เปิดเทอม-เปิดชีวิตใหม่

นักเรียน
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติธุรกิจ
ผู้เขียน : สาโรจน์ มณีรัตน์

จู่ ๆ ก็รู้สึกลิงโลดใจเหมือนตัวเองเป็น “นักเรียน” ยังไงก็ไม่รู้ คงอย่างที่ทุกคนทราบกันเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 โรงเรียนทั่วประเทศเปิดเทอมอย่างเป็นทางการ หลังจากที่นักเรียนทุกระดับชั้นต้องเรียนออนไลน์มาตั้งแต่ต้นปี 2563 ถึงวันนี้ก็ผ่านมา 2 ปีกว่าแล้ว

ที่ต้องเรียน สอบ ทำรายงานผ่านโลกออนไลน์ตลอดมา

จนทำให้พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ต้องนั่งเรียนไปกับลูก ๆ หลาน ๆ ด้วย โดยเฉพาะเด็กอนุบาล และประถม ว่ากันว่าตลอด 2 ปีกว่าผ่านมาต่างทำให้ทุกครอบครัวต้องปรับตัวกันอย่างหนัก ไหนจะภาระที่เพิ่มขึ้นจากสมาร์ทโฟน, ไอแพด, แท็บเลต และค่าอินเทอร์เน็ต ไม่นับรวมกับค่าน้ำ ค่าไฟ ที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

ค่าใช้จ่ายอีกสารพัดที่ล้วนสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับหลายครอบครัวมาก โดยเฉพาะบางครอบครัวที่ฐานะค่อนข้างยากจน หรือแม้แต่บางครอบครัวที่ฐานะปานกลางก็ตาม เพราะพ่อ แม่ ผู้ปกครองเองหากินก็ลำบาก ค้าขายก็ไม่ได้ เงินเข้าก็น้อย แต่เงินออกมากกว่า

ขณะที่บางครอบครัวต้อง WFH ทั้งบ้าน จนทำให้สภาพบรรยากาศของบ้านไม่ต่างอะไรกับออฟฟิศ หรือโรงเรียน เพราะมีแต่ความชุลมุนวุ่นวายเต็มไปหมด แต่ถือว่าโชคดี เพราะมีอีกหลายครอบครัวตกงาน ต้องหอบลูกจูงหลานกลับบ้านเกิดที่ต่างจังหวัด เพื่อไปตั้งหลักที่บ้านเกิด ก่อนที่จะคิดทำอะไร ? ต่อไป ?

ตลอดช่วง 2 ปีกว่าผ่านมาที่มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ต่างผจญกับมหันตภัยไวรัสร้าย ผมมีความรู้สึกว่าเป็นช่วงที่ยากลำบากมาก ยิ่งช่วงแรก ๆ ที่มีคนติดเชื้อโรค และค่อย ๆ ทยอยตายกันไปเรื่อย ๆ ภาพหดหู่หลายภาพผุดซ้อนทับกันในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก

ต่างเป็นภาพเดียวกัน

ต่างเป็นภาพแห่งความสิ้นหวัง

และต่างเป็นภาพของการบริหารจัดการของภาครัฐที่ล้มเหลว ขณะเดียวกัน เรา ๆ ท่าน ๆ ก็ได้เห็นภาพแห่งการเอาตัวรอดของมนุษย์ เพื่อจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ ใครจะตายลงอย่างใด ฉันไม่สน ขอให้ฉันรอดเป็นพอ และไม่เฉพาะแต่บ้านเราเท่านั้น หากในต่างประเทศก็เช่นกัน

จนเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย

ทุกอย่างเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ

พ่อ แม่เริ่มจับจ่ายซื้อชุดนักเรียนให้ลูก พร้อมกับรองเท้า ถุงเท้า และกระเป๋านักเรียนใหม่ ผมรู้สึกลิงโลดใจราวกับตัวเองเป็น “นักเรียน” ยังไงไม่รู้ เพราะอยากเจอเพื่อน เจอครู อยากวิ่งเล่นในสนามกับเพื่อน ๆ อยากตะโกนตอบคำถามของครู และอยากหัวเราะเสียงดังไปกับความเฉิ่มของเพื่อนบางคน

แม้แต่อยากร้องเพลงชาติหน้าเสาธงให้ดัง ๆ

ผมว่าบรรยากาศเช่นนี้ คงไม่แต่เด็ก ๆ หรอกที่ชื่นชอบ หากพ่อ แม่ ผู้ปกครอง คงอยากให้กลับมาโดยเร็วเช่นกัน เพราะการเรียนออนไลน์ การอยู่กับครอบครัวพี่น้องที่บ้าน ไม่เหมือนกับธรรมชาติของเด็ก ๆ ตามพัฒนาการตามช่วงวัยที่จะต้องอยู่กับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน

เพราะนอกจากเขาจะได้รับประสบการณ์ตรงในชีวิต

ยังรู้จักเรียนรู้วิธีเอาตัวรอด และวิธีการแก้ปัญหาด้วย แต่อย่างไรเสีย “นักเรียน” ทุกคนต้องพยายามรักษาระยะห่างไว้บ้าง เพราะเชื้อโรคยังไม่ได้หมดไปจากโลกนี้เสียทีเดียว

ดีใจสำหรับการเปิดเทอมครั้งนี้ด้วยครับ “นักเรียน” ทุกคน ?