กรมวิทย์ฯ เผยห้องปฏิบัติการไทย พร้อมตรวจภาวะหลอดเลือดอุดตันภายหลังฉีดวัคซีน

ฉีดวัคซีน 3

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผย มีห้องปฏิบัติการไทยกว่า 79 แห่ง พร้อมตรวจภาวะหลอดเลือดอุดตันภายหลังการฉีดวัคซีนโควิด

วันที่ 2 มิถุนายน 2564 นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากที่มีข่าวการเกิดหลอดเลือดอุดตัน (ภาวะ VITT) หลังการได้รับวัคซีนโควิด-19 ในต่างประเทศเผยแพร่ตามสื่อต่าง ๆ อาจทำให้ประชาชนรู้สึกวิตกกังวลไม่กล้าฉีดวัคซีนนั้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ขอให้ข้อมูลในเรื่องนี้ว่า ภาวะ VITT หรือที่มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Vaccine-induced immune thrombotic thrombocytopenia เป็นภาวะเกล็ดเลือดต่ำที่มีอาการหลอดเลือดอุดตันร่วมด้วย เกิดภายหลังได้รับวัคซีน

โดยเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19 ชนิด Viral vector vaccine เช่น แอสตร้าเซนเนก้า และ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน แม้จะเป็นภาวะที่อาจเกิดอาการรุนแรง แต่อุบัติการณ์การเกิดภาวะไม่พึงประสงค์จากวัคซีนดังกล่าวคาดการณ์ว่าน่าจะต่ำมาก คือ อยู่ระหว่าง 1 : 125,000-1 : 1,000,000 โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอายุต่ำกว่า 60 ปี และส่วนมากเป็นเพศหญิง ผู้ป่วยจะแสดงอาการหลังได้รับวัคซีนประมาณ 4-30 วัน

นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์

โดยจะมีอาการบ่งชี้ว่าอาจมีหลอดเลือดอุดตัน เช่น ปวดศีรษะรุนแรง ปวดท้องไม่ทราบสาเหตุหรือปวดหลังรุนแรง ขาบวม เหนื่อยหอบ แน่นหน้าอก เป็นต้น โดยจะพบร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ

นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากผู้ได้รับวัคซีนคนใดมีอาการบ่งชี้ว่าอาจมีหลอดเลือดอุดตัน หลังได้รับวัคซีนภายใน 30 วัน ให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที และหากแพทย์ตรวจพบว่ามีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ร่วมกับค่า D-dimer ที่ผิดปกติในผู้ป่วยหลอดเลือดอุดตันจะพิจารณาให้การรักษาผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว

ซึ่งปัจจุบันมีห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลของรัฐ และเอกชนอย่างน้อย 79 แห่ง ทั่วประเทศที่มีความพร้อมในการตรวจวินิจฉัย โดยแพทย์จะส่งตัวอย่างเลือดเพื่อยืนยันอีกครั้งด้วยวิธีที่เรียกว่า Anti PF4/heparin antibody และ Platelet activation assay ตามแนวทางของสมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย ทั้งหมดนี้อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ในระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลและเชิญชวนให้ทุกคนไปรับการฉีดวัคซีนตามที่ได้นัดหมายไว้