เช็กสิทธิ ม.40 กลุ่มจ่ายสมทบผ่านตู้บุญเติม รับเยียวยา 5,000 บาท

ประกันสังคม ม.33

ผู้ที่สมัคร ม.40 โดยจ่ายเงินสมทบงวดแรกผ่านตู้บุญเติม จากนั้นระบบเช็กสิทธิแสดงสถานะเป็น “ไม่ได้รับสิทธิ” อย่าตกใจ สำนักงานประกันสังคมได้แก้ไขปัญหาแล้ว

วันที่ 23 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวลัดดา แซ่ลี้ โฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ชี้แจงกรณีแรงงานอิสระที่สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 เพิ่มเพื่อรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ตามวันที่กำหนด แบ่งเป็น 1.กลุ่มสมัครภายใน 31 กรกฎาคม 2564 และจ่ายเงินสมทบงวดแรกภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด​ (สีแดงเข้ม) 10 จังหวัด และ 3 จังหวัด

และ 2. กลุ่มสมัครและจ่ายเงินสมทบงวดแรกวันที่ 4-24 สิงหาคม 2564 ในพื้นที่สีแดงเข้ม 3 จังหวัด และ 16 จังหวัด ที่ใช้วิธีจ่ายเงินสมทบงวดแรกผ่านตู้บุญเติม แต่ระบบเช็คสิทธิได้เปลี่ยนจาก “ได้รับสิทธิ” เป็น “ไม่ได้รับสิทธิ”

นางสาวลัดดาอธิบายว่า ตู้บุญเติมที่ตั้งอยู่ทั่วประเทศมีรหัสพื้นที่ขึ้นต้นดัวย 10 ทั้งหมด ซึ่งเป็นรหัสของพื้นที่ กทม. ดังนั้นทำให้เกิดปัญหาการระบุเขตพื้นที่ที่ชำระเงินตามจริง เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ที่จ่ายเงินสมทบเข้ามาอยู่พื้นที่จังหวัดไหน

“ดังนั้น เราจึงต้องเปลี่ยนการแสดงสถานะระบบเช็กสิทธิของผู้ที่จ่ายเงินผ่านตู้บุญเติม บนเว็บไซต์ของประกันสังคม โดยแสดงสถานะเป็นไม่ได้รับสิทธิชั่วคราว เพื่อทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ ซึ่งเราได้ให้ผู้ให้บริการตู้บุญเติมทำการจำแนกพื้นที่การจ่ายเงินตามจริง และได้ผลออกมาแล้วเมื่อวานนี้”

ผู้ที่ทำการจ่ายเงินเพื่อสมัครมาตรา 40 ผ่านตู้บุญเติมมีทั้งหมดประมาณ 2 ล้านคน มีจำนวนผู้สมัครที่จ่ายเงินในพื้นที่ 29 จังหวัดสีแดงเข้มตามกำหนดจำนวนประมาณ 1.9 ล้านคน ส่วนจำนวนผู้ที่จ่ายนอกพื้นที่มีประมาณ 4,000 คนเท่านั้น

นางสาวลัดดาบอกว่า ผู้ประกันตนกลุ่มนี้จะสามารถเช็กสิทธิทางเว็บไซต์ของประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th/eform_news ประมาณสัปดาห์หน้า

“ขอให้ผูกพร้อมเพย์บัญชีธนาคารกับหมายเลขบัตรประชาชนเอาไว้ และทำการตรวจสอบด้วยว่าบัญชีธนาคารยังมีสถานะเปิดอยู่หรือไม่ (active) หากบัญชีปิด ขอให้ทำการเปิดบัญชี และผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชนให้เรียบร้อย ซึ่งทางสำนักงานประกันสังคมจะทำการโอนเงินเยียวยาให้โดยเร็วที่สุด”

ทั้งนี้ กลุ่ม 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา อยู่ในพื้นที่ล็อกดาวน์ 2 เดือน จึงได้รับเงินเยียวยา 2 รอบ รอบละ 5,000 บาท รวมเป็น 10,000 บาท

กลุ่ม 3 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา อยู่ในพื้นที่ล็อกดาวน์ 2 เดือน จึงได้รับเงินเยียวยา 2 รอบ รอบละ 5,000 บาท รวมเป็น 10,000 บาท

กลุ่ม 16 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา ระยอง ราชบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีบุรี เพชรบุรี ตาก อ่างทอง นครนายก สมุทรสงคราม และสิงห์บุรี อยู่ในพื้นที่ล็อกดาวน์ 1 เดือน จึงได้รับเงินเยียวยา 1 รอบ 5,000 บาท