“ทาทา สตีล” จัดมุมหนังสือ เพื่อเยาวชนรู้เท่าทันเทคโนโลยี

เด็กเป็นวัยที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ ดังนั้น การเตรียมความพร้อมให้กับพวกเขา จะนำพาประเทศชาติไปสู่ความก้าวหน้าอย่างมั่นคง จึงควรดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ตระหนักดีว่าห้องสมุดคือแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญในการสร้างปัญญาให้โอกาส และความก้าวหน้าแก่เด็กให้ก้าวทันเทคโนโลยี ทั้งยังปรับตัวได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ ด้าน

จึงทำโครงการ “เสริมปัญญา กับ ทาทา สตีล” โครงการมอบชั้นวางหนังสือ และสื่อการเรียนรู้ประเภทต่าง ๆ ให้แก่โรงเรียนตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา

“ศิโรโรตม์ เมธมโนศักดิ์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่-ทรัพยากรบุคคลและบริหาร บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าบริษัทมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยหลักของการเป็นบรรษัทพลเมืองที่ดี บนพื้นฐานของการมีความสำนึก และตระหนักถึงหน้าที่ และความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคม และประเทศชาติ จึงได้กำหนดแนวทางการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม

โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ 1.กิจกรรมเพื่อสนับสนุนชุมชนรอบโรงงานของบริษัท 2.การสนับสนุนการศึกษาของเด็กและเยาวชนในโรงเรียนที่อยู่ในท้องถิ่นห่างไกล 3.การสนับสนุนองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร 4.กิจกรรมเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

“เรามีความเชื่อมั่นว่าการศึกษาสามารถเปลี่ยนชีวิตเด็ก และเยาวชนให้เป็นพลังสำคัญ ในการพัฒนาประเทศ และเสริมสร้างความมั่นคงของชาติในอนาคต แต่ประเทศไทยยังมีโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาด้านการศึกษาอีกจำนวนไม่น้อย โครงการมุมหนังสือเสริมปัญญา กับ ทาทา สตีล จึงเป็นการขยายโอกาสทางการเรียนรู้ให้เด็กและเยาวชนที่อยู่ในท้องถิ่นห่างไกล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่พันธกิจหลักเพื่อชุมชนและสังคม”

ทั้งนั้น บริษัทจะจัดทำมุมหนังสือในห้องสมุดโรงเรียนพร้อมมอบหนังสือ และสื่อการเรียนรู้ให้แก่โรงเรียน เริ่มต้นที่โรงเรียนในชุมชนรอบโรงงาน แล้วขยายไปยังโรงเรียนอื่น ๆ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยกำหนดเป้าหมายที่จะมอบมุมหนังสือจำนวนรวม 400 โรงเรียน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมอบมุมหนังสือไปแล้วกว่า 248 โรงเรียน ใน 52 จังหวัด

“ศิโรโรตม์” กล่าวต่อว่า มุมหนังสือเสริมปัญญา กับ ทาทา สตีล มีพื้นที่ 20 ตารางเมตร ประกอบด้วยชั้นวางหนังสือสำเร็จรูป พร้อมหนังสือ 200 เล่ม ใน 7 กลุ่มสาระการเรียนรู้ อาทิ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สุขศึกษา พลศึกษา การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ นอกจากนั้น ยังมีการทาสีตกแต่งผนัง เพื่อสร้างบรรยากาศให้เด็ก ๆ รู้สึกสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับการอ่านหนังสือ และเข้ามาใช้บริการมุมหนังสืออย่างต่อเนื่อง

“รวมถึงมีบอร์ดกิจกรรมตอบปัญหาประจำสัปดาห์หรือกิจกรรมกระตุ้นการอ่าน โดยบริษัทจะส่งของรางวัลให้แก่นักเรียนที่ร่วมกิจกรรม และนักเรียนที่ยืมหนังสือในมุมหนังสือของ ทาทา สตีล เป็นประจำ เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนไทยรู้จักคิด วิเคราะห์ กล้าคิด กล้าตอบ รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และที่สำคัญคือรู้จักกระบวนการค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการจะต้องส่งรายงานการใช้ห้องสมุดให้กับบริษัททุกเดือน เพื่อนำมาวิเคราะห์หาแนวทางการจัดหาหนังสือให้เหมาะสมและปรับปรุงมุมหนังสือให้มีคุณภาพมากขึ้น”

นอกจากนั้น ยังให้การสนับสนุนในส่วนของการบริหารห้องสมุดให้มีประสิทธิภาพ โดยการจัดทำแนวทางการบริหารห้องสมุดเพื่อมอบให้กับทุกโรงเรียนที่ได้รับความช่วยเหลือตามโครงการ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลการจัดหมวดหมู่หนังสือ และการกำหนดรหัสหนังสือ การเก็บสถิติผู้ใช้บริการห้องสมุด การกำหนดระบบยืมและคืนหนังสือ และการจัดทำโครงการส่งเสริมการอ่าน อีกทั้งบริษัทยังมีแผนงานออกเยี่ยมเยียนโรงเรียนที่บริษัทได้ให้การสนับสนุน รวมถึงการจัดหาหนังสือใหม่ ๆ เพิ่มเติมให้กับทุกโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอตามความเหมาะสม

“สุชา บุญเพิ่ม” ครูโรงเรียนบ้านต้นไทร จ.พัทลุง หนึ่งในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ เล่าถึงความเปลี่ยนแปลงหลังจากได้รับมอบมุมหนังสือของทาทา สตีล ว่า ก่อนหน้านี้โรงเรียนมีห้องสมุดอยู่แล้ว แต่เนื่องจากเป็นโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล หนังสือที่มีอยู่จึงไม่เหมาะสมกับวัย ทำให้เด็ก ๆ ไม่ค่อยอยากเข้ามาใช้บริการห้องสมุด กิจกรรมช่วงพักกลางวัน หรือหลังเลิกเรียนส่วนใหญ่ จึงเป็นการวิ่งเล่น หรือเล่นกีฬาตามประสาเด็กต่างจังหวัด

“หลังจากที่โรงเรียนมีมุมหนังสือสวย ๆ เด็กนักเรียนของเรามีพฤติกรรมเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเจน มีการเข้าใช้บริการห้องสมุดมากขึ้น ทั้งการอ่านในเวลาและการยืมหนังสือกลับบ้าน นักเรียนรุ่นพี่ก็ได้เข้ามาช่วยบริหารจัดการเป็นบรรณารักษ์รุ่นเยาว์ รู้จักการจัดประเภทหนังสือตามหมวดหมู่ และดูแลรักษาหนังสือราวกับว่าหนังสือเล่มนั้นมีชีวิต”


โครงการสร้างมุมหนังสือ เสริมปัญญา กับ ทาทา สตีล จึงเป็นพลังเล็ก ๆ ในการผลักดันให้เกิดพื้นที่แห่งการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์และยั่งยืนเพื่อเยาวชนไทย และเป็นรากฐานในการยกระดับคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ในประเทศให้พร้อมกับนโยบาย Thailand 4.0