คอลัมน์ : ถามมา-ตอบไป สไตล์คอนซัลต์ ผู้เขียน : อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
ความจริงที่น่าใจหายสำหรับธุรกิจที่กำลังปรับตัวเข้าสู่โลกเทคโนโลยีคือความไม่มุ่งมั่นใส่ใจ และความกระตือรือร้นที่มากพอของผู้นำ ในการผลักดันให้เกิดการเรียนรู้ และเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในองค์กร เพื่อรองรับโลกแห่งอนาคต
อันที่จริงภาระในการตระเตรียมคนให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นหน้าที่โดยตรงของผู้นำทุกระดับในองค์กร ขอย้ำคำว่าทุกระดับ เพราะเมื่อพูดถึงผู้นำ คนส่วนใหญ่มักนึกถึงผู้บริหารระดับสูง หรือคนที่เป็นเจ้าของกิจการเท่านั้น แต่ความสำเร็จในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในทุกองค์กร ต้องอาศัยความร่วมไม้ร่วมมือจากคนทุกระดับ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ดังนั้น สิ่งเหล่านี้คือ 5 แนวทางในการผลักดันองค์กรให้ก้าวทันโลกเทคโนโลยีที่กำลังรุกคืบเข้ามาในชีวิตประจำวันของเราอย่างรวดเร็ว
1.มองหาแนวทางใหม่ ๆ และหาทางใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด : ผู้นำต้องเป็นผู้เริ่มต้นจุดประกายให้บุคลากรในองค์กรกระตือรือร้นที่จะแสวงหาความรู้ และเครื่องไม้เครื่องมือใหม่ ๆ ในทางเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการทำงาน และการบริหารภายในให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงที่สุด
2.นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ : แม้เทคโนโลยีจะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานภายในองค์กรได้ก็จริง แต่สำคัญกว่านั้น ผู้นำต้องผลักดันให้บุคลากรในองค์กรรู้จักนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการให้บริการกับลูกค้า หรือผู้มาติดต่อจากภายนอกด้วย เพราะความสำเร็จขององค์กรต้องเกิดจากความสามารถในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า
3.ทำให้องค์กรสามารถดึงดูดคนเก่งมาร่วมงาน : ผู้นำต้องใส่ใจในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้เกิดบรรยากาศในการทำงานที่ดี สามารถรักษาคนเก่ง ๆ ไว้ได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องดึงดูดคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาสู่องค์กรมากขึ้น เพราะคนคือปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จ
4.ปลูกฝังความคิดที่ว่าทุกอย่างเร่งด่วน : เพราะเทคโนโลยีพัฒนาตลอดเวลา ความเร็วในการปรับตัวจึงมีความสำคัญมาก หมดยุคที่ต้องรอให้ทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบแล้วจึงลงมือทำ จากนี้ไปจะเป็นยุคของปลาเร็วกินปลาทุกชนิด “สำนึกแห่งความเร่งด่วน” (sense of urgency) จึงต้องถูกกำหนดให้เป็นวาระสำคัญสำหรับผู้นำในการผลักดันให้เกิดขึ้นในองค์กร
5.ส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ทั่วทั้งองค์กร : ความรู้ความเข้าใจ และการใช้เทคโนโลยี ไม่ควรถูกจำกัดอยู่เฉพาะแผนก IT หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเป็นการเฉพาะเจาะจง แต่ทุกภาคส่วนในองค์กรไล่ตั้งแต่แม่บ้าน คนขับรถ พนักงานส่งของ คนเดินเอกสาร เลขานุการ ขึ้นไปยัน CEO ต้องสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างคล่องแคล่ว และเต็มประสิทธิภาพ
ทั้งหมดนี้คือหน้าที่ของผู้นำที่ต้องผลักดันให้เกิดขึ้น หากทำได้เช่นนี้ก็จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี (technology transformation) อย่างแท้จริง