“KFC” ส่งต่อความสุข อาหารอิ่มท้อง-อาชีพยั่งยืน

อาหารที่พอเพียงช่วยให้อิ่มท้อง แต่อาหารที่ถูกสุขอนามัย และมีคุณค่าทางโภชนาการจะช่วยเสริมส่งให้ผู้บริโภคเกิดประโยชน์กับร่างกาย จนทำให้มีพัฒนาการไปตามวัย ซึ่ง “เคเอฟซี” หนึ่งในผู้ผลิตอาหารบริการด่วนที่ดำเนินธุรกิจมานานตั้งแต่ปี 2495 เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาทุพโภชนาการของประชากรโลกเป็นอย่างดี จึงดำเนินการกิจกรรมซีเอสอาร์ในด้านการลดความหิวโหย ผ่านโครงการ “เคเอฟซีครัวมาตรฐาน และเกษตรอาหารกลางวันยั่งยืน”

“ณิชารัศมิ์ อาชญาสิทธิวัตร” ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดส่วนบริหารแบรนด์ และการสื่อสารการตลาด เคเอฟซี ประเทศไทย กล่าวว่า เป็นปีที่ 4 ที่ทางเคเอฟซีดำเนินโครงการ “เคเอฟซีครัวมาตรฐานและเกษตรอาหารกลางวันยั่งยืน” โดยร่วมกับมูลนิธิศุภนิมิตฯ ในการลดปัญหาด้านการขาดแคลนอาหาร ลดความหิวโหย

“โดยเน้นช่วงวัยเด็ก เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้องการอาหารเพื่อใช้ในการเจริญเติบโตของร่างกาย และสมอง ผ่านกล่องรับบริจาคครัวเคเอฟซีเพื่อชุมชน ที่ตั้งอยู่ในร้านเคเอฟซีทุกสาขา โดยนำมาใช้สนับสนุนอาหารกลางวันนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล อาทิ เลี้ยงไก่ไข่, การปลูกผัก, การเพาะเห็ด ตั้งเป้าส่งเสริมการเลี้ยงไก่ไข่ของโรงเรียนไว้ที่ปีละ 5 แห่ง คาดว่าภายในปี 2560 จะมีโรงเรียนได้รับการสนับสนุนทั้งสิ้น 20 แห่ง โดยตั้ง KPI คือนักเรียนจะต้องได้กินไข่สัปดาห์ละ 3 วัน”

“ปีนี้เรามีดูแลเพิ่มเติมในส่วนของกระบวนการประกอบอาหาร เนื่องจากการลงพื้นที่ยังโรงเรียนต่าง ๆ ทำให้พบว่ามีปัญหาสุขอนามัยในขั้นกระบวนการประกอบอาหาร ซึ่งอาจจะส่งผลต่อสุขภาพ โรคภัย ทางเคเอฟซีจึงจัดสรรเงินบริจาคจำนวน 2.5 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโรงอาหารให้แก่ 5 โรงเรียน ได้แก่ ร.ร.บ้านแม่หลุย จ.แม่ฮ่องสอน, ร.ร.บ้านไร่ป้า จ.กาญจนบุรี, ร.ร.บ้านป่าไม้สหกรณ์ จ.บุรีรัมย์, ร.ร.บ้านจานบัว จ.ศรีสะเกษ และ ร.ร.บ้านแม่ตะมาน จ.เชียงใหม่ พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้การจัดทำครัวที่ได้มาตรฐาน เช่น การล้างมือก่อนเตรียมอาหาร, การแยกประเภทอาหารในการจัดเก็บ และรูปแบบอาคารโปร่งหมุนเวียนได้ดี”

ที่สำคัญ เคเอฟซี ประเทศไทยยังนำส่งไก่ทอด ซึ่งเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง มอบให้แก่มูลนิธิต่าง ๆ ทุกเดือน เพื่อลดภาวะขาดแคลนอาหารโปรตีน และเพื่อลดค่าใช้จ่ายของมูลนิธิ โดยตั้งเป้า 4 มูลนิธิก่อนภายในปี 2560 ขณะนี้เริ่มไปแล้ว 2 แห่ง คือ บ้านราชาวดี จ.ปทุมธานี และสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งบ้านเมตตา จ.นครราชสีมา และครอบคลุมทุกภูมิภาคในปี 2561

“มนต์สวรรค์ มุกข์มงคลคำ” ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแม่ตะมาน จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า โรงเรียนบ้านแม่ตะมาน เป็นโรงเรียนขยายโอกาสขนาดกลาง ก่อตั้งเมื่อปี 2482 รองรับนักเรียนในพื้นที่ ต.บ้านแม่ตะมาน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ในเขตบริการรวม 6 หมู่บ้าน มี 8 ชาติพันธุ์ อาทิ ไทยใหญ่, กะเหรี่ยง, ม้ง, ปกากะญอ และเย้า ปัจจุบันมีนักเรียนรวม 210 คน ตั้งแต่ระดับอนุบาล-มัธยมศึกษาปีที่ 3

“เนื่องจากภูมิประเทศค่อนข้างทุรกันดาร มีฐานะยากจน จึงได้รับเงินอุดหนุนสำหรับอาหารกลางวันแก่นักเรียน อัตรา 20 บาท/คนเท่านั้น อีกทั้งนักเรียนบางส่วนไม่เข้าเกณฑ์ แม้จะได้รับเงินอุดหนุนจากหน่วยงานส่วนท้องถิ่น ขณะที่ทางบ้านก็ไม่มีกำลังเพียงพอ จนทำให้นักเรียนมีปัญหาทุพโภชนาการอยู่ประมาณ 10% ของนักเรียนทั้งหมด”

“ทางโรงเรียนจึงพยายามส่งเสริมกิจกรรมเกษตรอาหารกลางวัน เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้รับประทานอาหารที่มีคุณค่า เหมาะสมตามวัย เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย และสมอง รวมไปถึงส่งเสริมด้านความรู้เกี่ยวกับอาชีพ เนื่องจากนักเรียนบางส่วนเมื่อเรียนจบออกไปจะกลายเป็นแรงงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งบ่อยครั้งที่ต้องโยกย้ายไม่เป็นที่เมื่อหมดฤดูการท่องเที่ยว การมีวิชาชีพติดตัวจึงน่าจะช่วยให้เขานำไปประกอบอาชีพที่มั่นคงต่อไปได้”

ดังนั้น “โครงการเคเอฟซีครัวมาตรฐาน และเกษตรอาหารกลางวันยั่งยืน” จึงไม่เพียงช่วยให้นักเรียนอิ่มท้องหากยังช่วยสร้างอาชีพติดตัวให้เขานำไปเลี้ยงครอบครัวต่อไปได้ นับว่าเป็นการหยิบยื่นโอกาสที่ยั่งยืนอีกโครงการหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว