เนสเพรสโซ จากไร่กาแฟยั่งยืนสู่แก้วผู้บริโภค หนุนรีไซเคิลแคปซูลลดขยะ

เนสเพรสโซ ธุรกิจเพื่อโลกอนาคต ส่งเสริมไร่กาแฟยั่งยืนสู่แก้วผู้บริโภค หนุนการรีไซเคิลแคปซูล สร้างมูลค่าเพิ่มให้ขยะ ช่วยลดโลกร้อน

ช่วงทศวรรษที่ผ่านมาหลายประเทศทั่วโลกเผชิญกับวิกฤตภาวะโลกร้อน อันเกิดมาจากความเสื่อมโทรมของธรรมชาติและการขาดสมดุลของระบบนิเวศ และมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบเป็นห่วงโซ่ สู่ความเป็นอยู่ในอนาคตของคนรุ่นหลัง

ดังนั้น แนวความคิดเรื่องความยั่งยืนจึงถูกยกให้เป็นประเด็นสำคัญที่สหประชาชาติ (United Nations) ส่งเสริมให้มวลมนุษยชาติ และภาคธุรกิจทุกส่วน ต้องหันมาทบทวนทิศทางการพัฒนาโลกยุคใหม่ เพื่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืนของคนรุ่นต่อไป

ดังเช่นภาคธุรกิจกาแฟที่เติบโตต่อเนื่อง เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 (COVID-19) ที่ทำให้เกิดการล็อกดาวน์ เป็นปัจจัยบวกให้กับตลาดกาแฟเติบโต

ในฐานะ “เนสเพรสโซ (Nespresso)” เป็นหนึ่งในผู้นำด้านกาแฟแคปซูลและเครื่องชงกาแฟชนิดแคปซูลพรีเมี่ยม และดำเนินธุรกิจใน 82 ประเทศทั่วโลก จึงเห็นความสำคัญของการสร้างระบบธุรกิจกาแฟให้เติบโตอย่างยั่งยืน

เพราะบริษัทเชื่อว่า กาแฟที่ดีที่สุดไม่ได้หมายถึงเพียงคุณภาพหรือรสชาติกาแฟที่ดีเยี่ยม แต่กาแฟทุกเมล็ดจะต้องช่วยสร้างความเป็นอยู่ที่ดีแก่สังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรชาวไร่กาแฟทั่วโลกที่บริษัททำงานด้วย

เกษตรกรรมไร่กาแฟยั่งยืน

เนสเพรสโซเดินหน้าสร้างความยั่งยืนด้วยการทำงานร่วมกับชาวไร่กาแฟกว่า 110,000 คน จาก 15 ประเทศ ในโครงการ AAA Sustainable Quality™ เพื่อสร้างแนวปฏิบัติทางการเกษตรกรรมที่ยั่งยืนบนไร่กาแฟ และพื้นที่เพาะปลูกโดยรอบ

ไปจนถึงการสานต่อความยั่งยืนทางธรรมชาติด้วยการผลักดันโครงการ “รีไซเคิลแคปซูลอะลูมิเนียม” รีไซเคิลแคปซูลกาแฟที่ใช้แล้วเป็นปากกาและจักรยาน

รวมถึงร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์การไม่แสวงผลกำไร (NGO) โดยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ปลูกต้นไม้บริเวณไร่กาแฟและพื้นที่โดยรอบให้มากขึ้น เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ (net zero) รวมถึงการสร้างสมดุลระหว่างกิจกรรมของมนุษย์และธรรมชาติ

“แอนนา ลุนด์ดรอม” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตราสินค้า (Chief Brand Officer) ของเนสเพรสโซ กล่าวว่า ความใส่ใจในทรัพยากรมนุษย์และสิ่งแวดล้อมเป็นหัวใจสำคัญที่หล่อเลี้ยงองค์กรของเรา และเป็นหลักปรัชญาที่เรายึดมั่นในการดำเนินธุรกิจเสมอมา

“เราไม่เพียงแต่จะมุ่งมั่นในการส่งมอบประสบการณ์การดื่มกาแฟที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า แต่ยังคำนึงถึงการปกป้องโลกและทรัพยากร ธรรมชาติผ่านการดูแลเอาใสใจในทรัพยากรมนุษย์และใช้ความคิดสร้างสรรค์ในทำงาน แนวทางในการทำงานเช่นนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เนสเพรสโซสามารถที่จะสร้างสรรค์กาแฟคุณภาพเยี่ยมควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าที่ดีให้แก่โลกใบนี้ได้”

รีไซเคิลแคปซูล ลดปล่อยคาร์บอน

ไม่นานนี้บริษัทได้ประกาศเป้าหมายจัดระบบการผลิตให้ปลอดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในทุกขั้นตอน ตั้งเป้าว่าภายในปี 2565 กาแฟทุก ๆ แก้วของเนสเพรสโซจะไม่มีส่วนในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หลงเหลืออยู่ นอกจากนั้นยังกำหนดให้แคปซูลกาแฟผลิตจากอะลูมิเนียมรีไซเคิลให้ได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ภายในสิ้นปี 2564

ด้าน “เนสเพรสโซ ประเทศไทย” ได้สานต่อพันธสัญญาแห่งความยั่งยืน โดยในปีที่ผ่านมาได้ริเริ่มนำแคปซูลกาแฟที่ผลิตจากอะลูมิเนียมรีไซเคิลมาจำหน่าย และผลักดันให้ลูกค้าได้ร่วมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยการรณรงค์ให้ส่งคืนแคปซูลกาแฟใช้แล้วเพื่อนำไปรีไซเคิลต่อ

และยังได้ผลิตชุดปลูกผักออร์แกนิก (Nespresso Grow Kit) ที่ทำจากกากกาแฟของเนสเพรสโซแจกให้กับลูกค้าที่ส่งคืนแคปซูลกาแฟใช้แล้ว เพื่อนำกากกาแฟมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และลดขยะให้กับสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบัน เนสเพรสโซ ได้เปิดช่องทางต่าง ๆ ให้ผู้บริโภคกว่า 90 เปอร์เซ็นต์สามารถนำแคปซูลที่ใช้แล้วมารีไซเคิลได้หลากหลายวิธี โดยมีจุดรับแคปซูลที่ใช้แล้วถึง 100,000 แห่งทั่วโลก รวมบูติกเนสเพรสโซ ศูนย์วัสดุรีไซเคิล หรือสามารถส่งคืนผ่านบริการการรับสินค้าจากบ้าน

โดยในประเทศไทยมีจุดรับคืนกาแฟแคปซูลสำหรับรีไซเคิลกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ ลูกค้าสามารถนำกาแฟแคปซูลที่ใช้แล้วมาส่งคืนได้ที่บูติกเนสเพรสโซทุกสาขา และจุดขายสินค้าของเนสเพรสโซตามห้างสรรพสินค้าทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด หรือสามารถส่งคืนผ่านบริการการรับส่งสินค้าถึงบ้านได้ด้วยเช่นกัน

สามารถตรวจสอบจุดรับแคปซูลใช้แล้วใกล้บ้านได้ที่ www.nespresso.com/th/th/howtorecyclecoffeecapsules 

สร้างความตระหนักผ่านงานพรมแดง

ล่าสุดเนสเพรสโซขับเคลื่อนแนวความคิดความยั่งยืน ผ่านพรมแดงงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ โดยจับมือ “จามบัตติสตา วัลลี” (Giambattista Valli) แฟชั่นดีไซเนอร์โอต์ กูตูร์ชาวอิตาเลียน ร่วมสร้างสรรค์ชุดราตรีรักษ์โลก ที่ตัดเย็บพิเศษเป็นชุดราตรีสีเขียวมะนาวใช้ผ้าไหมชีฟอง และประดับด้วยแคปซูลกาแฟอะลูมิเนียมรีไซเคิลของเนสเพรสโซ

นำเสนอผ่าน “เคียร่า เฟอร์รังงี” (Chiara Ferragni) แฟชั่นไอคอนชาวอิตาเลียนชื่อดัง ที่เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่รักษ์สิ่งแวดล้อม ใช้สวมใส่ในงานพรมแดงเมืองคานส์ เมื่อต้นเดือน ก.ค. 2564

ถือเป็นมิติใหม่แห่งการปลุกเจตนารมณ์ความยั่งยืนผ่านการผสานศาสตร์แห่งศิลปะ แฟชั่น กาแฟ และสิ่งแวดล้อม เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของเนสเพรสโซที่มุ่งทำธุรกิจกาแฟบนเส้นทางแห่งความยั่งยืนมาโดยตลอด

เนสเพรสโซเชื่อว่าการดูแลโลกเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกภาคส่วน จึงมุ่งร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงให้โลกต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่มีความหมายและยั่งยืนให้กับโลกอนาคตของคนรุ่นต่อไป