“StartDee” บริษัทพัฒนาเทคโนโลยีด้านการศึกษา (EdTech) มีเป้าหมายในการนำเทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยให้เด็กทุกคนเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพผ่านแอปพลิเคชั่น โดยหลังจากเปิดตัวมา 1 ปีกว่า StartDee มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด มียอดดาวน์โหลดพุ่งสูงกว่า 1.3 ล้านดาวน์โหลด และมีจำนวนสมาชิกเติบโตขึ้นถึง 5 เท่า พร้อมเตรียมเดินหน้าสู่เบอร์ 1 ของแอปพลิเคชั่นเสริมการเรียน
โดยบริษัทวางกลยุทธ์ One for All และ All in One เป็นแกนหลักสำหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการที่ตอบโจทย์นักเรียน ผู้ปกครอง และโรงเรียนอย่างครอบคลุม พร้อมทั้งเดินหน้าพัฒนาเนื้อหาการเรียนการสอน และทีมครูอย่างต่อเนื่อง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
“พริษฐ์ วัชรสินธุ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่าการศึกษาที่ดีต้องมีคุณภาพ ราคาไม่แพง และเข้าถึงง่าย แต่ทางเลือกที่มีอยู่ในไทยในปัจจุบันยังไม่สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ครบถ้วน จึงเกิดความคิดที่จะพัฒนา StartDee มาช่วยปลดล็อกอุปสรรคเหล่านี้
“ทั้งนั้นเทคโนโลยีไม่สามารถแทนที่โรงเรียนโดยสิ้นเชิง เนื่องจากการเรียนการสอนในโรงเรียน และการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ หรือผ่านแอปพลิเคชั่นมีจุดเด่นแตกต่างกัน StartDee มีจุดเด่นในการสร้างการเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล เพราะเด็กแต่ละคนมีความถนัดแตกต่างกัน”
“เราจึงสร้างแอปพลิเคชั่นที่มีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยคัดสรรเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของเด็กแต่ละคน ระดับ ป.1-ม.6 เด็ก ๆ สามารถเข้าถึงเนื้อหาไม่จำกัด ได้ทุกที่ ทุกเวลา ครอบคลุมทุกวิชา วิชาที่จำเป็นทั้งที่ยังไม่บรรจุในหลักสูตร มีการรายงานผลการเรียนรายบุคคล ทั้งเป็นแพลตฟอร์มที่รวมครูเก่ง ๆ มาช่วยดำเนินการสอนผ่าน StartDee ด้วย”
“บริษัทมีครูกว่า 50 คน ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ถึงแม้เราจะมีครูเก่ง ๆ และจำเป็นต้องทำรายได้เพื่อหล่อเลี้ยงบริษัท และเงินเดือนของครูผู้สอน แต่เราพยายามทำให้ราคาของการเรียนผ่าน StartDee ไม่สูงมาก เริ่มต้นเพียง 200-300 บาทต่อเดือน ซึ่งถ้าเทียบกับการเรียนพิเศษในรูปแบบต่าง ๆ ถือว่าถูกกว่า 10-15 เท่า และบางช่วงมีเปิดสอนฟรีด้วย”
“เรายึด 2 กลยุทธ์หลักในการดำเนินงานคือ One for All และ All in One โดยมุ่งมั่นที่จะให้ StartDee เป็นแอปพลิเคชั่นคู่หูการเรียนของนักเรียนทุกคนทั่วประเทศ เปรียบเสมือนแอปพลิเคชั่นการเรียนสามัญประจำบ้านที่ควรมีติดไว้ในมือถือของนักเรียนทุกคน นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการเรียนไม่เข้าใจ หรือเรียนไม่ทัน ยังช่วยเติมเต็มให้นักเรียนเข้าใจทุกบทเรียนที่สงสัยและเพลิดเพลินกับการเรียนรู้”
“พริษฐ์” กล่าวด้วยว่า ทางโรงเรียนสามารถใช้แอปพลิเคชั่น StartDee เป็นตัวช่วยในการส่งเสริมการเรียนอีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ระบบบริหารจัดการเรียนรู้ (learning management system-LMS) กลายมาเป็นส่วนสำคัญในการเตรียมพร้อมสำหรับการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ และในกรณีที่ต้องจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน (blended learning) ในอนาคต
“ในปีหน้าเราจะเปิดตัว English Academy by StartDee คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่เน้นทักษะการสื่อสารทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียน โดยใช้หลักสูตรจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ และมีครูต่างชาติเป็นผู้สอน พร้อมครูไทยที่คอยดูแลควบคู่กัน”
นอกจากนี้ StartDee ยังวางแผนออกบริการใหม่ ๆ ที่รองรับความต้องการของนักเรียนด้านอื่น ๆ โดยคาดว่าจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในปีหน้า
“กษม อิทธิสวัสดิ์พันธุ์” ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด กล่าวเสริมถึงแนวทาง One for All ว่าคือหลักการที่ทำแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์นักเรียน 4 กลุ่ม ได้แก่
หนึ่ง explore นักเรียนที่ต้องการค้นหาหรือทบทวนบทเรียนเฉพาะเรื่อง โดยสามารถใช้ฟีเจอร์ search ได้ทันที ทั้งยังครอบคลุมทุกวิชาหลักทั้งคณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา, ภาษาอังกฤษ, ภาษาไทย และสังคมศึกษา
พร้อมทั้งวิชานอกห้องเรียน เช่น ความรู้ทางการเงิน, ความรู้ด้านสุขภาพจิต, เพศศึกษา และสิทธิเสรีภาพ โดยตลอดปีผ่านมามีการเพิ่มจำนวนคลิปการสอนจากเดิมที่มี 2,000 คลิปเป็น 10,000 คลิป เพิ่มจำนวนแบบฝึกหัดเป็น 40,000 ข้อ และชีตสรุปเป็น 2,000 ชุด
สอง learner นักเรียนที่มีจุดประสงค์ในการเรียนเสริมอย่างต่อเนื่อง สามารถใช้คอร์สเรียนกว่า 400 คอร์สครอบคลุมทุกวิชา เพื่อช่วยให้นักเรียนได้ทำความเข้าใจและเรียนบทเรียนล่วงหน้าได้
สาม achiever นักเรียนที่เตรียมตัวเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย สามารถเรียนเนื้อหาเจาะลึก ทั้งยังมี StartDee Free Exam สนามสอบจำลองฟรีในวิชา GAT/PAT และวิชาสามัญร่วมกับ “พี่ลูกกอล์ฟ” จาก ANGKRIZ และ “พี่ปั้น” จาก SmartMathPro ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากต่อเนื่องทั้ง 2 ปี โดยมีนักเรียนลงทะเบียนสอบรวมกว่า 40,000 คน
สี่ fighter นักเรียนที่ต้องการเรียนเสริม แต่มีอุปสรรคด้านการเงิน มีการมอบทุนการศึกษาในรูปแบบแพ็กเกจการเรียนผ่าน StartDee ฟรี โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เช่น กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
นอกจากนั้น ยังมีการจัดส่ง “กล่องแห่งการเรียนรู้” ประกอบด้วยมือถือ, ซิมอินเทอร์เน็ต, แพ็กเกจการเรียน StartDee ให้กับนักเรียน 6,000 คนที่หลุดออกจากระบบการศึกษาเพราะโควิด-19
“สำหรับแนวทาง All in One คือการตอบสนองทุกความต้องการด้านการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคน ซึ่งมีบริการ StartDee Class สำหรับครู โดยนำระบบบริหารจัดการเรียนรู้ (LMS) ที่ StartDee พัฒนาเข้าไปช่วยคุณครูจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน ด้วยการนำเนื้อหาที่เป็นรูปแบบวิดีโอ, แบบฝึกหัด และสื่อการสอนของ StartDee ไปใช้สอนนักเรียนในห้องอย่างไม่มีข้อจำกัด พร้อมทั้งมอบหมายงาน ตรวจข้อสอบ และวิเคราะห์ผลการเรียน ซึ่งกำลังจะดำเนินการกับ 60 โรงเรียนในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา จ.ระยอง”
“ชนากานต์ วาสะศิริ” ผู้บริหารฝ่ายวิชาการ บริษัท เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่าเนื้อหา และบทเรียนทั้งหมดของ StartDee ถูกออกแบบ และผลิตขึ้นโดยทีมคุณครูของ StartDee ทั้งหมด โดยตอนนี้บริษัทมีครูประมาณ 50 คน มีจุดมุ่งหมายหลักคือการผลิตเนื้อหาสนุก เข้าใจง่าย และครอบคลุมเนื้อหาวิชาครบถ้วนตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในด้านการเรียนสำหรับนักเรียนทุกคน
“การพัฒนาเนื้อหาบทเรียนที่ดีต้องเริ่มจากการพัฒนาบุคลากรคุณครูอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านทักษะวิชาชีพ และศักยภาพการทำงาน โดย StartDee มีการจัดอบรมคุณครูในหลากหลายด้าน เช่น การออกแบบเนื้อหาวิชาการ, เทคนิคการสอนออนไลน์ และการทำ lesson study ในแต่ละทีมวิชา เพื่อถอดบทเรียน และนำมาพัฒนาวิธีการสอนและเนื้อหาบทเรียนให้ดียิ่งขึ้น”
“StartDee มุ่งเน้นสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ สำหรับการเรียนออนไลน์ผ่านการพัฒนาฟีเจอร์ และการใช้งานอยู่ตลอด เพื่อให้เนื้อหามีความน่าสนใจ ทำให้นักเรียนสนุกไปกับการเรียนรู้ อย่าง in-video question เป็นคำถามที่เด้งขึ้นมาระหว่างคลิปเพื่อเช็กความเข้าใจต่อเรื่องนั้น ๆ หรือการสร้างเส้นทางการเรียนรู้หลายเส้นทาง (branching) ที่ขึ้นอยู่กับคำตอบของผู้เรียน โดยจะมีวิดีโอซ่อนในสิ่งที่แสดงขึ้นมาหลังตอบคำถาม เพื่อให้คำแนะนำในการหาข้อมูลเพิ่มเติม และให้เกิดความเข้าใจที่มากขึ้น”
นับว่าตลาด EdTech ยังคงบูมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเรียนออนไลน์ที่จะมีบทบาทสำหรับการจัดการการศึกษาในอนาคตต่อไป
