บิ๊กร็อค 1 สำรวจทักษะแรงงาน ทำฐานข้อมูลพัฒนาการศึกษา-คนในองค์กร

คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ชี้ปัญหาประชากรวัยแรงงานไทยขาดทักษะจำเป็นหลายด้าน จึงลงพื้นที่สำรวจทักษะใน 45 จังหวัด เพื่อทำฐานข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เพื่อประกอบการวางแผนพัฒนาคน

วันที่ 27 ธันวาคม 2564 ดร.ภูมิศรัณย์ ทองเลี่ยมนาค อนุกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา เปิดเผยถึงการเร่งเครื่องผลักดันโครงการวิจัยสำรวจทักษะและความพร้อมของกลุ่มประชากรวัยแรงงานไทย (Adult Skills Assessment in Thailand) ตอบโจทย์เป้าหมายการสนับสนุนทักษะวัยแรงงาน ตามแผนปฏิรูปการศึกษาบิ๊กร็อคที่ 1 (Big Rock 1) ของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา หลังสถิติที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่า ประชากรวัยแรงงานช่วงอายุ 15 -24 ปี มีอัตราการว่างงานกว่าร้อยละ 18.09 สะท้อนปัญหาการขาดทักษะพื้นฐานในด้านต่าง ๆ นอกจากนี้ยังพบว่า ทักษะที่นายจ้างต้องการมากที่สุดในปัจจุบันคือทักษะด้านดิจิทัล

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการลงพื้นที่สำรวจทักษะครอบคลุมทั้งด้านการอ่าน การคำนวณเบื้องต้น ทักษะอารมณ์สังคม รวมถึงลักษณะภูมิหลังของประชากรวัยแรงงานทั่วประเทศ โดยคาดว่าผลการสำรวจที่ได้จะเป็นข้อมูลสำคัญในการกำหนดทิศทางการปฏิรูปการศึกษาของภาคนโยบาย รวมทั้งภาคเอกชนและนักลงทุนในการเข้าถึงข้อมูลสมรรถนะแรงงานที่น่าเชื่อถือและมีมาตรฐาน และสามารถนำไปใช้ประกอบการวางแผนธุรกิจ รวมทั้งการวางแผนฝึกอบรมทักษะความรู้ในด้านต่าง ๆ ของพนักงานหรือลูกจ้างในองค์กรของตนเอง อันนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป

ดร.ภูมิศรัณย์ ทองเลี่ยมนาค

ดร.ภูมิศรัณย์กล่าวว่า หนึ่งในเป้าหมายของการปฏิรูประบบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ คือการที่ประชากรวัยแรงงานมีทักษะพื้นฐานด้านการอ่าน และคณิตศาสตร์ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน สามารถรองรับความเปลี่ยนแปลงและตอบโจทย์การพัฒนาของโลกยุคใหม่

“วัยแรงงานคือกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ให้สามารถก้าวออกจากกับดักรายได้ปานกลางตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติยั่งยืน คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาจึงได้กำหนดกรอบนโยบาย เรื่องการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัย ไปจนถึงการสนับสนุนทักษะของวัยแรงงาน (Big Rock 1)

ด้วยการพัฒนาเครื่องมือการประเมินศักยภาพของประชากรกลุ่มวัยแรงงาน ผ่านการดำเนินโครงการวิจัยสำรวจทักษะและความพร้อมของกลุ่มประชากรวัยแรงงานของประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ธนาคารโลก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสำนักงานสถิติแห่งชาติ”

โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการสำรวจทักษะความพร้อมของกลุ่มประชากรวัยแรงงานแบบรายครัวเรือน ในช่วงอายุ 15 – 64 ปี จำนวนกว่า 9,000 คน ใน 45 จังหวัด ครอบคลุม 6 ภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานผู้ใหญ่ที่มีทักษะต่ำ และบุคคลด้อยโอกาสในตลาดแรงงาน ซึ่งขอบเขตการศึกษาของชุดทดสอบวัดทักษะแรงงานนี้ ประกอบด้วย 3 ด้าน ดังนี้

1. ทักษะด้านการอ่าน การใช้ข้อมูลข่าวสารที่พบจากแหล่งต่าง ๆ

2. ทักษะทางอารมณ์และสังคม ความรู้สึก พฤติกรรม ความรับผิดชอบ

3. ข้อมูลลักษณะภูมิหลังของประชากร ระดับการศึกษา สถานะครอบครัว อาชีพ รวมถึงผลกระทบที่ได้รับจากสถานการณ์โควิด-19

นอกจากนี้ การสำรวจดังกล่าวยังมุ่งศึกษาถึงแนวโน้มความต้องการตลาดแรงงานในอนาคต จากมุมมองด้านทักษะแรงงาน เพื่อศึกษาว่ามีทักษะซึ่งเป็นความจำเป็นที่ตลาดต้องการ โดยการสำรวจลงพื้นที่จริงมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2564 – เดือนมีนาคม 2565

ดร.ภูมิศรัณย์ กล่าวต่อว่า ไทยยังมีประชากรวัยแรงงานอีกจำนวนมากที่ขาดทักษะและความพร้อมในด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลจากการขาดโอกาสและความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา จากรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 3 ปี 2564 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพบว่า อัตราการว่างงานของแรงงานในช่วงอายุ 15-19 ปี มีอัตราการว่างงานสูงสุดร้อยละ 9.74 รองลงมาเป็นอายุ 20-24 ปี ที่ร้อยละ 8.35

สะท้อนให้เห็นถึงปัญหากลุ่มวัยแรงงานที่ไม่ได้รับการพัฒนาทักษะอาชีพตามความถนัด และศักยภาพที่จะพึ่งพาตนเองในการดำรงชีวิต นอกจากนี้ ข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และผลการสำรวจภาคธุรกิจของไทย (WEF, 2020) พบว่า ทักษะที่นายจ้างต้องการมากที่สุดในยุคปัจจุบันคือ ทักษะทางด้านเทคนิคดิจิทัล ซึ่งเป็นผลมาจากดิจิทัลดิสรัปชันในโลกยุคใหม่ เช่น การเขียนและออกแบบ การพัฒนาโปรแกรม การควบคุมการใช้งานเทคโนโลยีต่าง ๆ

ส่วนทักษะสำคัญที่จำเป็นต่อการทำงานในอนาคต ได้แก่

  • ทักษะคิดวิเคราะห์และนวัตกรรม
  • ทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
  • ทักษะการเรียนรู้เชิงรุก
  • ทักษะการคิดวิเคราะห์และคิดเชิงวิพากษ์
  • ทักษะความคิดสร้างสรรค์และการคิดนอกกรอบ

จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่แรงงานไทยต้องได้รับการพัฒนาทักษะให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงนี้

อย่างไรก็ดี โครงการดังกล่าวจะสามารถนำไปเป็นฐานข้อมูลที่ช่วยระบุกลุ่มประชากรวัยแรงงานที่ไม่ได้ทำงานหรือขาดทักษะในด้านต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือให้กลุ่มแรงงานนั้นได้มีโอกาสเข้าสู่ตลาดแรงงานต่อไป


อีกทั้งยังทำให้ประเทศไทยมีผลสำรวจและระบบสารสนเทศด้านทักษะประชากรวัยแรงงานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ช่วยชี้เป้าและสะท้อนทิศทางให้ภาคนโยบายได้มองเห็นถึงปัญหาที่แท้จริงว่า ควรปรับเปลี่ยนการจัดการศึกษาไปในทิศทางใด เพื่อกำหนดกรอบนโยบายในการส่งเสริมและเติมเต็มทักษะพื้นฐานที่จำเป็นของแรงงานทุกช่วงวัย ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบันและอนาคต