอกจากเป็นการเพิ่มช่องทางขายแล้ว ยังทำให้ผู้ต้องขังมีโอกาสเรียนรู้การทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งต่อไปจะเป็นช่องทางการประกอบอาชีพที่สำคัญให้กับผู้ที่มีความประสงค์ทำการค้าขายหลังจากพวกเขาพ้นโทษ จนออกไปสู่สังคมภายนอก”

ความร่วมมือระหว่างลาซาด้ากับกรมราชทัณฑ์ครั้งนี้สอดคล้องกับโครงการ #Stronger Together #จากใจถึงใจสู้ไปด้วยกัน ที่ลาซาด้าดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2563 เพื่อสนับสนุนประเทศไทยในการก้าวข้ามความท้าทายทางเศรษฐกิจในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งลาซาด้ามีเป้าหมายสนับสนุนให้เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศเติบโตต่อไปได้

“ร้านวันสุขเริ่มเปิดบนแพลตฟอร์มลาซาด้ามาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 ด้วยการจำหน่ายสินค้าแฮนด์เมดกว่า 40 รายการ อาทิ ผลิตภัณฑ์จักสาน, เฟอร์นิเจอร์ไม้, กระเป๋าถือ, พวงกุญแจ, ผ้าทอ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีจากนักช็อปอย่างต่อเนื่อง”

โดยสินค้าขนาดเล็กประเภทกระเป๋าถือ, พวงกุญแจและเฟอร์นิเจอร์ไม้ขนาดเล็กเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากนักช็อปลาซาด้าเป็นพิเศษ ตรงนี้สะท้อนถึงศักยภาพในการต่อยอดสินค้าของกรมราชทัณฑ์ในหลากหลายประเภท ทั้งยังสร้างการเติบโตของยอดขายให้กับแบรนด์เพิ่มขึ้นกว่า 3,000% (หรือ 30 เท่า) โดยมีรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน ภายใน 4 เดือน

“รวมถึงมีผู้เข้าชมสื่อทางการตลาดออนไลน์มากกว่า 700,000 คน โดยกำไรสุทธิจากการจำหน่ายสินค้าทุกชิ้นจะถูกนำไปพัฒนาทักษะอาชีพให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำ รวมถึงยังเป็นเงินออมของผู้ต้องขังที่เข้าร่วมการฝึกอาชีพสำหรับเริ่มต้นชีวิตใหม่ภายหลังพ้นโทษ ทั้งนี้ ในส่วนแนวทางต่อไปจะขยายรายการสินค้าเพิ่มขึ้นในอนาคต จากแวร์เฮาส์ของกรมราชทัณฑ์ที่มีอยู่ทั่วประเทศ”

“สุทธิ สุธีวงศ์” รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ฝ่ายพัฒนา กระทรวงยุติธรรม กล่าวเสริมว่า กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม มีภารกิจหลักสำคัญ 2 ด้าน คือ การควบคุม และพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังราชทัณฑ์ทุกคน โดยภารกิจควบคุมถือเป็นภารกิจไม่ยาก เพราะเป็นความรับผิดชอบในการควบคุมไม่ให้ผู้ต้องขังหลบหนี แต่ภารกิจพัฒนาพฤตินิสัยเป็นการพัฒนาผู้ที่เข้ามาในเรือนจำแล้ว เมื่อกลับสู่สังคมจะต้องเป็นคนดี ถือเป็นภารกิจที่ยาก

สุทธิ สุธีวงศ์
สุทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ฝ่ายพัฒนา กระทรวงยุติธรรม

“เพราะแต่ละคนต่างมีที่มาที่ไปที่แตกต่างกัน ทั้งยังมีพื้นฐานความรู้ พื้นฐานสังคมแตกต่างกันออกไป แต่เมื่อเข้ามาอยู่รวมกันแล้วจะทำอย่างไรให้แต่ละคนกลับออกไปใช้ชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีคุณภาพ ตรงนี้จึงเป็นที่มาของโครงการฝึกวิชาชีพผู้ต้องขังในสาขาต่าง ๆ โดยมีวิทยากรเป็นผู้อบรมให้ เป็นทักษะติดตัว”

เรือนจำทุกแห่งในประเทศไทยมีการฝึกวิชาชีพ และมีการนำสินค้าออกมาขายทุกปีตามโอกาสต่าง ๆ เพียงแต่ยังไม่มีแบรนด์เพื่อวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างเป็นรูปธรรมมาก่อน แต่ช่วงหลังเริ่มขยายสู่ออนไลน์ สร้างช่องทางให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ซึ่งมีแวร์เฮาส์สินค้าอยู่ทั่วประเทศ คาดว่าจะสามารถขยายปริมาณสินค้าบนแพลตฟอร์มได้อย่างดี

“อย่างไรก็ดี แม้ผู้ต้องขังจะเคยผิดพลาดมาก่อน แต่เมื่อตั้งใจปรับปรุงพัฒนาตนจนพ้นโทษก็สมควรได้รับโอกาสใหม่อีกครั้ง กระทรวงยุติธรรมเล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ต้องขังในเรือนจำให้สามารถพึ่งพาตนเองทางการเงิน เพื่อให้สามารถปรับตัวเข้าสู่สังคมได้อีกครั้ง ทั้งยังช่วยลดแนวโน้มการกระทำผิดซ้ำ”

“ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยขยายช่องทางการจำหน่ายให้กับผู้ต้องขังได้ ซึ่งจะเป็นการช่วยเตรียมความพร้อมให้กับผู้ต้องขังในการพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นภายหลังพ้นโทษ และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป”