กลยุทธ์ POSITIVE สร้างคนไทยออยล์ ผลักดันธุรกิจยั่งยืน 100 ปี

ไทยออยล์มุ่งสร้างศักยภาพพนักงาน พร้อมยกระดับการดูแลช่วงโควิด-19 สานต่อธุรกิจด้วยหลัก ESG มุ่งสู่องค์กร 100 ปี

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกลยุทธ์การสร้างคนและพัฒนาองค์กร ให้แข็งแกร่งมาตลอดระยะเวลา 60 ปี รวมถึงปรับการดูแลพนักงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 โดยนายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยออยล์ทำธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ Empowering Human Life Through Sustainable Energy and Chemicals สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน โดยมีธุรกิจหลักคือ การกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิง และต่อยอดไปสู่ธุรกิจปิโตรเคมี น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน การผลิตไฟฟ้า รวมถึงการจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ประเภทสารทำละลาย และการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่

มีวัฒนธรรมองค์กร POSITIVE ที่เน้นการทำงานด้วยคุณลักษณะ 8 ประการ ได้แก่

  1. ทำงานอย่างมืออาชีพ (P – professionalism)
  2. ยึดมั่นในการเป็นเจ้าของและทุ่มเทต่อหน้าที่ความรับผิดชอบ (O – ownership and commitment)
  3. มีความรับผิดชอบต่อสังคม (S – social responsibility)
  4. การทำงานด้วยความซื่อสัตย์ (I – integrity)
  5. การทำงานเป็นทีม (T – teamwork and collaboration)
  6. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ (I – initiative)
  7. การมุ่งมั่นในวิสัยทัศน์ (V – vision focus)
  8. การมุ่งสู่ความเป็นเลิศ (E – excellence striving) ในการปฏิบัติงานในทุก ๆ ด้าน
วิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

“เราเล็งเห็นถึงคุณค่าของพนักงานและให้ความสำคัญในการดูแลคนมาเป็นอันดับหนึ่ง (people first) เพราะคนเป็นขุมพลังหลักในการขับเคลื่อนองค์กร จึงจะเห็นได้ว่าในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 เราได้ยกระดับมาตรการดูแลพนักงานเป็นพิเศษ ด้วยการจัดตั้งศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (I – COVID Center) ที่ทำงานเชิงรุก ครอบคลุม และดำเนินการอย่างเคร่งครัด

เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคในกลุ่มพนักงานในองค์กร และเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของโรค ทั้งในการดำเนินธุรกิจปกติและการก่อสร้างโครงการลงทุนต่าง ๆ รวมถึงการให้พนักงานสามารถ work from home 100% เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงแก่พนักงานทุกคน”

นอกจากนั้น ไทยออยล์ดูแลพนักงานในยุค new normal ด้วยโครงการ 5 สุข ได้แก่ โครงการสุขเงิน – แลกเปลี่ยนสวัสดิการได้ตรงใจด้วยตัวเอง โครงการสุขใจ – ปรึกษาทุกข้อกังวลใจกับนักจิตวิทยาและจิตแพทย์ โครงการสุขกาย – ตัวช่วยในการดูแลสุขภาพของพนักงานแบบอัจฉริยะ โครงการสุขสังคม – สร้างความรู้สึกใกล้ชิดกับพนักงานด้วย digital collaboration platform และโครงการสุขชื่นชม – สนับสนุนการส่งพลังบวกและยกย่องชมเชยเพื่อนร่วมงาน ช่วยยกระดับวัฒนธรรมในองค์กร และเป็นพลังให้พนักงานสามารถสร้างผลงานที่ดีได้มากขึ้น

นายวิรัตนกล่าวด้วยว่า การดูแลบริหารทรัพยากรบุคคลของไทยออยล์นับว่าอยู่ในระดับเดียวกับองค์กรชั้นนำระดับประเทศ เปิดโอกาสในพนักงานสามารถเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพแบบไม่มีที่สิ้นสุดด้วยคอร์สออนไลน์มากกว่า 700 หลักสูตร และระบบการจัดการความรู้ (knowledge management) ที่มีในองค์กรอีกมากกว่า 4000 รายการ

รวมถึงการส่งเสริมเส้นทางอาชีพด้วยการมอบโอกาสและกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนให้แก่พนักงาน รวมทั้งการจ่ายค่าตอบแทนและสวัสดิการที่สูงติดอันดับท็อป 5 ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน จึงนับเป็นอีกหนึ่งองค์กรไทยที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่ ๆ ให้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้น ในมุมของการดำเนินกิจการ ไทยออยล์มุ่งมั่นในการขับเคลื่อนและพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด ESG (สิ่งแวดล้อม environment, สังคม social และบรรษัทภิบาล governance) นำมาสู่การเป็นองค์กรแห่งคุณภาพที่มีความน่าเชื่อถือและสร้างคุณค่าแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพนักงานมาตลอด 60 ปี โดยแบ่งแนวคิดการดำเนินงานออกเป็น 3 มิติที่แตกต่าง ได้แก่

มิติสิ่งแวดล้อม: enhance environment การยกระดับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกับทิศทางของโลก โดยศึกษาแนวทางที่จะมุ่งไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (net zero carbon emission)

มิติสังคม: engage society มีเป้าหมายสร้างความผูกพันเพื่อเติบโตร่วมกันในระยะยาว ด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน ผ่านการสื่อสารเชิงรุก การรับฟังความเห็น การพัฒนาความสัมพันธ์และโครงการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของสังคม โดยเฉพาะด้านสุขอนามัย (healthcare)

มิติบรรษัทภิบาล: ensure good governance เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านบรรษัทภิบาล ผ่านการบูรณาการ GRC ซึ่งเป็นแนวคิดที่รวมองค์ประกอบ 3 ด้านเข้าด้วยกัน ได้แก่

1. governance นโยบาย วัฒนธรรมองค์กร กระบวนการขั้นตอนการปฏิบัติงาน ที่ถูกกำหนดออกมาอย่างชัดเจน 2. risk management การบริหารจัดการความเสี่ยง 3. regulatory compliance การปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ และกฎหมาย โดยเน้นการสร้างสมดุลระหว่างความเข้มงวดของมาตรการควบคุมภายใน และความยืดหยุ่นคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ โดยมีเป้าหมายการปราศจากการฝ่าฝืนกฎหมายและกฎระเบียบขององค์กร

“การขับเคลื่อนธุรกิจและองค์กรภายใต้แนวคิด ESG ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการทำงานในทุกกระบวนการ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเดินหน้าไปสู่เป้าหมายไม่ได้ หากขาดตัวแปรที่สำคัญนั่นคือ พนักงานของไทยออยล์ทุกคน ที่ช่วยผลักดันให้องค์กรเติบโตสู่องค์กร 100 ปี เพื่อเชื่อมโยงคุณค่าสู่สังคม สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและอนาคตของทุกคนไทยทั้งประเทศอย่างยั่งยืน” นายวิรัตน์กล่าวทิ้งท้าย