โลตัสส์-แม็คโคร-7 Eleven ติดท็อป 5 ผู้นำนโยบายการลดพลาสติก

ร้านค้าปลีก-ค้าส่งเครือซีพี “โลตัสส์-แม็คโคร-7 Eleven” ติดท็อป 5 ผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายการลดพลาสติก จากการประเมินของกรีนพีซ ตอกย้ำเส้นทางสู่ความยั่งยืน

วันที่ 5 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้านค้าปลีก-ค้าส่งในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือเครือซีพี ได้แก่ โลตัสส์ (Lotus’s), แม็คโคร (Makro), เซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven) และซีพี เฟรชมาร์ท (CP Freshmart) ติดอันดับท็อป 5 การจัดอันดับนโยบายพลาสติกของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในประเทศไทยปี 2563 ซึ่งประเมินโดยกรีนพีซ ประเทศไทย เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยโลตัสส์ อันดับ 1 แม็คโคร อันดับ 2 เซเว่นอีเลฟเว่น อันดับ 4 ซีพีเฟรชมาร์ท อันดับ 5

รายงานนี้จัดทำขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อประเมินนโยบายและแนวทางการจัดการพลาสติกของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในประเทศไทยเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยกรีนพีซ ประเทศไทยใช้แบบสำรวจที่ประกอบด้วยเกณฑ์ 4 ด้านหลัก คือ ด้านนโยบาย (policy) ด้านการลดพลาสติก (reduction) ด้านนวัตกรรมและการริเริ่ม (initiatives) และด้านความโปร่งใส (transparency)

ประกอบกับการสืบค้นข้อมูลจากเอกสารอ้างอิงและสื่อสาธารณะ ช่วงเวลาการประเมินคือระหว่างเดือนมิถุนายน 2563-กุมภาพันธ์ 2564 โดยโลตัสส์อยู่ในอันดับ 1 ด้วยคะแนนรวมสูงสุด 29.1% แม็คโคร อันดับ 2 โดยมีคะแนนรวม 21.9% เซเว่นอีเลฟเว่น อันดับ 4 มีคะแนนรวม 15.2% และซีพี เฟรชมาร์ท อันดับ 5 ด้วย คะแนนรวม 13.0%

ที่ผ่านมาเครือซีพีมุ่งมั่นสู่เส้นทางการพัฒนาที่ยั่งยืน และมีนโยบายบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนที่กำหนดทิศทางและกรอบการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการของเสียทั้งจากกระบวนการผลิตและกระบวนการอื่น ๆ ตลอดห่วงโซ่คุณค่า

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมของเครือซีพี ด้วยการส่งเสริมให้ทุกหน่วยธุรกิจ คิดและดำเนินการอย่างมีความรับผิดชอบผ่านยุทธศาสตร์ “5 Rs” ได้แก่

  1. สร้างความตระหนักรู้ เพื่อให้ผู้บริโภคลดการสร้างของเสีย (re-educate)
  2. การลดใช้พลาสติก (reduce)
  3. การรีไซเคิลพลาสติก (recycle)
  4. การใช้วัสดุทดแทน (replace)
  5. การค้นคว้าวิจัยและนวัตกรรม (reinvent)

เครือซีพีตั้งเป้าหมายว่าบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่นำมาใช้นั้นจะต้องสามารถนํากลับมาใช้ซ้ำ (reusable) นํากลับมาใช้ใหม่ (recyclable) หรือสามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ (composable) ได้ 100 % ภายในปี 2568 สำหรับบริษัทในเครือที่ดำเนินการในประเทศไทย และภายในปี 2573 สำหรับบริษัทในเครือที่มีการดำเนินงานในต่างประเทศ