รัฐบาล ไฟเขียว ให้นายจ้างลงทะเบียนรับเงินช่วยจ่ายค่าแรง หัวละ 3 พัน รอบสอง 21 พฤศจิกายน – 20 ธันวาคม 2564
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้มีการปรับปรุงโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs เพื่อให้การดำเนินโครงการ บรรลุวัตถุประสงค์ รวมทั้งธุรกิจ SMEs สามารถดำเนินการได้ต่อเนื่อง
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
รายละเอียดในการปรับปรุงโครงการ ดังนี้ เงื่อนไขการจ่ายเงินอุดหนุน 1.นายจ้างที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการต้องลงทะเบียนนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคม ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปโดยให้มีผลในงวดเงินสมทบเดือนพฤศจิกายน นี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ นำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ e-Service ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2564
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนวิธีดำเนินงาน มีการเพิ่มช่องทางการลงทะเบียน ทั้งผ่านเว็บไซต์ส่งเสริมการจ้างงาน เอสเอ็มอี.doe.go.th และยื่นแบบฟอร์มพร้อมหลักฐาน ณ สำนักงานจัดหางานหรือหน่วยเคลื่อนที่ของสำนักงานจัดหางาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลลงในระบบแทนนายจ้าง
และขยายระยะเวลาการลงทะเบียน โดยผู้ลงทะเบียนรอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน – 20 ธันวาคม 2564 จะได้รับเงินอุดหนุนตามจำนวนการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทย ไม่เกิน 200 คน ระยะเวลา 2 เดือน (ธันวาคม 2564 และมกราคม 2565) โดยให้อัตรา 3,000 ต่อคน/เดือน ซึ่งนายจ้างต้องรักษาระดับการจ้างงานไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ในการที่จะได้รับเงินอุดหนุน
ปรับปรุงรูปแบบการจ่ายเงินอุดหนุน หลังจากวันที่ 15 ของเดือนถัดไป หากรัฐยังจ่ายเงินอุดหนุนยังไม่ครบถ้วนอีก ให้สามารถจ่ายเงินเพิ่มเติมได้จนกว่าจะครบถ้วนตามสิทธิ์ที่นายจ้างพึงได้รับ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนมาตรการทางภาษี เงินอุดหนุนที่รัฐจ่ายให้นายจ้างจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้วแต่กรณี โดยนายจ้างจะต้องไม่มานำเงินอุดหนุนดังกล่าวไปคำนวณเป็นรายได้และรายจ่ายในการหักภาษี ทั้งนี้ กรมสรรพากรยังได้รับมอบหมายให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับมาตรการภาษี ต่อไป
ผลการดำเนินงานโครงการ ฯ ตั้งแต่ 20 ต.ค.-10 พ.ย. นายจ้างเข้าร่วมโครงการจำนวน 127,613 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 32.34 ของเป้าหมายในจ้าง ลูกจ้างสัญชาติไทย จำนวน 2,062,356 คน คิดเป็นร้อยละ 51.12 ของเป้าหมายลูกจ้างสัญชาติไทย ทั้งนี้ นายจ้างที่ได้รับการอนุมัติแล้ว จำนวน 47,742 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 37.41 ของนายจ้างที่ลงทะเบียน ที่เหลืออยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่อนุมัติเข้าร่วมโครงการ หรืออยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขข้อมูล
ทั้งนี้ ขอให้นายจ้างที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ มั่นใจได้ว่า เงินอุดหนุนจากโครงการ ฯ นายจ้างจะไม่ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น เพราะจะไม่ถูกคำนวนเป็นรายได้หรือรายจ่ายในการหักภาษี