รัฐตั้งงบช่วย SMEs 3.7 หมื่นล้านบาท หนุนจ้างงาน 3 พันบาทต่อหัว

โอนเงินเยียวยา

กระทรวงแรงงานเร่งประชาสัมพันธ์ โครงการฯช่วย SMEs เผยใกล้ครึ่งทางยังลงทะเบียนไม่ถึงครึ่ง พร้อมย้ำเงินอุดหนุนที่ได้ ไม่คิดภาษีเงินได้

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยกรณีเปิดโครงการให้นายจ้าง/สถานประกอบการภาคเอกชน ขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี (SMEs) ที่อยู่ในระบบประกันสังคม และมีลูกจ้างรวมทุกสาขาไม่เกิน 200 คน ลงทะเบียนร่วมโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs ผ่านเว็บไซต์ ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564 จนถึง 20 พฤศจิกายน 2564

นับตั้งแต่เปิดโครงการถึงปัจจุบัน (วันที่ 3 พฤศจิกายน) มีสถานประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 64,554 ราย หรือร้อยละ 16.36 สามารถรักษาระดับการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทย 1,174,157 คน หรือร้อยละ 29.11 ซึ่งหากเทียบจากเป้าหมายจำนวนสถานประกอบการ 394,703 ราย จำนวนลูกจ้างสัญชาติไทย 4,032,948 คน (ข้อมูลจากสำนักงานประกันสังคม ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2564) พบว่ามีนายจ้างจำนวนมากที่ยังไม่ลงทะเบียนร่วมโครงการ

นายสุชาติกล่าวว่า ได้มอบหมายกรมการจัดหางาน (กกจ.) ประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างสถานประกอบการในพื้นที่รับผิดชอบ ทราบถึงโครงการและขั้นตอนเพื่อลงทะเบียนรับสิทธิแล้ว

“ผมขอย้ำให้นายจ้างหรือสถานประกอบการสบายใจว่า เงินอุดหนุนที่ได้รับจากโครงการฯ ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้วแต่กรณี โดยท่านไม่ต้องนำเงินอุดหนุนดังกล่าวไปคิดเป็นรายได้ หรือนำไปคิดคำนวณเป็นรายจ่ายในการหักภาษี”

โครงการนี้ตั้งใจส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs เพื่อเสริมสภาพคล่องฟื้นฟูกิจการ และสร้างความแข็งแรงในธุรกิจให้ดำเนินกิจการได้ต่อเนื่อง โดยเตรียมเงินอุดหนุนค่าจ้างผู้ประกันตนมาตรา 33 สัญชาติไทยจำนวน 4,032,948 คน เป็นเงิน 36,296,532,000 บาท และเงินส่งเสริมการจ้างงานใหม่ในเดือนที่ 2 และ 3 สูงสุด 201,647 ราย เป็นเงิน 1,209,882,000 บาท รวมงบประมาณที่จะช่วยเหลือธุรกิจ SMEs ทั้งสิ้น 37,506,414,000 บาท ขอเพียงนายจ้างหรือสถานประกอบมีคุณสมบัติครบตามที่กำหนด และปฏิบัติตามเงื่อนไขโครงการฯจะได้รับเงินอุดหนุนฟรี”

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางานรับข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยมอบหมายสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร และสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ แจ้งข้อมูลโครงการฯ และวิธีการรับสิทธิแก่นายจ้างในพื้นที่รับผิดชอบของตนทางโทรศัพท์ เพื่อให้นายจ้างสถานประกอบการไม่พลาดการรับสิทธิ

“เมื่อนายจ้างภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม (ฐานข้อมูลประกันสังคม มาตรา 33 สถานะ active) ได้รับการอนุมัติร่วมโครงการฯ รัฐบาลจะจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่นายจ้างเพื่อรักษาการจ้างงานในอัตรา 3,000 บาทต่อลูกจ้างสัญชาติไทย 1 คนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ในเดือนพฤศจิกายน 2564 – มกราคม 2565

โดยมีเงื่อนไขว่าต้องมีลูกจ้างรวมทุกสาขาไม่เกิน 200 คน ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2564 และนายจ้างจะต้องรักษาระดับการจ้างงานไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ในระหว่างเข้าร่วมโครงการฯ หากไม่สามารถรักษาระดับการจ้างงานให้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 จะไม่ได้รับเงินอุดหนุนในเดือนนั้น

และกรณีนายจ้างมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากยอดการจ้างงาน ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 จะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มตามจำนวนการจ้างงานจริงไม่เกินร้อยละ 5 ทั้งนี้ นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของแต่ละจังหวัดตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฯ”

สำหรับนายจ้าง/สถานประกอบการที่ต้องการร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ ได้ที่เว็บไซต์ ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม – 20 พฤศจิกายน 2564 พร้อมแนบเอกสาร ดังนี้

  1. สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร
  2. กรณีมอบอำนาจแนบหนังสือมอบอำนาจ/สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจ

เจ้าหน้าที่จะแจ้งผลการอนุมัติเข้าร่วมโครงการที่เว็บไซต์ดังกล่าวภายใน 5 วันทำการนับจากวันที่ลงทะเบียน

กรณีที่ไม่สะดวกลงทะเบียนผ่านระบบด้วยตนเองสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694