ประกันสังคม อัดเม็ดเงิน 3 หมื่นล้าน อุ้มธุรกิจ จ้างงาน

สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เร่งอัดเม็ดเงิน 3 หมื่นล้านบาท เสริมสภาพคล่องการจ้างงานในสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19

วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มีมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19 ให้สามารถรักษาการจ้างงาน ให้ผู้ประกันตนมีงานทำต่อเนื่องและอยู่ในระบบประกันสังคม โดยขณะนี้ กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคมได้มีโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน ระยะที่ 2 (พ.ศ.2563 – 2564) ในวงเงินไม่เกิน 30,000 ล้านบาท

เพื่อให้สถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม สามารถขอสินเชื่อ กับธนาคารที่เข้าร่วมโครงการกู้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการเสริมสภาพคล่องสถานประกอบการ และเพิ่มผลผลิตแรงงาน ทั้งนี้ สถานประกอบการสามารถขอรับสินเชื่อได้ไม่เกิน 15 ล้านบาท ต่อสถานประกอบการ

ทศพล กฤตวงศ์วิมาน
ทศพล กฤตวงศ์วิมาน

สำหรับระยะที่ 2 นี้ สถานประกอบการที่เคยเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานระยะที่ 1 ระหว่างปี พ.ศ.2561- 2563 มาแล้ว หากประสงค์จะยื่นขอสินเชื่อเพิ่มจากธนาคารเดิม วงเงินที่เคยได้รับสินเชื่อ เมื่อรวมกับวงเงินสินเชื่อตามโครงการนี้ต้องไม่เกิน 15 ล้านบาท ต่อสถานประกอบการ โดยอายุสินเชื่อตามโครงการนี้มีระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี

ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในระยะ 2 นั้น สถานประกอบการที่สนใจกู้ และมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยลดลงอยู่ที่ร้อยละ 2.75 ต่อปี คงที่ 3 ปี และในกรณีสถานประกอบการที่สนใจกู้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือใช้บุคคลค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 4.75 ต่อปี และคงที่ 3 ปี

สำหรับข้อกำหนดของสถานประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการต้องขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมและจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน และต้องรักษาจำนวนผู้ประกันตนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจำนวนผู้ประกันตน ณ วันที่ได้รับสินเชื่อตลอดอายุโครงการ 3 ปี ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบให้มีการเลิกจ้างลูกจ้างในสถานประกอบการ

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อว่า ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดต่อเข้าร่วมโครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-12 และสำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขา เพื่อขอหนังสือรับรองสถานะความเป็นสถานประกอบการนำไปติดต่อขอยื่นกู้ กับธนาคารที่เข้าร่วมโครงการฯ ปัจจุบันได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารเพื่อการส่งออก และนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถพิมพ์หนังสือรับรองสถานะความเป็นสถานประกอบการในระบบ e-service ผ่านเว็บไซต์ www.sso.go.th/eservices/esv/index.jsp และเลือกหัวข้อ “ขอหนังสือรับรอง (โครงการสินเชื่อฯ)” หรือสแกน QR code ซึ่งผู้ประกอบการสามารถติดต่อยื่นคำขอสินเชื่อที่ธนาคารได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564

อย่างไรก็ตาม โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงานเป็นโครงการฯ ที่ดำเนินงานตามระเบียบคณะกรรมการประกันสังคม ว่าด้วยการจัดหาผลประโยชน์ของกองทุนประกันสังคม พ.ศ.2559 ที่สามารถนำเม็ดเงินไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินกองทุนประกันสังคมมาลงทุน ทางสังคม เพื่อประโยชน์ทางอ้อมแก่นายจ้าง และผู้ประกันตนได้นอกจากจะช่วยเป็นทุนหมุนเวียน และเสริมสร้างสภาพคล่องในสถานประกอบการรักษาสภาพการจ้างงานแล้ว ยังทำให้เกิดทุนหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ และพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอีกด้วย