เปิดผลสำรวจ ESG ธุรกิจไทย ปี’64

ESG ความยั่งยืน CSR
CSR TALK
พิพัฒน์ ยอดพฤติการ
สถาบันไทยพัฒน์

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในรอบปีที่ผ่านมา ภาคเอกชนโดยเฉพาะองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ได้นำคำว่า “ESG” (Environmental, Social and Governance) มาใช้สื่อสารกับสาธารณะ ต่อสิ่งที่กิจการมีการดำเนินงานในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลมากขึ้น

จนกลายเป็นคำสามัญที่ใช้แสดงถึงการขับเคลื่อนเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนในบริบทของภาคธุรกิจไปโดยปริยาย

สิ่งที่องค์กรธุรกิจมีร่วมกัน โดยสะท้อนออกมาจากถ้อยแถลงของผู้บริหารระดับสูง และจากคณะกรรมการบริษัทคือเจตนารมณ์ และความมุ่งมั่นในการดำเนินการต่อเรื่อง ESG

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งมีความแตกต่างกัน คือ ขีดความสามารถในการแปลงเจตนา (intention) ให้ไปสู่การกระทำ (action) ตามที่ได้แถลงไว้

การวัดขีดความสามารถในเรื่องดังกล่าวจะประกอบด้วย ส่วนที่เป็นผลการดำเนินงานที่เกี่ยวเนื่องกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG performance กับส่วนที่เป็นการเปิดเผยข้อมูลผลการดำเนินงานนั้น ๆ หรือ ESG disclosure ตามที่เป็นจริง

สิ่งที่มักพบเห็น มีทั้งกรณีปกติคือกิจการได้ดำเนินการตามเจตนารมณ์ และเปิดเผยข้อมูลการดำเนินการดังกล่าว กับกรณีที่กิจการมิได้ดำเนินการ จึงไม่มีการเปิดเผยข้อมูล และกรณีที่ไม่ปกติ

เช่น กิจการมีการดำเนินการในเรื่อง ESG แต่มิได้เปิดเผยข้อมูลตามที่ได้ดำเนินการกับกรณีที่กิจการมิได้ดำเนินการตามที่แถลง แต่มีการเปิดเผยข้อมูลว่าได้ดำเนินการ หรือมีการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง

ผลสำรวจปี’64 มาจากทุก บจ.

ในปี 2564 สถาบันไทยพัฒน์ได้สำรวจข้อมูลความยั่งยืนของกิจการ และหลักทรัพย์จดทะเบียนจำนวน 826 ราย ประกอบด้วย บจ. ในตลาด SET 563 ราย, ในตลาด mai 176 ราย และอื่น ๆ อีก 87 ราย

พบว่าการเปิดเผยข้อมูลซึ่งมีสัดส่วนมากสุดอยู่ที่ด้านสังคม 61.2% ด้านเศรษฐกิจ 22.35% และด้านสิ่งแวดล้อม 16.45% ตามลำดับ

หากวิเคราะห์ข้อมูลกิจการที่สำรวจจำแนกตามกลุ่มอุตสาหกรรมพบว่า กิจการที่ได้คะแนนการดำเนินงาน ESG รวมสูงสุดใน 3 อันดับแรก ได้แก่ กิจการในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร รองลงมาเป็นกิจการในกลุ่มทรัพยากร และกลุ่มธุรกิจการเงิน ตามลำดับ

สำหรับประเด็นความยั่งยืนที่มีการเปิดเผยสูงสุดใน 3 อันดับแรก ได้แก่ ผลเชิงเศรษฐกิจ 88.13%, การจ้างงาน 84.83%, อาชีวอนามัยและความปลอดภัย 62.8%, ส่วนการตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ที่ภาคธุรกิจมีการเปิดเผยสูงสุดใน 3 อันดับแรก ได้แก่ เป้าหมายที่ 5 ความเท่าเทียมทางเพศ, เป้าหมายที่ 8 เศรษฐกิจและการจ้างงาน และเป้าหมายที่ 16 สังคมและความยุติธรรม ตามลำดับ

ไฮไลต์ผลสำรวจ ESG

ผลการสำรวจโดยใช้ประเด็นความยั่งยืนที่อ้างอิงจากมาตรฐาน GRI (Global Reporting Initiative) พบว่า มีเพียง 3.03% ที่มีการรายงานเรื่องข้อปฏิบัติด้านการจัดซื้อจัดจ้าง (procurement practices) และมีมากถึง 84.17% ที่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลในประเด็นมลอากาศ (emissions)

นอกจากนี้ยังพบว่า มีไม่ถึง 7.39% ที่มีการเปิดเผยเรื่องประเมินสิทธิมนุษยชน (human rights assessment)

ขณะที่การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยปัจจัย ESG ที่อ้างอิงตามแนวทาง และชุดตัวชี้วัดของ WFE (World Federation of Exchanges) จากผลสำรวจพบว่ามากถึง 90.6% ไม่มีการรายงานเรื่องงบฯลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ (climate risk mitigation) และมีเพียง 38.79% ที่มีการรายงานเรื่องการไม่เลือกปฏิบัติ (non-discrimination)

และไม่พบว่ามีบริษัทใดที่มีการรายงานเรื่องการจ่ายค่าตอบแทนจูงใจ (incentivized pay) โดยนำผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนมาพิจารณาให้แก่ผู้บริหาร

และเมื่อสำรวจข้อมูลการดำเนินงานที่มีการตอบสนองต่อ SDGs ตามแนวทาง GCI (Guidance on Core Indicators) ที่จัดทำโดย ISAR (International Standards of Accounting and Reporting) พบว่า ยอดการลงทุนสีเขียวของกิจการที่มีการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งตอบสนองต่อ SDGs เป้าที่ 7 (ด้านพลังงาน) มีมูลค่าราว 158,528 ล้านบาท

ขณะที่ยอดการลงทุนชุมชน ซึ่งตอบสนองต่อ SDGs เป้าที่ 17 (ด้านหุ้นส่วนความร่วมมือ) มีมูลค่าราว 8,960 ล้านบาท และไม่มีองค์กรใดเลยที่มีการเปิดเผยข้อมูลชั่วโมงการฝึกอบรมด้านการต้านทุจริต ซึ่งเป็นประเด็นที่ภาคธุรกิจใช้ตอบสนองต่อ SDGs เป้าที่ 16 (ด้านสังคมและความยุติธรรม)


ข้อมูลผลสำรวจข้างต้น สถาบันไทยพัฒน์ได้จัดเวทีรายงาน “ผลการสำรวจข้อมูลความยั่งยืนบริษัทจดทะเบียนไทย ปี 2564” และการเสวนา “ESG Metrics : ตัวชี้วัดธุรกิจวิถียั่งยืน” เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยผู้ที่สนใจสามารถรับชมวีดิทัศน์ย้อนหลัง และดาวน์โหลดเอกสารที่นำเสนอในเวทีทั้งสองช่วง ที่เว็บไซต์ของสถาบันไทยพัฒน์ ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป